Kiichi Tsutaya กับสาวน้อยสมัยโชวะในภาพวาดระบายสี
Kiichi Tsutaya ;
ช่วงห้าหกปีที่ผ่านมา สมุดภาพระบายสีสำหรับผู้ใหญ่ (Adult Coloring Book) ได้รับความนิยมอย่างสูงในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกานั้นผลงานของนักวาดภาพประกอบชาวสกอต โจฮันนา บาสฟอร์ด ขายดีระดับหลายล้านเล่มด้วยความนิยมถล่มทลายถึงขนาดนี้ ทำให้สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ถึงกับกำหนดให้ทุกวันที่ 2 สิงหาคม เป็นวันสมุดภาพระบายสีแห่งชาติ (National Coloring Book Day) เลยทีเดียว
ภาพ : shogakukan.tameshiyo.me
สำหรับฉัน “สมุดภาพระบายสี” ทำให้นึกถึงวัยประถมฯ (ราวๆ สามสิบปีที่แล้ว) เพราะการได้ใช้ดินสอสีไม้หรือสีเทียนระบายลงไปบนภาพเส้นขาวดำเป็นหนึ่งในงานอดิเรกยอดฮิตของฉันและเด็กในยุคที่ยังไม่มีโลกออนไลน์ ภาพส่วนใหญ่มาจากการ์ตูนญี่ปุ่นหรือแอนิเมชันที่กำลังแพร่ภาพทางโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นโดราเอมอน เซเลอร์มูน ฯลฯ แต่ดูเหมือนว่าสมุดภาพระบายสีในยุคนี้จะประสบความสำเร็จ เพราะผู้ใหญ่หลายคนพากันบอกต่อทางโซเชียลมีเดียว่ามันช่วยผ่อนคลายความเครียดได้
ภาพ : gensun.org
ความนิยมของสมุดภาพระบายสีสำหรับผู้ใหญ่ในยุคนี้ได้แพร่กระจายมาถึงประเทศญี่ปุ่นด้วย และมีการผลิตออกมาหลายหมวดหมู่ ซึ่งกล่าวกันว่าที่จริงเริ่มมีในญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเมจิ (ค.ศ. 1868-1912) ช่วงที่รัฐบาลเปิดรับวัฒนธรรมจากชาติตะวันตกในหลายๆ ด้าน รวมถึงงานศิลปะ เด็กญี่ปุ่นยุคนั้นจะฝึกวาดลอกลายภาพต่างๆ แล้วก็ลงสี ต่อมาในสมัยไทโช (ค.ศ. 1912-1926) เริ่มมีการผลิตสมุดภาพสำหรับระบายสีออกมาอย่างแพร่หลาย ประกอบกับสีเทียนที่มีขายอย่างกว้างขวาง ก็ทำให้ภาพระบายสีได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วไปด้วย
ภาพ : www.amazon.co.jp
ฉันคิดว่าสมุดภาพระบายสีสำหรับผู้ใหญ่แบบใหม่ๆ ก็สร้างสรรค์ดี แต่จะว่าไปภาพระบายสีแบบเก่าๆ จากยุคก่อนก็ยังมีเสน่ห์ดึงดูดและน่าสนใจไม่แพ้กัน
ภาพ : www.amazon.co.jp
เมื่อหลายปีก่อนฉันมีโอกาสได้ไปชมพิพิธภัณฑ์จัดแสดง (สมุด) ภาพระบายสีในกรุงโตเกียวชื่อ The Nurie Museum (พิพิธภัณฑ์ภาพระบายสี) เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดกะทัดรัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ. 2002 เพื่อแสดงสมุดภาพระบายสีของญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงตุ๊กตากระดาษ โดยเน้นไปที่ผลงานของ สึทายะ คิอิจิ (Kiichi Tsutaya, 1914-2005) ศิลปินสร้างสรรค์รูปภาพระบายสีผู้มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของประเทศ
ภาพ : arakawa102.com
ผลงานของ สึทายะ คิอิจิ (Kiichi Tsutaya) มีเอกลักษณ์พิเศษ เป็นภาพเด็กผู้หญิงร่างป้อม ขาสั้น และมีจุดเด่นอยู่ที่ดวงตากลมโตแป๋วแหววกับปากเล็กจิ้มลิ้ม นอกจากนี้ยังมีความน่ารักคาวาอี้สุดๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วยรายละเอียดของเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เหล่าเด็กหญิงในภาพสวมใส่ รวมถึงกิจกรรมที่พวกเธอทำ เช่น เล่นแต่งตัวตุ๊กตา สวมชุดยูกาตะไปเที่ยวงานเทศกาลฤดูร้อนพลางกินน้ำแข็งไส บ้างแต่งชุดแซนตี้ในช่วงคริสต์มาส หรือภาพที่บ่งบอกถึงความสุขจากการได้เป็นเจ้าสาว เป็นต้น
ภาพ : i0.wp.com
ภาพวาดที่ถูกสื่อสารผ่านลายเส้นของ สึทายะ คิอิจิ เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณลักษณะภายนอก วิถีชีวิต ความใฝ่ฝันหรือภาพอุดมคติของเด็กสาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี นี่อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งด้วยกระมังที่ทำให้ภาพวาดระบายสีในสมัยโชวะของเขา (ค.ศ. 1926-1989) ซึ่งออกวางจำหน่ายระหว่างปี ค.ศ. 1945-1965 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ขายภาพเหล่านี้ได้มากกว่าล้านก๊อปปี้ในแต่ละเดือน (ภาพระบายสีในยุคนั้นขายเป็นแผ่นๆ ไม่ได้เป็นเล่มหรือเป็นสมุดภาพระบายสีแบบในปัจจุบัน)
ภาพ : www.amazon.co.jp
ปี ค.ศ. 1978 Shiseido Gallery ในย่านกินซ่า กรุงโตเกียว ได้จัดแสดงผลงานภาพระบายสีของ สึทายะ คิอิจิ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้ภาพวาดระบายสีเด็กผู้หญิงของเขากลับมาบูมอีกครั้ง หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1985 เขาเริ่มทำงานภาพเพนท์ติ้ง โดยยังคงไว้ที่ธีมสาวน้อยกับงานเทศกาลต่างๆ ของญี่ปุ่นเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือสีสันสดใสคัลเลอร์ฟูลดูสวยงามไปยิ่งกว่าแต่ก่อนเสียอีก
ภาพ : www.amazon.co.jp
เมื่อหยิบภาพเหล่าสาวน้อยของ สึทายะ คิอิจิ ขึ้นมาดู ฉันก็รู้สึกได้ว่าการที่ภาพวาดของเขายังน่ารักไร้กาลเวลาและสร้างความประทับใจได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นเพราะผู้ชมจะสามารถสัมผัสได้ถึงความงามภายในตัวสาวน้อย ความรื่นรมย์ และความมีชีวิตชีวาผ่านภาพชีวิตและขนบธรรมเนียมประเพณีญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแบบฉบับเฉพาะตัวของศิลปินผู้นี้จริงๆ
Info
The Nurie Museum
Open Hours :
· มีนาคม – ตุลาคม : 12:00 – 18:00 น.
· พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ : 11:00 – 17:00 น.
Entrance Fee : เด็ก 100 เยน, ผู้ใหญ่ 500 เยน
Location : 4-11-8, Machiya, Arakawa-ku, Tokyo Japan
Website : www.nurie.jp