Kissaten cafes in Tokyo : 5 คาเฟ่ย้อนยุคสุดคลาสสิกในโตเกียว

เสน่ห์อย่างหนึ่งของ โตเกียว คือ ยังคงมี คาเฟ่ย้อนยุค หลงเหลือให้ได้สัมผัส ‘บรรยากาศ’ เมื่อครั้งวันวานอยู่ไม่น้อย หลายแห่งดูขลัง ไม่ใช่แค่สภาพร้านแต่รวมถึงเทคนิควิธีการชงกาแฟ ชา หรืออาหารโฮมเมดที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นรสชาติที่มีเอกลักษณ์น่าไปเยือน 

ภาพ – bit.ly/2AKDdAU

ขอเสนอ 5 คาเฟ่ย้อนยุค ใน โตเกียว ที่คอกาแฟต้องไปโดนด้วยประการทั้งปวง แม้ไม่ใช่คนชอบดื่มกาแฟ ก็ยังอยากให้ลองหาเวลาไปสัมผัสเสน่ห์บรรยากาศคาเฟ่สไตล์นี้ที่ไม่ได้พบเจอบ่อยๆ 

01 Café de l’ambre

             ภาพ – bit.ly/2LM4b1z

ร้านกาแฟ Specialty สุดคลาสสิกใจกลางกินซ่า ก่อตั้งมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1948 หนึ่งในตำนานที่ยังมีชีวิต ร้านยังคงคอนเซ็ปต์ที่หนักแน่นมาจนถึงปัจจุบันที่จะเสิร์ฟแต่กาแฟ ไม่มีขนมปังหรืออาหารอื่นใดทั้งสิ้น ลูกค้าที่มา Café de l’ambre ก็เพื่อลิ้มรสกาแฟเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามจุดประสงค์ของคุณอิชิโระ (Sekiguchi Ichiro) ผู้ก่อตั้งร้านที่ต้องการทำกาแฟที่ดีที่สุด เขาเคยได้รับสมญานามว่าเป็น 1 ใน 3 Coffee Master ในญี่ปุ่น น่าเสียดายที่เขาจากไปแล้วเมื่อต้นปี ค.ศ. 2018 ด้วยอายุ 103 ปี (เดิมอยู่ที่ร้านชงประจำ) หน้าร้านเป็นทางเข้าขนาดเล็กๆ มีเพียงป้ายไฟบอก ถ้าไม่สังเกตก็อาจไม่รู้ ทันทีที่คุณย่างเท้าเข้าไป สัมผัสได้ถึงกลิ่นความเก่าแก่ของร้านที่ขลังไม่น้อย ร้านตกแต่งแบบคลาสสิก เคาน์เตอร์บาร์ที่ทำด้วยไม้ มีที่นั่งราว 22 ที่

เราขอแนะนำให้เลือกที่นั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์เพื่อชมกรรมวิธีการชงอย่างใกล้ชิด สังเกตถ้วยชามภาชนะของร้านที่ทุกใบถูกออกแบบโดยคุณอิชิโระ (ทางร้านมีจำหน่ายด้วยนะ)

บาริสต้ากำลังบรรจงชงกาแฟให้ผมอย่างสุขุม อ่อนโยนแต่หนักแน่น ความนิ่มของมือ ความอ่อนช้อยของทุกการเคลื่อนไหว สายตาและแววตาที่จดจ่ออย่างตั้งใจ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าประสบการณ์นับสิบๆ ปีเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้ 

กาแฟดำเพียวๆ

ไม่แน่ใจว่ากาแฟที่ลิ้มรสเข้าไปอร่อยด้วยตัวมันเองหรือเพราะมีอิทธิพลจากสิ่งต่างๆ มีของเก่าหรือเรื่องเล่าในอดีตเข้ามาเสริม แต่ยืนยันว่ารสชาติกลมกล่อมดีจริงๆ คอนเฟิร์ม!

