Discover the best places for photography at YAMAGUCHI

ถ้าเอ่ยชื่อยามากุจิ (Yamaguchi) ขึ้นมา เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่า “มีจังหวัดชื่อแบบนี้ด้วยเหรอ” หรือไม่ก็ “นี่เป็นชื่อคนญี่ปุ่นหรือเปล่า” ซึ่งที่จริงแล้วเมืองใหญ่ที่สุดของจังหวัดยามากุจิที่ชื่อว่า เมืองชิโมโนเซกิ (Shimonoseki) นั้นอยู่ใกล้กับเขตฮากาตะ (Hakata) ของจังหวัดฟุกุโอกะมากๆ นั่งรถไฟก็ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ยามากุจิจึงจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นเลิศแบบไปเช้าเย็นกลับจากฟุกุโอกะ หรือจะมาจากฮิโรชิม่าก็ไม่ยาก เพราะอยู่ติดกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ซ้ำใคร

และสำหรับใครที่เตรียมถ่ายรูปจัดเต็มหรืออยากได้รูปเป๊ะๆ ปังๆ ไม่ทั่วไม่เชย ยามากุจิมีจุดถ่ายรูปที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์ไม่ว่าจะวัดวาอาราม ท้องฟ้า ทะเล ภูเขา ฯลฯ ซึ่งเราคัดมาแต่ที่เด็ดๆ ว่าแล้วก็รีบไปเก็บข้อมูลกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง จะได้ไปก่อนคนอื่น

 

01 สะพานซึโนชิมะ (Tsunoshima Bridge)

จุดถ่ายรูป ยามากุจิ (Yamaguchi) - สะพานซึโนชิมะ (Tsunoshima Bridge)

หากลองถามคนญี่ปุ่นว่ามีสะพานใหญ่สะพานใดในญี่ปุ่นที่สวยมากจนควรค่าแก่การเดินทางไปเห็นกับตาสักครั้งในชีวิต รับรองได้ว่ามีหลายคนที่ตอบเลยว่าสะพานซึโนชิมะที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้านโฮโฮกุ (Hohoku) ของเมืองชิโมโนเซกิกับเกาะซึโนชิมะ (Tsunoshima) เพราะนอกจากสะพานที่ทอดยาวเป็นเส้นตรงก่อนบิดโค้งเล็กน้อย ยังจะได้ชมกับน้ำทะเลสีครามที่เข้ากับสะพานเหลือเกิน เรียกได้ว่าเป็นความลงตัวระหว่างธรรมชาติกับสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น

สะพานซึโนชิมะ (Tsunoshima Bridge)ภาพ : japan-web-magazine.com

ความสวยของสะพานนี้การันตีได้จากภาพยนตร์โฆษณารถของญี่ปุ่นที่มักจะเลือกสะพานซึโนชิมะเป็นโลเคชั่นถ่ายทำอยู่เสมอ สำหรับมุมยอดฮิตก็ต้องถ่ายภาพสะพานจากจุดชมวิวฝั่งเกาะฮอนชู แต่เชื่อว่ายังมีมุมสวยๆ อีกมากมายที่ต้องไปค้นพบด้วยตนเอง

Info
สะพานซึโนชิมะ (Tsunoshima Bridge : 角島大橋)
Address : Kanda, Hohoku-cho, Shimonoseki-shi, Yamaguchi-ken
Hours : เปิด 24 ชั่วโมง
Nearest station : สถานีอางาวะ (Agawa Station)
Access : นั่งแท็กซี่จากสถานีอางาวะ (Agawa Station) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

 

02 ศาลเจ้าโมโตโนะสึมิ (Motonosumi Shrine)

จุดถ่ายรูป ยามากุจิ (Yamaguchi) - ศาลเจ้าโมโตโนะสึมิ (Motonosumi Shrine)

ซุ้มประตูโทริอิสีแดงสดที่เรียงตัวกันเป็นขั้นบันไดกว่า 123 ซุ้ม ตัดกับวิวทะเลสีโคบอลต์บลู อีกทั้งหน้าผากับต้นไม้ใบหญ้าที่ล้วนแต่ส่งเสริมให้ทุกองค์ประกอบดูสวยงามลงตัว ทำให้ศาลเจ้าโมโตโนะสึมิ หรือเดิมชื่อศาลเจ้าโมโตโนะสึมิอินาริที่อยู่ภายในเมืองนางาโตะ (Nagato) เคยได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ในสถานที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นโดย CNN อเมริกา ทำให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าชาวญี่ปุ่นเอง

