IYA VALLEY:
THE SECRET PLACE OF JAPAN!
“หุบเขาอิยะ” ดินแดนลึกลับที่รอการค้นพบ

หลายร้อยปีก่อน ญี่ปุ่นเกิดสงครามแย่งชิงอำนาจการปกครอง ระหว่างตระกูลไทระ (Taira) และตระกูลมินะโมะโตะ (Minamoto) ตระกูลไทระซึ่งเคยยิ่งใหญ่ต้องพ่ายแพ้ ผู้คนและกลุ่มซามูไรหลบหนีกระจายตัวทั้งขึ้นเขาลงทะเล มาตั้งรกรากใหม่ทางด้านตะวันตกของญี่ปุ่น หนึ่งในพื้นที่การหลบหนีที่สำคัญคือหุบเขาอิยะ (Iya Valley) ในจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) พื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำไหลผ่าน และอยู่ใจกลางเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นป้อมปราการทางธรรมชาติบนเกาะชิโกกุ (Shikoku)

 

 

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน หุบเขาอิยะที่ห่างไกลจากตัวเมืองยังคงหลงเหลือร่องรอยจากอดีตให้เราได้เห็นผ่านสถาปัตยกรรมดั้งเดิมอย่าง “คะยะบุกิ” (Kayabuki) บ้านสไตล์โบราณของญี่ปุ่นที่เหลือเพียงไม่กี่หลังเท่านั้น ชาวบ้านที่นี่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย สงบสุข และมีทิวทัศน์ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เป็นวนอุทยานที่สำคัญของญี่ปุ่น

ความสวยงามของแม่น้ำอิยะที่ตัดผ่านหุบเขา ขนาบข้างด้วยภูเขาสูงและป่าทึบ มีหมู่บ้านกระจายตัวอยู่ตามเนินเขา เป็นทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาในทุกฤดู แต่กลับเป็นดินแดนลึกลับที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ไม่ค่อยรู้จัก ฉันจึงขออาสาพาผู้อ่านมาสัมผัสกับวิถีชีวิตท้องถิ่น สถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่น่าตื่นเต้นในหุบเขาลึก และบ้านคะยะบุกิที่เปิดให้เข้าพักอย่างสะดวกสบาย ล้อมรอบด้วยบรรยากาศหิมะขาวโพลน เป็นเสน่ห์ของฤดูหนาวอีกแบบหนึ่งที่หาชมได้ยาก

 

เชิญชมความงามและสถานที่สวยๆ ได้เลยค่ะ!

HIDDEN VALLEY

บรรยากาศลึกลับ แสนสวยงาม กลางหุบเขา

 

 

บางคนที่เคยไป “หุบเขาอิยะ” กล่าวขานกันว่าที่นี่คือทิเบตของญี่ปุ่น บ้างก็ว่าเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง แต่ฉันชอบตอนที่ภูเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอย่างนี้มากกว่า ฉันออกเดินทางจากตัวเมืองทะคะมัตสึ (Takamatsu) ด้วยการเช่ารถยนต์ ซึ่งอยู่ในจังหวัดคางาวะ (Kagawa) ด้านล่างแม้จะมีอากาศหนาว แต่ก็ไม่มีหิมะให้เห็นสักเกล็ดเลย แต่พอขึ้นเขาไปไม่เท่าไรกลับเจอหิมะตลอดทาง จากที่ค่อยๆ ตกบางเบาก็เริ่มตกหนัก เดินทางผ่านไป 3 ชั่วโมง เมื่อถึงบนยอดเขาทุกอย่างก็กลายเป็นสีขาวราวกับถูกโรยด้วยไอซิงหนาๆ การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศอย่างฉับพลันในเวลาไม่กี่ชั่วโมงทำให้ฉันทั้งประทับใจและประหลาดใจมาก จนเหมือนกับเราได้หลุดมาในอีกมิติหนึ่ง ที่ซึ่งเวลาถูกทำให้ช้าลงและย้อนกลับไปอยู่ในยุคอดีต

 

TOUGENKYO-IYA MOUTAIN VILLAGE
นอนอิงหิมะ ในบ้านคะยะบุกิ

 

 

บ้านไม้สไตล์ “คะยะบุกิ” ที่มองดูเหมือนกระท่อมหลังนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านโอะชิไอ (Ochiai) มีลักษณะเด่นคือเป็นอาคารชั้นเดียวที่มีโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ หลังคาทำจากฟางมีอายุกว่า 100 ปี ก่อนจะถูกรีโนเวตให้เป็นที่พักสมัยใหม่ ภายในแข็งแรง อบอุ่น อยู่สบาย เหมาะสำหรับการพักผ่อน โดยมีคอนเซ็ปต์ว่าเป็นที่พักแอบอิงธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยวิถีชุมชนดั้งเดิม และเป็นจุดชมวิวชั้นเลิศ

 

 

