อย่าบอกให้ใครรู้ สถานที่ที่ยังไม่ค่อยดังแต่คุณควรจะไปเยือนในญี่ปุ่น
เรารักการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เราตกหลุมรักมันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัสทุกอย่างในประเทศแห่งนี้ อาหาร วัฒนธรรม สถานที่และผู้คน ทุกสิ่งลงตัวซะเหลือเกิน แต่บางทีการไปที่เดิมซ้ำๆ ไปแหล่งท่องเที่ยวตาม
ที่หนังสือท่องเที่ยวแนะนำและทุกคนเคยไปมาแล้ว มันก็ดูแบบไม่สร้างสรรค์และต้องมีเบื่อกันบ้างเป็นธรรมดา วันนี้เราเลยจะมาแนะนำสถานที่ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักในหมู่นักท่องเที่ยว แต่ว่าเหล่านักท่องโลกอย่างเราควรจะไปลองไปสัมผัสและเยี่ยมชม บางทีนี้อาจจะเป็นการเปิดมุมมองและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ดีก็ได้นะ
เริ่มกันที่แรกเลยนะ ใครจะไปเชื่อว่าในประเทศญี่ปุ่นจะมีทะเลทรายแถมมีอูฐให้เรานั่งด้วยนะ โหยน่าสนใจเวอร์ เพียงนั่งรถไฟแค่ 3 ชั่วโมงจากโอซาก้า เราก็จะมาถึงเนินทรายทตโตริ (Tottori) สถานที่ที่คนญี่ปุ่นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี้คือของขวัญจากธรรมชาติ โดยมีลักษณะเป็นเนินทรายสูงใหญ่และกว้างขวางเป็นแนวยาวเลียบไปกับทะเล ราวกับเป็นศิลปะที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาเลยทีเดียว กิจกรรมหลักในหน้าร้อนก็คือการนั่งบนอานอูฐหรือบนเกวียนที่ลากด้วยม้า มองดูธรรมชาติทิวทัศน์ของทะเล เนินทราย เอาหน้าปะทะกับสายลมราวกับเรากำลังท่องเที่ยวอยู่ในดินแดนอาหรับ
แต่เมื่อวันเวลาเปลี่ยนเป็นฤดูหนาว ธรรมชาติก็จะเปลี่ยนจากเนินทรายสุดลูกหูลูกตากลายเป็นเนินหิมะ
ขาวโพลน ยามเมื่อสีขาวบริสุทธิ์ของหิมะตัดกับเส้นขอบฟ้าและสีน้ำทะเลมันช่างสวยจับใจซะเหลือเกิน บรรยากาศของที่นี่ในหน้าหนาวจึงเหมาะแก่การใส่เสื้อกันหนาวเก๋ๆ ยืนโพสต์ท่าถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นรูปเดี่ยวหรือการถ่ายร่วมกับเพื่อนก็เหมาะมากๆ เลยครับ
ใครเบื่อการไปเล่นกับแมวที่คาเฟ่แมว หรือการไปดูกวางที่เมืองนาราแล้วบ้าง? ยกมือขึ้นเลย เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ที่เต็มไปด้วยเจ้าสุนัขจิ้งจอกแสนน่ารัก นั่นก็คือ หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกสะโอ (Zao Fox Village) โดยที่นี้เป็นสถานที่เลี้ยงสัตว์ ซึ่งจะเน้นสุนัขจิ้งจอกเป็นหลัก โดยมีสุนัขจิ้งจอกถึง 6 สายพันธุ์ รวมถึงยังมีสัตว์ชนิดอื่นอีกกว่า 100 ชีวิต ซึ่งเปิดพื้นที่ให้พวกเราเข้าไปเล่น ลูบหัว คลุกคลีกับพวกมันได้อย่างใกล้ชิด โดยเสียค่าผ่านประตูแค่ 1,000 เยน เท่านั้นเอง เราก็จะได้เข้าไปเล่นกับสุนัขจิ้งจอกที่น่ารักและ
น่าเอ็นดูมากๆ เลย ส่วนการเดินทางไปก็แสนง่าย แค่เรานั่งรถไฟ สาย JR Tohoku Shinkansen ลงสถานีชิโระอิชิสะโอ (Shiroishizaou Station) จากนั้นก็นั่งแท็กซี่ต่ออีกประมาณ 20 นาที ก็จะมาถึงหน้าหมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแล้ว ง่ายมากๆ เลย
ไปญี่ปุ่นทั้งทีจะไปกินไปดื่มเบียร์ในบรรยากาศเดิมๆ มันก็จะดูไม่คูลไม่แตกต่าง วันนี้เราเลยชวนไปดื่มเบียร์ในบรรยากาศขุนเขา ที่นี่เลย ลานเบียร์ภูเขาทะกะโอะ (Mt.Takao) สถานที่นี้เราต้องนั่งรถไฟต่อด้วยการเดินบุกป่าฝ่าดงขึ้นเขา เพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางบนยอดเขา สัมผัสบรรยากาศการดื่มกินเบียร์และอาหารแบบไม่อั้นด้วย พร้อมชมวิวภูเขาและร่วมพูดคุยท่ามกลางสายลมเย็นๆ ชิลมากๆ บอกเลยบรรยากาศแบบนี้ต้องลองด้วยตัวเองเท่านั้น แต่ถ้ามีโอกาสได้ไปแล้วก็อย่าดื่มหนักมากนะ เดี๋ยวจะลงจากเขากันไม่ไหวซะก่อน
สถานที่สุดท้ายเราจะพาทุกท่านไปเดินและสำรวจผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางด้านระบบนิเวศและพืชพันธุ์ท้องถิ่นที่หายากมากมาย ที่เกาะยะกุชิมะ นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นท้องถิ่นทุกคนที่เคยได้ไปเยี่ยมเยือนเกาะแห่งนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ความลึกลับและความสวยงามของป่าอันเงียบสงบที่ปกคลุมไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด ที่กระจัดกระจายไปทั่วและสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ที่นี้ คือเสน่ห์ที่แท้จริงของสถานที่แห่งนี้ โดยในปัจจุบัน เกาะยะกุชิมะได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สวยงามน่าไปเยือนจริงๆ