Solitary Gourmet ซีรีส์ชวนหิวความสุขง่ายๆ ที่หาได้จากร้านบ้านๆ
Solitary Gourmet ซีรีส์ชวนหิวความสุขง่ายๆ ที่หาได้จากร้านบ้านๆ
ช่วงที่เขียนต้นฉบับนี้ ฉันกำลังสนุกกับซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง Solitary Gourmet ที่นำมาฉายทาง Netflix ค่ะ เป็นเรื่องราวของอิโนะกาชิระ โกโระ (Goro Inogashira) ชายวัยกลางคนที่มีความสุขกับการกินอาหารตามลำพัง และการตามหาร้านอาหารอร่อยเพื่อดับความหิวซึ่งมีโจทย์ในใจแตกต่างไปในแต่ละตอน
ภาพ – asianwiki.com
พล็อตเรื่องแบบนี้ จะว่าไปก็ใช่ว่าจะแปลกใหม่สำหรับปัจจุบัน เพราะใกล้เคียงกับ Samurai Gourmet หรือ Kantaro : The Sweet Tooth Salaryman ที่เคยได้ชมทาง Netflix แต่ความจริงแล้ว Solitary Gourmet นั้นโด่งดังมาก่อน ด้วยออกฉายตั้งแต่ปี 2012 (ตอนนี้มีให้ชมทาง Netflix ถึงแค่ซีซั่น 2) และมังงะซึ่งเป็นที่มาของซีรีส์เรื่องนี้ก็เขียนมาตั้งแต่ปี 1994 สิ่งที่ฉันติดใจ นอกจากการเดินเรื่องที่กระชับ ดูสบายๆ ในวันที่ต้องการผ่อนคลาย ฉันยังชอบร้านอาหารที่ได้รับเลือกมาในแต่ละตอน ร้านส่วนมากเป็นร้านในท้องถิ่นที่ดู “บ้านๆ” หลายร้านดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะถูกยกมาอยู่ในซีรีส์ด้วยซ้ำ และบางทีเมนูอาหารก็สุดแสนจะธรรมดา แต่ฉันคิดว่าสิ่งนั้นเองที่ทำให้เราตกหลุมรักซีรีส์เรื่องนี้เพราะเอาเข้าจริงร้านอาหารบ้านๆ กับเมนูพื้นๆ ที่ตั้งใจทำ ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจมากกว่าการกินอาหารในร้านหรูๆ อีกอย่างเวลาที่เราหิวและสามารถหาเจอร้านอร่อย มันเป็นความรู้สึกที่อดยิ้มกับตัวเองไม่ได้จริงๆ ยิ่งถ้าเป็นการตัดสินใจด้วยตัวเองล้วนๆ ปราศจากความช่วยเหลือจากแอปฯ หรือผู้แนะนำใดๆ ถ้าเป็นฉัน ก็จะยิ่งภูมิใจกับชัยชนะมื้อนั้นมากๆ
ซีซั่น 1 และ 2 ที่ฉันดู ส่วนมากเรื่องราวจะเกิดขึ้นละแวกโตเกียว ดูไปก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า เอ…จะมีตอนไหนที่คุณอิโนะกาชิระจะเข้าไปกินร้านที่ฉันเคยไปบ้างไหมน้า ถ้ามีคงจะฟินน่าดู เพราะจะได้รู้สึกมีส่วนร่วมมากกว่าแค่ดูด้วยตา และแล้วเมื่อดูมาถึงอีพีสุดท้ายของซีซั่น 2 ฝันของฉันก็เป็นจริง