Tougenkyo-Iya Mountain Village รีโนเวตโดยนักเขียนชาวอเมริกัน อเล็กซ์ เคอร์ (Alex Kerr) ผู้หลงใหลในความเป็นญี่ปุ่นจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยของญี่ปุ่น บ้านพักในโครงการของเขามีทั้งหมด 8 หลัง แต่ละหลังมีชื่อไม่เหมือนกัน กระจายตัวอยู่ทั่วหมู่บ้าน แม้ภายนอกจะดูคล้ายกระท่อมโบราณที่อนุรักษ์ไว้ แต่เมื่อเข้าไปด้านในกลับมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่ครัวขนาดใหญ่ ห้องนอนอบอุ่น ห้องน้ำกว้างขวางพร้อมอุปกรณ์อาบน้ำ ยูกาตะ สลิปเปอร์ ไปจนถึงเครื่องซักผ้าเหมือนโรงแรมดีๆ ทุกอย่าง บ้านแต่ละหลังสามารถเข้าพักได้ 3-8 คนแล้วแต่ขนาดของบ้าน

 

 

บ้านที่ฉันเข้าพักชื่อว่า Tanzan จุดเด่นคือ มีชั้นลอยใต้หลังคากลางบ้าน เป็นจุดนั่งเล่นที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่อยู่ไม่น้อย ผู้ดูแลที่พักเล่าให้ฟังว่า หากเดินทางมาในช่วงฤดูเพาะปลูกเราจะได้เห็นชาวบ้านออกมาทำการเกษตรในหุบเขา อีกทั้งยังสามารถฝากท้องไว้กับคุณแม่ญี่ปุ่นแถวนั้นมาทำอาหารให้กินได้อีกด้วย ที่นี่จึงเหมาะมากสำหรับฝังตัวพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ ซึมซับวิถีชีวิตเรียบง่าย และเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นของญี่ปุ่น

 

 

Info:
Address: 403 Ochiai, Higashi-Iya, Miyoshi, Tokushima
Website: tougenkyo-iya.jp

 

IYA NO KAZURABASHI
สะพานไม้หลังสงคราม

 

IYA NO KAZURABASHI, Iya, Tokushima

 

ช่วงปี ค.ศ. 1180 เกิดสงครามแย่งชิงอำนาจระหว่าง 2 ตระกูลใหญ่ในญี่ปุ่น ได้แก่ ตระกูลไทระและตระกูลมินะโมะโตะ ชื่อว่าสงครามเก็มเป การต่อสู้ยาวนานเริ่มต้นในเกียวโต จนฝั่งไทระต้องถอยร่นลงมาทางตะวันตก ถึงกาลพ่ายแพ้และสูญสิ้นอำนาจ ในปี ค.ศ. 1185 ผู้คนและซามูไรส่วนหนึ่งของตระกูลไทระได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานในหุบเขาอิยะแห่งนี้ พวกเขาช่วยกันสร้างสะพานไม้เถาวัลย์ขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นทางสัญจรข้ามแม่น้ำอิยะ ว่ากันว่าที่สร้างด้วยไม้และเถาวัลย์เพราะเมื่อมีศัตรูติดตามมาก็จะได้ตัดสะพานไม้ทิ้งได้เลย

 

 

สะพานนี้มีชื่อเสียงเรื่องดีไซน์ดั้งเดิมที่น่าหวาดเสียว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเป็นจำนวนมาก ทางญี่ปุ่นได้อนุรักษ์สะพานนี้ให้มีโครงสร้างเหมือนเดิมที่สุด โดยพื้นทำจากท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่วางเว้นระยะห่างกันจนมีช่องว่างขนาดใหญ่พอให้เท้าหลุดลงไปได้ สามารถมองเห็นแม่น้ำด้านล่าง และมีราวสะพานเถาวัลย์เส้นใหญ่พันเกี่ยวกันไปมา เวลาเดินสะพานจึงโยกและสั่นสะเทือนตามจังหวะการเดิน แต่ไม่ต้องกลัวอันตราย เพราะที่นี่เขาซ่อมใหม่ทุกๆ 3 ปี และได้เสริมสายเคเบิลเพิ่มความแข็งแรงเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

Info:
Address: 162-2 Zentoku, Nishi-iya, Miyoshi, Tokushima
Price: ผู้ใหญ่ 550 เยน, เด็ก 350 เยน

 

OKU-IYA NIJU KAZURABASHI
จาก 13 สะพานไม้ เหลือเพียง 3 แห่ง

 

 

สะพานไม้แห่งนี้ตั้งอยู่ในอิยะฝั่งตะวันออก อยู่ห่างจากสะพาน Iya no Kazurabashi ราวๆ 1 ชั่วโมง สะพานนี้มีลักษณะเหมือนกับสะพานที่แล้วไม่มีผิด ต่างกันแค่มีขนาดเล็กกว่าหน่อย และเงียบสงบกว่ามาก เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก สามารถเดินลงไปบนสะพานเพื่อทดสอบความหวาดเสียวแบบไม่ต้องเบียดกัน อีกทั้งยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติรอบๆ ที่มีทิวทัศน์สวยงามด้วย