ศาลเจ้าโมโตโนะสึมิ (Motonosumi Shrine)ภาพ : www.chushikokuandtokyo.org

นอกจากนี้ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีความแปลกให้ลองได้สังเกตกันนั่นก็คือ “กล่องโยนเหรียญอธิษฐาน” ซึ่งปกติจะอยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเรา แต่ที่นี่นั้นเอาไปติดไว้บนเสาโทริอิต้นใหญ่สูงกว่า 6 เมตร การจะโยนเหรียญลงกล่องนั้นไม่ใช่งานง่ายเลย ซึ่งชาวยามากุจินิยมมาขอพรให้ค้าขายรุ่งเรือง จับปลาได้เยอะๆ ปลอดภัยจากทุกอุปสรรค เป็นต้น

Info
ศาลเจ้าโมโตโนะสึมิ (Motonosumi Shrine : 元乃隅神社)
Address : 498 Yuyatsuo, Nagato-shi, Yamaguchi-ken
Hours : 5:30-17:30 น.
Entrance Fee : ฟรี
Nearest station : สถานีฮิโตมารุ (Hitomaru Station) และสถานีนางาโตะฟุรุอิจิ (Nagato-Furuichi Station)
Access : นั่งแท็กซี่จากสถานีฮิโตมารุ (Hitomaru Station) หรือสถานีนางาโตะฟุรุอิจิ (Nagato-Furuichi Station) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

 

03 เซนโจจิกิ (Senjojiki)

จุดถ่ายรูป ยามากุจิ (Yamaguchi) - เซนโจจิกิ (Senjojiki)ภาพ : nanavi.jp

จุดถ่ายรูปสวยๆ อีกแห่งอยู่ไม่ห่างจากศาลเจ้าโมโตโนะสึมิ ที่นี่คือเซนโจจิกิ ที่ราบซึ่งสูงจากน้ำทะเลถึง 333 เมตร จากด้านบนนี้จะมองเห็นน้ำทะเลกับท้องฟ้าแบบพาโนรามา ขอเน้นย้ำเลยว่าวันที่อากาศแจ่มใสจะยิ่งสวยสุดๆ เพราะจะมองเห็นเกาะน้อยใหญ่และกังหันลมตัวยักษ์ที่เสริมบรรยากาศสไตล์คันทรีแสนสงบได้อย่างดีเยี่ยม ลมเย็นๆ กับคลื่นที่เซาะชายฝั่งเป็นระลอกดูยังไงก็เพลิน

เซนโจจิกิ (Senjojiki) ยามากุจิภาพ : www.ikyu.com

นอกจากนี้ทิวทัศน์ยังเปลี่ยนไปทุกฤดู ซึ่งสามารถเก็บภาพดอกไม้สายพันธุ์ญี่ปุ่นสวยๆ หลากชนิดไม่ว่าจะเป็นพลับพลึง สึบากิ กุหลาบพันปี ฯลฯ ถ้าไปได้จังหวะอาจจะได้เห็นบรรยากาศที่คนญี่ปุ่นมาตั้งแคมป์หรือมาปิกนิก และถ้าพอมีเวลาแนะนำให้แวะนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน

Info
เซนโจจิกิ (Senjojiki : 千畳敷)
Address : 1138-1 Hekinaka, Nagato-shi, Yamaguchi-ken
Nearest station : สถานีนางาโตะฟุรุอิจิ (Nagato-Furuichi Station)
Access : นั่งแท็กซี่จากสถานีนางาโตะฟุรุอิจิ (Nagato-Furuichi Station) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

 

04 เกาะโอมิ (Omi Island)

จุดถ่ายรูป ยามากุจิ (Yamaguchi) - เกาะโอมิ (Omi Island)ภาพ : jp.zekkeijapan.com

เขยิบมาบนเกาะกันบ้างที่เกาะโอมิที่มีพื้นที่รอบเกาะ 40 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องหินผาขรุขระและโพรงถ้ำมากมายที่สึกกร่อนจากคลื่นที่โหมกระหน่ำ เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตาราวกับเป็นงานศิลปะชิ้นโตทางธรรมชาติที่ผลุบๆ โผล่ๆ ขึ้นมาจากน้ำทะเล

เกาะโอมิ (Omi Island)ภาพ : www.omijimakankoukisen.jp

กิจกรรมที่ได้รับความนิยมที่สุดบนเกาะโอมิก็คือการล่องเรือนำเที่ยวชมหินรูปทรงต่างๆ ที่กระจายตัวใกล้เกาะ ราคาผู้ใหญ่คนละ 2,200 เยน แต่ถ้าใครอยากจะดำน้ำดูปะการังก็มีจุดดำน้ำดีๆ เช่นกัน โดยการไปที่เกาะโอมิไม่จำเป็นต้องนั่งเรือข้ามฟาก เพราะเชื่อมกับเกาะฮอนชูด้วยสะพานโอมิโอบาชิ (Omi Obashi Bridge) ซึ่งสามารถนั่งแท็กซี่หรือเช่ารถขับไปได้

Info
เกาะโอมิ (Omi Island : 青海島)
Address : Nagato-shi, Yamaguchi-ken
Nearest station : สถานีเซนซากิ (Senzaki Station)
Access : นั่งแท็กซี่จากสถานีเซนซากิ (Senzaki Station) ใช้เวลาประมาณ 6 นาที

 

05 ถ้ำอาคิโยชิ (Akiyoshido Cave)

จุดถ่ายรูป ยามากุจิ (Yamaguchi) - ถ้ำอาคิโยชิ (Akiyoshido Cave)ภาพ : www.chushikokuandtokyo.org

เปลี่ยนบรรยากาศมาลอดถ้ำกันบ้างที่ถ้ำอาคิโยชิซึ่งเป็นถ้ำหินปูนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตัวโพรงกว่า 400 โพรงได้เชื่อมต่อกันอยู่ข้างใต้อุทยานแห่งชาติอาคิโยชิ (Akiyoshidai National Park) ในเมืองมิเนะ (Mine) ระหว่างทางเดินก่อนถึงปากถ้ำจะมีลมเย็นโกรกตลอดทางพร้อมกับป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มาก

ถ้ำอาคิโยชิ (Akiyoshido Cave)ภาพ : www.chushikokuandtokyo.org

ภายในถ้ำอากาศจะอยู่ที่ราว 17 องศาตลอดทั้งปี ด้านในลึกกว่า 10 กิโลเมตรแต่มีการทำทางเดินยาวเพียงประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างทางจะได้ชมหินปูนรูปทรงแปลกๆ ที่นิ่งราวกับหยุดเวลาไว้ หนึ่งในนั้นคือแอ่งหินปูนที่เรียงเป็นขั้นบันไดซึ่งเรียกกันว่า เฮียกขุไมซาระ (Hyakkumaisara) หมายถึง จานร้อยใบ

Info
ถ้ำอาคิโยชิ (Akiyoshido Cave : 秋芳洞)
Address : 3506-2 Akiyoshidai Shuhocho Akiyoshi, Mine-shi, Yamaguchi-ken
Hours : มีนาคมถึงพฤศจิกายน 8:30-18:30 น. ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ 8:30-16:30 น.
Holiday : ไม่มี
Entrance Fee : ผู้ใหญ่และนักเรียนชั้นมัธยมปลาย 1,300 เยน, นักเรียนชั้นมัธยมต้น 1,050 เยน, นักเรียนชั้นประถม 700 เยน
Nearest station : สถานีชินยามากุจิ (Shin-Yamaguchi Station)
Access : นั่งรถบัสจากสถานีชินยามากุจิ (Shin-Yamaguchi Station) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที

 

06 บ่อน้ำเบปปุเบนเท็น (Beppu Benten Pond)

จุดถ่ายรูป ยามากุจิ (Yamaguchi) - บ่อน้ำเบปปุเบนเท็น (Beppu Benten Pond)ภาพ : choruyama.com

ถึงคิวบ่อน้ำเบปปุเบนเท็นซึ่งเป็นหนึ่งใน 100 บ่อน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น โดดเด่นเรื่องความใสที่เห็นชัดไปถึงทุกอณูของก้นบ่อ ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้เป็นสีโปร่งใสแต่เป็นสีเขียวมรกตสวยงาม ตั้งอยู่ด้านในศาลเจ้าเบปปุเบนเท็น (Beppu Benten Shrine)

บ่อน้ำเบปปุเบนเท็น (Beppu Benten Pond)ภาพ : 高野 祥

หากสังเกตบริเวณส่วนที่ติดกับลำธารใกล้ๆ จะเห็นตะไคร่น้ำสีแดงซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในน้ำที่ใกล้สูญพันธุ์มากแล้ว สีที่ตัดกันระหว่างสีแดงของตะไคร่กับสีเขียวมรกตของน้ำบริสุทธิ์ทำให้เก็บภาพสวยๆ เพิ่มได้อีกเพียบ นอกจากนี้น้ำในบ่อยังสามารถดื่มได้และยังสามารถนำกลับออกไปได้อีกด้วย

Info
บ่อน้ำเบปปุเบนเท็น (Beppu Benten Pond : 別府弁天池)
Address : Shuhocho Beppu, Mine-shi, Yamaguchi-ken
Hours : เปิด 24 ชั่วโมง
Nearest station : สถานีมิเนะ (Mine Station)
Access : นั่งแท็กซี่จากสถานีมิเนะ (Mine Station) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

 

07 โรงงานชูนัน (Shunan Combine)

จุดถ่ายรูป ยามากุจิ (Yamaguchi) - โรงงานชูนัน (Shunan Combine)ภาพ : Twitter @tomomeishi55

“โรงงาน” โดยทั่วไปคงไม่ใช่สถานที่สำหรับการท่องเที่ยวแน่นอน แต่สำหรับโรงงานชูนันในเมืองชูนัน (Shunan) ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรือนั้นมีวิวกลางคืนที่สวยแปลกตาเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าแสงไฟที่ส่องแสงระยิบระยับบนเครื่องจักรและเตาขนาดใหญ่ก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้นได้ไม่น้อย รับรองว่าเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่เด็ดไม่ซ้ำใคร

โรงงานชูนัน (Shunan Combine)

ด้วยเหตุที่สเกลของตัวโรงงานก็ถือว่าใหญ่ระดับหนึ่ง ดังนั้นมุมที่ช่างถ่ายภาพแนะนำมาจึงมีทั้งแบบเดินไปใกล้ๆ ถ่ายโรงงานให้ดูยิ่งใหญ่ ถ่ายจากบริเวณท่าเรืออีกด้านซึ่งมีน้ำทะเลคั่นกลางอยู่ หรือขึ้นไปถ่ายจากบนภูเขาก็ได้ภาพที่อลังการเช่นกัน ทำให้โรงงานชูนันในยามค่ำคืนเป็นหนึ่งในโรงงานที่ถ่ายรูปสวยที่สุดในญี่ปุ่นเลยด้วย

Info
โรงงานชูนัน (Shunan Combine : 周南コンビナート)
Address : Harumicho, Shunan-shi, Yamaguchi-ken
Nearest station : สถานีโทคุยามะ (Tokuyama Station)
Access : เดินจากสถานีโทคุยามะ (Tokuyama Station) ใช้เวลาประมาณ 12 นาที

 

08 สะพานคินไต (Kintai Bridge)

จุดถ่ายรูป ยามากุจิ (Yamaguchi) - สะพานคินไต (Kintai Bridge)ภาพ : www.hiroshima-kankou.com

ที่เมืองอิวาคุนิ (Iwakuni) มีสะพานคินไตซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งใน 3 สะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยสถาปัตยกรรมแบบทรงโค้งสไตล์เอโดะที่มองเห็นเป็น 5 โค้งติดต่อกันในสะพานเดียว ซึ่งไม่ว่าจะมองจากบนถนน ล่องเรือชมจากด้านล่าง หรือเดินเล่นบริเวณพื้นที่น้ำแห้งขอดก็สวยจนอยากอยู่ดูนานๆ

ที่เที่ยวยามากุจิ - สะพานคินไต (Kintai Bridge)ภาพ : www.hiroshima-kankou.com

ความสวยงามนั้นไม่ได้มีแค่ตัวสะพาน แต่ฤดูทั้ง 4 ของญี่ปุ่นยังส่งเสริมบรรยากาศรอบๆ ให้สวยแตกต่างกันออกไป อย่างฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกซากุระบานเป็นทิวแถว ฤดูร้อนน้ำจะลดจนสามารถเดินบนพื้นแม่น้ำได้ ฤดูใบไม้ร่วงจะมองเห็นใบไม้เปลี่ยนสีที่อยู่บนภูเขารอบๆ ส่วนฤดูหนาวจะเห็นบรรยากาศของหิมะที่ปกคลุมสะพานทรงโค้งจนสวยไปอีกแบบ เรียกได้ว่าไปตอนไหนก็ได้รูปสวยแตกต่างกัน