ในอีพีนี้ คุณอิโนะกาชิระลงรถไฟที่สถานีมิตะกะซึ่งฉันเคยไปหนนึง พอออกจากสถานี เขาก็เห็นแผ่นประกาศโฆษณาชวนเที่ยววัดจินไดจิ ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามร่มรื่น แถมข้างๆ วัดยังมีร้านโซบะสดหลายร้านเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งฉันเคยไปและได้กินโซบะสดมาแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่ได้ไปที่นั่น เพราะต้องเจรจาธุรกิจให้เรียบร้อยก่อน (ว้า) แต่ระหว่างทางเดินไปที่นัดหมายงาน เขาก็ได้เจอร้านขายไทยากิขนมไส้ถั่วแดงรูปปลาซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ ด้านในมีที่ให้นั่งกินในร้านได้ และแล้วเขาก็ตัดสินใจแวะที่นี่ ทั้งชื่อสถานี ขนมไทยากิ และบรรยากาศของร้าน ใช่แน่ ไม่ผิดแน่ นี่คือร้านที่ฉันเคยไปมาแล้ว เย่
ร้านนี้ชื่อ Kanmidokoro Takane เพื่อนชาวญี่ปุ่นตั้งใจพามาที่นี่เมื่อรู้ว่าฉันและพวกชอบกินขนมญี่ปุ่นเอามากๆ บรรยากาศในร้านออกแนวอบอุ่น มีกลิ่นอายแบบวินเทจด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม่สวยฉูดฉาดแต่น่าสบาย ร้านนี้ขายไทยากิมาตั้งแต่ปี 1953 นอกจากไทยากิร้อนๆ ทำสดๆ ที่หน้าร้าน ย่างด้วยพิมพ์ไทยากิแบบโบราณ แป้งบางกรอบไส้เต็มๆ ที่ขึ้นชื่อ ร้านยังมีขนมญี่ปุ่นชนิดอื่นด้วย เช่น ดังโงะ ไดฟูกุ โมจิ โอฮางิ อันมิสึ เป็นต้น (วันนั้นฉันสั่งไทยากิกับดังโงะราดซอสโชยุ) โดยเสิร์ฟคู่กับชาเขียว มีชาเขียวคัดมาจากหลายแหล่งปลูกทั่วประเทศให้เลือก สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือภาชนะ ทั้งจานใส่ขนม กาน้ำชา ถ้วยชา แต่ละใบที่เสิร์ฟให้แต่ละคนหน้าตาน่ารักและไม่ซ้ำกันเลย ถึงตัวร้านจะดูบ้านๆ แต่ทั้งรสชาติและบรรยากาศกลับมีเสน่ห์ชวนจดจำ จึงพอให้เชื่อได้ว่าร้านอื่นในซีรีส์นี้ก็คงมีอะไรดีซ่อนอยู่ภายใต้ความธรรมดาเช่นกัน
เมื่อลองเข้าไปดูในแฟนเพจของร้าน Takane พบว่าเขาพิถีพิถันกับการคัดเลือกวัตถุดิบแต่ละอย่างที่นำมาทำขนมมากๆ ไม่ว่าจะเป็นถั่วแดง แป้ง แม้แต่เกลือ แต่ในโพสต์ล่าสุดดูเหมือนทางร้านจะแจ้งว่าช่างฝีมือผู้ทำไทยากิมากว่า 29 ปี ได้ตัดสินใจเกษียณอายุซะแล้ว ทางร้านจึงตัดสินใจเปิดร้านแห่งใหม่ ยังไม่มีรายละเอียดว่าร้านเดิมจะปิดตัวลงเลยหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น เมื่อเราคิดถึงไทยากิแบบโบราณ และบรรยากาศเก่าๆ ของร้านนี้ คงทำได้แค่ย้อนกลับไปหาอีพีสุดท้ายซีซั่น 2 ของ Solitary Gourmet แล้วดูคุณอิโนะกาชิระกินไทยากิกับชาเขียวอย่างเอร็ดอร่อย ไม่สิ ยังมีความทรงจำส่วนตัวของฉันกับช่วงเวลาสั้นๆที่นั่งกินขนมกับเพื่อนๆ ในร้านนั้นด้วย