ในอดีต บริเวณอิยะตะวันออกมีสะพานไม้คะสุระ (Kazura) มากถึง 13 แห่ง เพื่อใช้ในการเดินทางสัญจรข้ามแม่น้ำระหว่างภูเขาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถบนี้ แต่ปัจจุบันสะพานในบริเวณนี้เหลือเพียงแค่ 3 สะพานเท่านั้น คือสะพาน Iya no Kazurabashi ที่แนะนำไปในตอนแรก และสะพาน Oku-Iya Niju Kazurabashi แห่งนี้ ที่มี 2 สะพานคู่กัน คือ สะพานผู้หญิงและสะพานผู้ชาย และที่นี่ยังมีสะพานชักรอก ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่าสะพานลิง มีลักษณะเป็นกระเช้าไม้ให้ขึ้นไปนั่งและชักรอกด้วยมือเพื่อข้ามฝั่ง ลอยเคว้งคว้างบนอากาศ มีแม่น้ำอยู่ด้านล่าง เป็นความหวาดเสียวอีกแบบหนึ่งที่น่าลอง

Info:
Address: 620 Sugeoi, Higashi-iya, Miyoshi, Tokushima
Website: ผู้ใหญ่ 550 เยน, เด็ก 350 เยน (ปิดทำการวันที่ 1 ธ.ค. ถึง 31 มี.ค.)

 

IYA BIJIN
โซบะเส้นนุ่มสูตรท้องถิ่น

 

 

ร้านโซบะอิยะบิจิน (Iya Bijin) เป็นร้านโซบะรสชาติท้องถิ่นสุดกลมกล่อม และมีวิวหุบเขาสวยงามจนทำให้อาหารอร่อยมากขึ้นไปอีก

 

 

แค่ชื่อเมนูของที่นี่ก็สร้างความอยากรู้อยากเห็นอยากลิ้มลองแล้ว มีตั้งแต่โซบะไก่ฟ้า โซบะหมูป่า (ที่อยู่ตามธรรมชาติไม่ใช่หมู่ป่าที่เลี้ยงในฟาร์ม) โซบะเต้าหู้ทอดเมนูอร่อยเด็ดที่ฉันขอแนะนำ โดยทุกเมนูโซบะจะใช้เส้นโซบะหนานุ่มสไตล์ชนบท ที่หากินยากตามเมืองใหญ่ๆ และเน้นวัตถุดิบตามธรรมชาติทั้งสัตว์และพืชผักที่อยู่ในบริเวณนี้ อีกทั้งยังมีเมนูน่าอร่อยอย่างปลาอะเมะโงะ (Amego) ย่าง ซึ่งจับได้ในย่านนี้ และย่างให้เห็นกันสดๆ ในร้าน ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนใจจนใครๆ มาก็ต้องสั่งหรือคอนเนียะกุซาชิมิ (Konnyaku) ที่ปกติไม่ค่อยมีเมนูให้สั่งกินกันสดๆ แบบนี้ก็เป็นรสชาติแปลกใหม่ที่น่าประทับใจ

 

 

ส่วนบรรยากาศภายในร้านก็เป็นกันเองสบายๆ มีที่นั่งแบบเอาต์ดอร์ให้เลือกออกไปรับลมหนาว ชมวิว พร้อมซดน้ำซุปอุ่นๆ ด้วย

Info:
Address: 9-3 Nishiiyayamamura, Zentoku, Miyoshi, Tokushima
Opening Hours: 8:00-17:00 น.
Website: iyabijin.jp

 

HOTEL IYA ONSEN
ออนเซ็นธรรมชาติกับเคเบิลคาร์สุดหวาดเสียว

 

HOTEL IYA ONSEN, Iya Valley

 

เพราะอิยะคือหุบเขา สถานที่ท่องเที่ยวไหนๆ ก็เล่นกับความหวาดเสียว นอกจากจะต้องทำใจกล้าเดินบนสะพานโงนเงนแล้ว ยังต้องทำใจกล้าขึ้นเคเบิลคาร์สุดชันด้วย

ออนเซ็นนี้เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมอิยะออนเซ็น (Hotel Iya Onsen) แต่เปิดให้คนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าพักสามารถมาใช้บริการได้แต่ด้วยตัวโรงแรมตั้งอยู่บนเขา ตอนจะไปแช่ออนเซ็นจึงต้องนั่งเคเบิลคาร์ลงไป 170 เมตร เพื่อแช่ออนเซ็นริมแม่น้ำด้านล่าง เคเบิลคาร์คันเล็กนี้สูงชันถึง 42 องศา อาการของคนกลัวความสูงก็ตัวสั่นทุกครั้งที่มีแรงสั่นสะเทือน แต่พอลงไปถึงด้านล่างก็ได้พักผ่อนด้วยบ่อออนเซ็นธรรมชาติสีขาวขุ่นขนาดกะทัดรัด ที่ไม่ผ่านการกรองน้ำ ไม่ปรับอุณหภูมิ ไม่ผสมสารใดๆ จึงเชื่อกันว่าช่วยให้สุขภาพดีมากๆ แร่ธาตุในน้ำจะเกาะผิวและทำให้ตัวลื่นