Tobu Railway : ตะลุยเที่ยวสถานที่ปังๆ ตลอดเส้นทางรถไฟสายโทบุ
สารบัญ
Exploring new experiences by TOBU RAILWAY
ได้เวลาตะลุยโทชิกิ ฟุกุชิมะ และไซตามะ จังหวัดใกล้โตเกียวที่น่าไปทุกฤดู ซึ่งมีกิจกรรมหลายอย่างที่จะช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่สามารถทำได้ที่ไทย เรียกได้ว่าใช้วันหยุดได้คุ้มค่าและครบรส ที่สำคัญไปตอนนี้คนไทยก็ยังไม่เยอะ เช็คอินไม่ซ้ำเพื่อนแน่นอน
KIJI จะพาทุกคนนั่งรถไฟและรถบัสของโทบุ (Tobu) โดยมีเส้นทางหลักอยู่ในเมืองนิกโก้ (Nikko) จังหวัดโทชิกิ (Tochigi) ซึ่งสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่มากมายได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว สำหรับสถานที่ที่คัดมานั้นเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย สโลว์ไลฟ์ได้เต็มที่ แถมไม่ต้องเบียดเสียดแบบเมืองใหญ่ จะมีอะไรตรงไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย
01 Tobu World Square
เซลฟี่กับอาณาจักรย่อส่วน
โทบุเวิลด์สแควร์ (Tobu World Square) คือเมืองจำลองในจังหวัดโทชิกิ (Tochigi) ที่จำลองสถาปัตยกรรม ซากโบราณและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกในแบบย่อส่วน 1:25 ภายใต้คอนเซ็ปต์ เชิญชวนให้รักษาวัฒนธรรมทางด้านสถาปัตยกรรมและซากโบราณทั่วโลกเพื่อถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์คุณค่าทางวัฒนธรรมผ่านความประทับใจเมื่อได้ชื่นชมงาน
ภายในมีการจัดแสดงประติมากรรมที่จำลองจากสถาปัตยกรรมแบบย่อส่วน (Miniature) ให้เราเซลฟี่เป็นที่ระลึกมากถึง 102 จุด และเป็นมรดกโลกจำลองจากทั่วทุกมุมโลกถึง 47 จุด แบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่ โซนเอเชีย, โซนญี่ปุ่น, โซนญี่ปุ่นสมัยใหม่, โซนอเมริกา, โซนอียิปต์ และโซนยุโรป
เราสามารถเซลฟี่กับมรดกโลกจากทั่วโลกที่ได้รับการรับรองโดยยูเนสโก (UNESCO) ได้อย่างใกล้ชิด เช่น มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza), หอเอนเมืองปิซ่า (Leaning Tower of Pisa), อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส (Notre-Dame Cathedral), เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ (Westminster Abbey), พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City), วัดโฮริวจิ (Horyu-ji Temple) เป็นต้น
การไปโทบุเวิลด์สแควร์จากเมืองโตเกียวนั้นสะดวกมากๆ เราสามารถเลือกเส้นทางและยานพาหนะได้ตามใจชอบ ถ้าอยากไปถึงไวๆ ขอแนะนำให้ไปที่สถานีอาซากุสะ (Asakusa Station) สายโทบุ (Tobu Line) จากนั้นนั่งรถไฟด่วนพิเศษ (Special Express) ไปลงที่สถานีโทบุเวิลด์สแควร์ราคา 2,700 เยน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
Info
เมืองจำลองโทบุเวิลด์สแควร์ (Tobu World Square : 東武ワールドスクウェア)
Address: 209-1 Kinugawaonsen Ohara, Nikko-shi, Tochigi-ken
Operation Hours: หน้าร้อน (20 มีนาคม-30 พฤศจิกายน) 9:00-17:00 น., หน้าหนาว (1 ธันวาคม-19 มีนาคม) 9:30-16:00 น.