ภาพ – bit.ly/2pJEruc

อนึ่ง Café de l’Ambre คือร้านเก่าแก่ที่บาริสต้าสะสมประสบการณ์นานหลายสิบปีพร้อมเมล็ดกาแฟคุณภาพจากทั่วโลก ราคาจึงสูงกว่าร้านกาแฟทั่วไปอีกเท่าตัว เริ่มต้นที่ประมาณ 700 เยน แต่ถ้าเทียบกับรสชาติและคุณภาพของเมล็ดกาแฟก็ถือว่าคุ้มค่า และแม้จะเป็นร้านเก่าแก่แต่ทางร้านก็มีเมนูภาษาอังกฤษให้อธิบายรายละเอียดครบถ้วน นักท่องเที่ยวที่กังวลเรื่องภาษาญี่ปุ่นสบายใจได้เลย  

เมนูของร้าน

Info
Hours: 12:00-22:00 น. (วันอาทิตย์ถึง 19:00 น.)
Access: เดินเท้า 350 เมตร จากสถานี Shimbashi Station 
Website: http://www.cafedelambre.com/
Note: สามารถสูบบุหรี่ในร้านได้ 

02 Tsubakiya Coffee

ภาพ – amba.to/2Va5cUj

เรายังอยู่ที่ย่านกินซ่า จากร้านแรกไปกันต่อที่ร้านถัดมาเดินเท้าประมาณ 150 เมตร ก็จะเจอกับหัวมุมถนนซึ่งเป็นที่ตั้งของ Tsubakiya Coffee ตัวร้านตั้งอยู่ชั้น 2 และ 3 (เฉพาะชั้น 2 ที่เป็น Non-Smoking) คาเฟ่นี้ตกแต่งมาในสไตล์สมัยไทโฮของญี่ปุ่น (ค.ศ.1912-1926) ซึ่งเป็นสมัยที่ศิลปะวัฒนธรรมตะวันตกแบบ European Romanticism มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก บรรยากาศและการตกแต่งภายในร้านจึงออกมาแนวยุโรปคลาสสิก ในโทนสีน้ำตาลเข้มคล้ายกับบ้านของขุนนาง

ภาพ – bit.ly/31LOXzc

ภาพ – bit.ly/357KCZ2

กาแฟของ Tsubakiya Coffee ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,000 เยน ถือว่าสูงกว่าปกติ แต่ก็แลกมาด้วยบรรยากาศแบบชาววังย้อนยุค คนไม่ลุกพล่าน และเราสามารถนั่งได้นานแค่ไหนเท่าที่ต้องการ นอกจากกาแฟแล้วยังมีอาหารทานเล่นให้เลือกมากมาย อาทิ สปาเก็ตตี้ แซนด์วิช เค้ก ฯลฯ เหมาะกับการมากันเป็นครอบครัว

ภาพ – bit.ly/357KCZ2

อีกไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ พนักงานเสิร์ฟผู้หญิงจะใส่ยูนิฟอร์มตามแบบแม่บ้านยุโรป (Maid) หลายคนจึงยกให้ Tsubakiya Coffee เป็นเหมือนต้นกำเนิดความนิยม Maid Café ในญี่ปุ่น 

Info
Hours: 10:00-04:30 น. (เสาร์-อาทิตย์ถึง 23:00 น.)
Access: เดินเท้า 350 เมตร จากสถานี Shimbashi Station

03 Satei Hato

ภาพ – bit.ly/30HhmVS

ร้านต่อไปชวนทุกคนนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Shibuya เพื่อไปเจอร้านหนึ่งที่แม้แต่ James Freeman เจ้าของ Blue Bottle Coffee เชนร้านกาแฟพรีเมียมที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว ยังออกปากชื่นชมเองกับตัว เดินเท้าเพียง 50 เมตร ลัดเข้าซอยนิดหน่อย ก็จะเจอกับทางเข้าหน้าร้านดีไซน์หลังคาประตูทรงสามเหลี่ยม (คล้ายหลังคาบ้าน) ถึงแล้วให้เดินขึ้นไปชั้นบน เมื่อเข้ามาแล้วรู้สึกราวกับได้ย้อนไปครั้งอดีตอันหอมหวาน ตกแต่งโดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีทึม ท่ามกลางเพลงบรรเลงคลาสสิกที่ทางร้านเปิด เข้ากับบรรยากาศจริงๆ

ภาพ – bit.ly/2Vgt3lk

ร้านจุได้ประมาณ 40 ที่นั่ง มีเคาน์เตอร์บาร์ยาวเหยียดเป็นศูนย์กลางของร้าน พร้อมฉากหลังเป็นถ้วยชามภาชนะคลาสสิกหลากดีไซน์ แน่นอนว่าคุณต้องนั่งตรงนี้ถ้าอยากชื่นชมเพลงบรรเลงของบาริสต้า ซึ่งบาริสต้าของร้านสวมยูนิฟอร์มเป็นเสื้อเชิ้ตผูกไทด์ดูจริงจังและเท่ในเวลาเดียวกัน   

 ภาพ – bit.ly/2Vgt3lk

โต๊ะทั่วไปก็มีให้นั่งนะ ภาพ – 4sq.com/2AFFuxp

กาแฟของร้านนี้ราคาประมาณ 850 เยนต่อถ้วย เสิร์ฟมาในถ้วยสุดคลาสสิก นอกจากกาแฟแล้วยังมีของทานเล่นให้ทานคู่กันด้วยเช่นกัน

ภาพ – 4sq.com/2AFFuxp

เมนูอังกฤษก็มี หายห่วง! ภาพ – 4sq.com/2AFFuxp

ไม่น่าเชื่อว่าย่านวัยรุ่นแบบชิบูย่า จะยังคงมีคาเฟ่ย้อนยุคสุดคลาสสิกแบบนี้อยู่ อีกทั้งเดินเท้าเพียง 1-2 นาทีจากสถานี ให้ตายสิ ถ้ารู้แล้วมีเหรอจะพลาด 

Info 
Hours: 11:00-23:00 น.
Access: เดินเท้า 51 เมตรจากสถานีชิบูย่า 

04 Kojo

ภาพ – bit.ly/32WB1T4

นั่งรถไฟต่อไปยังอุเอโนะ ย่านสุดป็อปของคนไทย เดินเท้าเพียง 400 เมตร จากสถานีอุเอโนะก็จะเจอกับ Kojo (古城) ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่เงียบๆ ในย่านนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 ชื่อร้านในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ปราสาทเก่า ร้านนี้แฝงตัวอยู่ชั้นใต้ดินจากในซอยเดินลงมาได้เลย ส่วนตัวแล้วชอบทางเดินลงใต้ดินนี้มาก ตกแต่งเหมือนเรากำลังเดินเข้าสู่ดันเจี้ยน*ในเกม
※ดันเจี้ยน (Dungeon) : ระบบหนึ่งในเกม คล้ายกับพื้นที่ลับสำหรับการทำภารกิจเพื่อเก็บเลเวล 

ภาพ – bit.ly/358VKVB

การตกแต่งภายในถือว่าทำออกมาได้ประทับใจโดยเฉพาะในสภาพพื้นที่ที่จำกัดมากแบบนี้ กำแพงหิน พร้อมโคมไฟระย้าประดับตกแต่งชวนให้รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องภายในปราสาทยุโรปเก่า

โคมไฟแชนเดอเรีย ภาพ – bit.ly/32WB1T4

ภาพ – bit.ly/358VKVB

ภาพ – bit.ly/2OjHvqZ

Kojo ไม่ได้เน้นจำหน่ายกาแฟเป็นหลัก ราคาของกาแฟอยู่ที่ประมาณ 600 เยน สูงกว่าสตาบัคส์นิดหน่อย นอกจากกาแฟแล้วยังมีของทานเล่นอื่นๆ อีกเพียบ เช่น แพนเค้ก แฮมชีส เค้ก ชา และเมนูที่อยากแนะนำคือ ช็อกโกแลตร้อนโปะวิปครีมหนาๆ ถือเป็นหนึ่งในทีเด็ดของร้าน (590 เยน)

ภาพ – bit.ly/2OjHvqZ

Hot Chocolate ภาพ – bit.ly/32WB1T4

Info
Hours: 09:00-20:00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
Access: เดินเท้า 270 เมตร จากสถานีอุเอโนะ (Ueno Station)
Note: สามารถสูบบุหรี่ในร้านได้

05 Tricolore

ภาพ – bit.ly/331ASxF

เราพาคุณเริ่มที่กินซ่า นั่งรถไฟไปยังชิบูย่า แวะไปอุเอโนะ และตอนนี้เราขอให้คุณกลับมาปิดท้ายอย่างสวยงามที่ย่านกินซ่า เพื่อมาเจอกับอภิมหาคาเฟ่สุดอลังการ Tricolore เปิดทำการมายาวนานตั้งแต่ ค.ศ. 1936 จากวันแรกที่เสิร์ฟกาแฟหอมกลุ่นและขนมสไตล์ฝรั่งเศส Tricolore ยังคงทำสิ่งที่ตนเชี่ยวชาญมาจนถึงปัจจุบันหน้าร้านประดับด้วยธงชาติฝรั่งเศส ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือคาเฟ่ที่ต้องการมอบกลิ่นอายแบบฝรั่งเศสมาสู่ใจกลางโตเกียว ประตูแบบหมุนคลาสสิกที่มักพบตามโรงแรมคือด่านแรกของ Tricolore ที่คุณต้องฝ่าเข้าไป เพื่อที่จะพบกับบรรยากาศโอ่อ่าด้านใน เพดานทรงสูง โคมไฟระย้า และกระจกรับแสงจากภายนอก ทำให้พื้นที่ในร้านดูมีมิติและกว้างขวางกว่าที่เป็น

ภาพ – bit.ly/2ng1k7z

อีกหนึ่งรายละเอียดหนึ่งที่ต้องชื่นชมคือรูปภาพที่ติดตามกำแพง แต่ละรูปบ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ความเก่าแก่ของคาเฟ่แห่งนี้เมื่อครั้งวันวาน ในเรื่องของราคา กาแฟอยู่ที่ราคาประมาณ 880 เยนต่อถ้วย และมีเมล็ดพันธุ์ดีจากหลากหลายประเทศทั่วโลกให้เลือก พร้อมอาหารทานเล่นกินคู่กาแฟอีกบาน

ภาพ – bit.ly/2AKDdAU

ภาพ – bit.ly/30OvegN

Tricolore ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณจะได้พบกับเหล่าคนมีอันจะกิน หรือใครที่ชอบการตกแต่งร้านสไตล์หรูหราหมาเห่าหน่อยก็สามารถแวะไปจิบกาแฟที่นี่ได้เช่นกัน

Info
Hours: 08:00-20:30 น. (เสาร์-อาทิตย์ ถึง 21:30 น.)
Access: เดินเท้า 230 เมตรจากสถานี Ginza/ Higashi-Ginza Station
Website: http://www.tricolore.co.jp/ginza_trico/

เป็นไงกันบ้างกับ 5 คาเฟ่ย้อนยุค สุดคลาสสิกใน โตเกียว ที่นำมาแนะนำ เชื่อเลยว่ามันจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของคุณเมื่อได้ไปเยือนโตเกียวอย่างแน่นอน คุณค่าอย่างหนึ่งที่ทุกร้านมีเหมือนกันอาจไม่ใช่รสชาติกาแฟหรือบรรยากาศการตกแต่งร้าน แต่คือประวัติศาสตร์ ความเก่าแก่ เรื่องราวเบื้องหลัง ซึ่งเป็นเรื่องที่บางทีต่อให้มีเงินก็ซื้อหรือสร้างไม่ได้ เพราะเวลาเท่านั้นที่มอบให้เราได้