Info
สะพานคินไต (Kintai Bridge : 錦帯橋)
Address : Iwakuni-shi, Yamaguchi-ken
Hours : เปิด 24 ชั่วโมง ทว่าแต่ละฤดูจะกำหนดเวลาเปิดปิดไฟบริเวณสะพานแตกต่างกัน
Entrance Fee : ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่มัธยมขึ้นไป) 310 เยน, เด็ก 150 เยน (ในช่วงกลางคืนกรณีที่ไม่มีพนักงานเก็บเงิน ให้หยอดเงินใส่กล่องไว้ด้วย)
Nearest station : สถานีคาวานิชิ (Kawanishi Station)
Access : เดินจากสถานีคาวานิชิ (Kawanishi Station) ใช้เวลาประมาณ 17 นาที

 

09 ช่องแคบคัมมง (Kanmon Straits)

ที่เที่ยวยามากุจิ - ช่องแคบคัมมง (Kanmon Straits)

อีกจุดสำคัญที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือช่องแคบที่กั้นระหว่างจังหวัดยามากุจิบนเกาะฮอนชูกับจังหวัดฟุกุโอกะบนเกาะคิวชูนั่นก็คือช่องแคบคัมมงนั่นเอง หากมองจากเมืองชิโมโนเซกิก็จะมองเห็นเมืองโมจิ (Moji) ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม พร้อมกับเรือสำราญมากมายที่เคลื่อนตัวไปมาเหนือน่านน้ำ และจุดที่ไม่ควรพลาดที่จะถ่ายรูปก็คือสะพานคัมมง (Kanmon Bridge)

สะพานคัมมง (Kanmon Bridge)ภาพ : tabi-mag.jp

บริเวณรอบๆ ช่องแคบคัมมงมีสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และแหล่งช็อปปิ้งมากมาย อีกทั้งเป็นจุดจัดงานเทศกาลตามฤดูกาล เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมสเน่ห์ของประเทศญี่ปุ่น รับรองเลยว่าทิวทัศน์บริเวณนี้ถ่ายออกมายังไงก็สวย

Info
ช่องแคบคัมมง (Kanmon Straits : 関門海峡)
Address : 2 Chome Hikoshima Tanokubicho
Nearest station : สถานีชิโมโนเซกิ (Shimonoseki Station)
Access : ลงที่สถานีชิโมโนเซกิ (Shimonoseki Station) จากนั้นสามารถเดินชมรอบๆ ได้

 

10 รถไฟทไวไลท์เอ็กซ์เพรสมิซึคาเสะ (Twilight Express Mizukaze)

จุดถ่ายรูป ยามากุจิ (Yamaguchi) - รถไฟทไวไลท์เอ็กซ์เพรสมิซึคาเสะ (Twilight Express Mizukaze)ภาพ : hagishi.com

ปิดท้ายด้วยการถ่ายรูปกับรถไฟทไวไลท์เอ็กซ์เพรสมิซึคาเสะ (Twilight Express Mizukaze) รถไฟนอนสุดหรูหราที่มีตู้ภัตตาคารสวยๆ ราวกับยกโรงแรมมาไว้บนรถไฟ โดยจะวิ่งในเส้นทางสายหลักซันอิน (San’in Main Line) กับสายหลักซันโย (Sanyo Main Line) ซึ่งวิวที่เห็นจากบานหน้าต่างรถไฟนั้นสวยตะลึงจนแทบถ่ายรูปไม่ทัน

รถไฟทไวไลท์เอ็กซ์เพรสมิซึคาเสะ (Twilight Express Mizukaze)ภาพ : twilightexpress-mizukaze.jpนั่งรถไฟ Twilight Express Mizukaze เที่ยวยามากุจิภาพ : twilightexpress-mizukaze.jp

บริเวณจังหวัดยามากุจิที่รถไฟขบวนนี้วิ่งผ่านนั้นถูกโอบล้อมด้วยทะเลถึง 3 ด้าน จะมีวิวทะเลที่สวยจนคาดไม่ถึงหลายจุด โดยเฉพาะตอนที่กำลังข้ามสะพานโอชิมะ (Oshima Bridge) ซึ่งมีทางสำหรับคนเดินด้วย เพราะฉะนั้นถ้าอยากเก็บภาพตัวเองกับรถไฟที่แล่นฉิว จุดนี้แหละดีมาก อย่างไรก็ตามรถไฟขบวนนี้เอ็กซ์คลูซีฟมาก จะวิ่งเพียงเดือนละ 1-2 วันเท่านั้น โปรดตรวจสอบที่เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

Info
รถไฟทไวไลท์เอ็กซ์เพรสมิซึคาเสะ (Twilight Express Mizukaze : トワイライトエクスプレス瑞風)
Website : twilightexpress-mizukaze.jp

ที่มา gurutabi.gnavi.co.jp

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