Holiday: ไม่มี
Access: เดินจากสถานี Tobu World Square 1 นาที (200 เมตร)
Ticket Price: 2,800 เยน (ราคาขายหน้าสวนฯ)
Nearest Station: Tobu World Square
Website: www.tobuws.co.jp
02 Nikko Kanaya Hotel
พักผ่อนในบรรยายกาศสไตล์ย้อนยุค
โรงแรมนิกโก้คานายะ (Nikko Kanaya Hotel) เป็นโรงแรมเก่าแก่ที่เปิดกิจการมาตั้งแต่ปีเมจิที่ 6 (ค.ศ. 1873) ด้วยกาลเวลากว่า 130 ปี จึงมีบันทึกลายเซ็นแขกที่มาพักจำนวนมากซึ่งเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1891 เช่น ศาสตราจารย์อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ซึ่งเดินทางมาญี่ปุ่นทันทีหลังจากมีการส่งชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบล หรือ เฮเลน เคลเลอร์ ผู้พิการทางสายตาและการได้ยินซึ่งเดินทางมาญี่ปุ่นในช่วงต้นสมัยโชวะ และได้สร้างความประทับใจให้แก่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากในสมัยนั้น
การเดินทางไปโรงแรมนิกโก้คานายะนั้น หากเดินทางมานิกโก้ด้วยรถไฟของ Tobu ก็จะสะดวกเป็นอย่างมาก เพราะที่สถานีโทบุนิกโก้ (Tobu-nikko Station) มี Shuttle Bus คอยรับส่งจนถึงที่โรงแรมเลย หรือถ้าอยากลองเดินทางแบบผจญภัยเอง ก็สามารถขึ้นรถบัสของ Tobu ได้โดยขึ้นสายที่เขียนว่าไป Okuhoso, Chuzenji Onsen หรือ Yumoto Onsen ประมาณ 5 นาทีลงที่ป้าย Shinkyo แล้วเดินตรงขึ้นเนินด้านซ้ายไปก็จะพบโรงแรม
Info
โรงแรมนิกโก้คานายะ (Nikko Kanaya Hotel)
Address: 1300 Kamihatsuishimachi, Nikko-shi, Tochigi-ken
Access: นั่งรถรับส่งของโรงแรมจาก Tobu-nikko Station ประมาณ 5 นาที
Nearest Station: Tobu-nikko Station
Website: www.kanayahotel.co.jp
03 Chuzenji Kanaya Hotel
แช่ออนเซ็นสุดฟินในโรงแรมสไตล์แคนาดา
โรงแรมชูเซ็นจิคานายะ (Chuzenji Kanaya Hotel) เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์แคนาดาที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการตกปลาแบบ Fly Fishing และแหล่งพักผ่อนชั้นเลิศของญี่ปุ่น
ภายในโรงแรมมีทั้งบ่อน้ำพุร้อนในร่มและกลางแจ้ง แต่อุตส่าห์มาทั้งทีก็อยากให้ลองแช่ออนเซ็นกลางแจ้งโดยเฉพาะยามค่ำคืนที่มองเห็นทะเลดวงดาวเต็มท้องฟ้า ส่วนตอนกลางวันแค่ได้แช่น้ำพุร้อนคุณภาพดีท่ามกลางป่าไม้ที่ร่มเย็นก็ช่วยบำบัดทั้งความเหน็ดเหนื่อยและจิตใจให้รู้สึกผ่อนคลายได้สุดๆ
การเดินไปโรงแรมชูเซ็นจิคานายะนั้นแสนสะดวก แค่นั่งรถไฟไปลงที่สถานีโทบุนิกโก้ (Tobu-nikko Station) ก็สามารถขึ้นรถ Shuttle Bus รับส่งถึงโรงแรมสบายๆ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือสามารถเลือกนั่งรถบัสของ Tobu สายที่ไปยุโมโตะออนเซ็น (Yumoto Onsen) โดยลงที่ป้าย Chuzenji Kanaya Hotel-mae จะพบโรงแรมอยู่ในป่าทางด้านขวา
Info
โรงแรมชูเซ็นจิคานายะ (Chuzenji Kanaya Hotel)
Address: 2482 Chugushi, Nikko-shi, Tochigi-ken
Access: นั่งรถรับส่งของโรงแรมจาก Tobu-nikko Station ประมาณ 1 ชั่วโมง
Nearest Station: Tobu-nikko Station
Website: www.kanayahotel.co.jp
04 Chuzenji Cruise
ล่องเรือหรูท่องทะเลสาบ
กิจกรรมแสนพิเศษที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่ทะเลสาบชูเซ็นจิก็คือการล่องเรือสำราญ Chuzenji Cruise เพื่อเติมเต็มอรรถรสในการชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามของญี่ปุ่นในทุกฤดู ขณะอยู่บนเรือก็จะมองเห็นภูเขานันไต (Mount Nantai) และภูเขาชิราเนะ (Mount Shirane) ที่ดูสง่างาม อีกทั้งต้นไม้เขียวขจีในฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงก็สวยจนน่าประทับใจ ทิวทัศน์เหล่านี้จะเห็นมุมปังๆ ได้ก็ต้องนั่งเรือเท่านั้น
ค่าบริการเพียงคนละ 1,250 เยนก็สามารถล่องเรือ 1 รอบ เวลาประมาณ 55 นาที จาก Ferry Terminal Chuzenji ผ่านสะพานปลาโชบุกาฮามะ (Shobugahama Sanbashi), สะพานปลาทาจิคิคันนง (Tachikikannon Sanbashi) และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ถ้าอยากไปล่องเรือแล้วละก็ให้เริ่มจุดสตาร์ทที่สถานีเจอาร์นิกโก้ (JR Nikko Station) หรือสถานีโทบุนิกโก้ก็ได้ จากนั้นให้ขึ้นรถบัสคันที่ไป Chuzenji Onsen, Kotoku Onsen หรือ Yumoto Onsen โดยถ้าขึ้นคันที่ไป Chuzenji Onsen จะต้องเดินเท้าต่อหรือต้องเปลี่ยนคันเพื่อไปลงที่ Ferry Terminal Chuzenji ส่วนถ้าขึ้นคันที่ไป Kotoku Onsen หรือ Yumoto Onsen จะสามารถนั่งยาวๆ ไปลงที่ Ferry Terminal Chuzenji ได้เลย
Info
ท่าเรือทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Cruise Boat Terminal)
Address: 2478-21 Chugushi, Nikko-shi, Tochigi-ken
Operation Hours: 9:00-17:00 น.
Access: นั่งรถบัสไปลงที่ Ferry Terminal Chuzenji
Ticket Price: ผู้ใหญ่ 1,250 เยน, เด็ก (ต่ำกว่าชั้นประถมศึกษา) 630 เยน
Website: www.chuzenjiko-cruise.com
05 Akechidaira Ropeway
นั่งกระเช้าลอยฟ้าชมวิวสุดอลังการ
อาเคจิไดระโรปเวย์ (Akechidaira Ropeway) เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่สามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของที่ราบสูงอาเคจิไดระ (Akechidaira) ในเมืองนิกโก้ (Nikko) จังหวัดโทชิกิ (Tochigi) ซึ่งระยะทางจากต้นทางไปถึงจุดชมวิวสูงสุดห่างกันเพียง 3 นาที แต่บอกเลยว่าเป็น 3 นาทีที่คุ้มค่ามาก เพราะวิวในแต่ละฤดูไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูหนาวก็สวยจนตะลึง
จุดชมวิวสูงจากพื้นดิน 1,373 เมตร มีทางเท้าที่มุ่งหน้าไปยังฉะโนคิไดระ (Chanokidaira) ซึ่งยาวไปถึงทะเลสาบซูเซ็นจิ สามารถเดินไปได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าเดินย้อนกลับมาจะใช้เวลาแค่ประมาณ 55 นาที ถ้าเดินจากจุดชมวิวประมาณ 20 นาทีจะพบกับเสาไฟฟ้าแรงสูง ตรงนี้แหละคือจุดชมวิวที่อยากแนะนำ ระหว่างทางก็จะพบกับต้นอากะยาชิโอะ (Akayashio) สีชมพูให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย
จากสถานีนิกโก้ทั้งของเจอาร์และโทบุ สามารถนั่งรถบัสของโทบุสายที่ไป Chuzenji Onsen หรือ Yumoto Onsen ประมาณ 40 นาที ลงที่ป้าย Akechidaira ก็จะพบกับทางขึ้นกระเช้าอยู่เบื้องหน้า
Info
อาเคจิไดระโรปเวย์ (Akechidaira Ropeway)
Address: 709-5 Fukazawa Hosoomachi, Nikko-shi, Tochigi-ken
Operation Hours: 9:00-16:00 น.
Access: นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Akechidaira
Ticket Price: ผู้ใหญ่ เที่ยวเดียว 400 เยน ไปกลับ 730 เยน, เด็ก เที่ยวเดียว 200 เยน ไปกลับ 370 เยน
Website: www.nikko-kotsu.co.jp
06 Kanmangafuchi Abyss
สัมผัสความลี้ลับ ณ ทางเดินลึกลับริมธารน้ำ
คันมันกาฟุจิ (Kanmangafuchi) เป็นพื้นที่ที่เกิดจากลาวาที่ปะทุออกมาจากภูเขานันไตในอดีตเย็นตัว จึงมีลักษณะเป็นเกาะแก่งและหินรูปทรงแปลกๆ โดยสิ่งที่น่าสนใจของที่นี่ก็คือรูปปั้นเทพบาเกะจิโซ (Bakejizo) ว่ากันว่าถ้าลองนับจำนวนครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อนับอีกครั้งจะได้จำนวนที่ไม่เท่ากัน ทำให้สรุปกันว่ามีประมาณ 70 องค์ และยังมีผาหินที่มีตำนานว่าพระครูโคโบไดชิ (Kobodaishi) ได้สะบัดพู่กันยักษ์ลงบนหินเป็นอักษรสิทธัมของอินเดียคำว่า Kanman ซึ่งใช้เพียงพู่กันแต่สามารถทำให้หินเป็นรอยสลักอักษรที่ฝังลึกได้ ช่างมหัศจรรย์จริงๆ
ถ้าตัดเรื่องตำนานออกไป รูปปั้นเทพที่รายล้อมด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ก็สวยน่าประทับใจเป็นอย่างมาก และเช่นเดียวกับสถานที่อื่นๆ หากต้องการจะเดินทางมาที่นี่ ให้เริ่มต้นที่สถานีนิกโก้ นั่งรถบัสของ Tobu คันที่ไป Chuzenji Onsen หรือ Yumoto Onsen ประมาณ 6 นาที ลงที่ป้าย Sogokaikanmae จากนั้นเดินเท้าต่อประมาณ 15 นาทีก็จะพบกับทางเดินลี้ลับแห่งนี้
Info
คันมันกาฟุจิ (Kanmangafuchi)
Address: 8-28 Takumicho, Nikko-shi, Tochigi-ken
Access: นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Sogokaikanmae
Website: www.nikko-kankou.org
07 Nikko Strawberry Park
เก็บสตรอว์เบอร์รี ของดีเมืองนิกโก้
ถ้าพูดถึงของดีเมืองนิกโก้ก็ต้องสตรอว์เบอร์รี และถ้าพูดถึงสตรอว์เบอร์รีสายพันธุ์ดีๆ และหาเก็บที่อื่นยาก ก็ต้องที่นิกโก้สตรอว์เบอร์รีพาร์ค (Nikko Strawberry Park) เพราะที่นี่มีสตรอว์เบอร์รีมากถึง 4 สายพันธุ์ ได้แก่ โทจิโอโตเมะ (Tochiotome) สายพันธุ์ชื่อดังของจังหวัดโทชิกิ, สกายเบอร์รี่ (Skyberry) สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด, เบนิฮปเปะ (Benihoppe) และยาโยอิฮิเมะ (Yayoihime) สายพันธุ์ที่กำลังมาแรง แต่ก็ไม่ใช่ว่าไปแล้วจะได้พบกับทั้ง 4 ชนิดในวันเดียว ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ทางสวนจะปลูกด้วย
ฟาร์มสตรอว์เบอร์รีแห่งนี้เน้นปลูกโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เมื่อสตรอว์เบอร์รีเติบโตท่ามกลางอากาศดีๆ ของนิกโก้ยิ่งทำให้สตรอว์เบอร์รีนิกโก้มีรสหวานอร่อยและมีความเปรี้ยวในระดับที่พอดิบพอดี และมีสตรอว์เบอร์รีจำหน่ายบริเวณหน้าสวนด้วย โดยทางสวนจะเปิดให้เข้าไปเก็บสตรอว์เบอร์รีในช่วงต้นเดือนธันวาคมถึงต้นมิถุนายนเท่านั้น โดยจะมีราคาแตกต่างกันดังต่อไปนี้
ช่วงเวลา | ผู้ใหญ่ | เด็ก |
8 ธันวาคม-31 มีนาคม | 1,800 เยน | 1,300 เยน |
1 เมษายน-6 พฤษภาคม | 1,700 เยน | 1,200 เยน |
7 พฤษภาคม-31 พฤษภาคม | 1,600 เยน | 1,100 เยน |
สำหรับวิธีการเดินทาง น่าเสียดายที่ต้องบอกว่าต้องขับรถไปเท่านั้น ฉะนั้นชวนเพื่อนที่มีใบขับขี่สากลไปด้วยละกัน ถ้าขับมาจากทางคินุกาวะออนเซ็น (Kinugawa Onsen) เส้นทางหลวงหมายเลข 461 ขับไปเรื่อยๆ จนมองเห็นสถานีดับเพลิง เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตรจะเห็นนิกโก้สตรอว์เบอร์รีพาร์คอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนถ้าขับมาจากทางนิกโก้อุตสึโนะมิยะ (Nikko Utsunomiya) เส้นทางหลวงหมายเลข 461 ให้ชำเลืองมองหาห้างอิออน สาขาอิมะอิจิ (AEON Imaichi) ที่อยู่ทางซ้ายและขับตามทางไป เมื่อเห็นสถานีดับเพลิงให้เลี้ยวขวาตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตรก็จะพบกับนิกโก้สตรอว์เบอร์รีพาร์คอยู่ทางซ้ายมือ
Info
นิกโก้สตรอว์เบอร์รีพาร์ค (Nikko Strawberry Park)
Address: 3581 Serinuma, Nikko-shi, Tochigi-ken
Operation Hours: พ.-จ. 10:00-16:00 น.
Holiday: วันอังคาร
Access: ต้องขับรถไปเท่านั้น
Ticket Price: ผู้ใหญ่ 1,600-1,800 เยน, เด็ก 1,100-1,300 เยน (ราคาขึ้นอยู่กับช่วงเวลา)
Website: www.nikkoichigo.com
08 SL Taiju
นั่งรถจักรไอน้ำชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
การรถไฟโทบุ (Tobu Railway) ได้เริ่มนำหัวรถจักรไอน้ำมาติดตั้งร่วมกับขบวนรถไฟตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2017 ตั้งชื่อว่า แอสแอลไทจุ (SL Taiju) โดยวิ่งในเส้นทางระหว่างสถานีชิโมะอิมะอิจิ (Shimo-Imaichi Station) กับสถานีคินุกาวะออนเซ็น (Kinugawa Onsen Station) ในเมืองนิกโก้ จังหวัดโทชิกิ ระยะทาง 12.4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
ทิวทัศน์ของนิกโก้ที่มองจากภายในตู้โดยสารนั้นสวยงามเหนือคำบรรยาย อีกทั้งยังมีสินค้าที่ระลึกและไอศกรีมขึ้นชื่อของนิกโก้จำหน่ายในตู้โดยสารด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพนักงานคอยอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง
ถ้าอยากมีประสบการณ์นั่งรถจักรไอน้ำสักครั้งก็จ่ายไม่หนัก ค่าโดยสารผู้ใหญ่เพียงคนละ 750 เยน ส่วนเด็กคนละ 380 เยน โดยนั่งรถไฟอื่นมาที่สถานีชิโมะอิมะอิจิ (Shimo-Imaichi Station) หรือสถานีคินุกาวะออนเซ็น (Kinugawa Onsen Station) ก็ได้
Info
สถานีชิโมะอิมะอิจิ (Shimo-Imaichi Station)
สถานีคินุกาวะออนเซ็น (Kinugawaonsen Station)
แจกฟรี! คูปองแทนเงินสด Starbucks มูลค่า 500 บาท 15 รางวัล! (รวมมูลค่าถึง 7,500 บาท)
NIKKO PLUS ONE DESTINATION CHALLENGE
ข่าวดีสำหรับเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลินี้ หากได้ชมซากุระในวันอากาศดีก็โชคดีสุดๆ แต่ถ้ามีแพลนไปเที่ยวที่นิกโก้ด้วยก็โชคดียิ่งกว่า เพราะเราจะมอบคูปองแทนเงินสด Starbucks มูลค่า 500 บาท ให้แก่ผู้โชคดีจำนวน 15 ท่านที่ไปเที่ยวนิกโก้กันไปเลย สามารถเข้าไปร่วมสนุกได้ที่นี่
*หมดเขตร่วมสนุก 30 เมษายน 2562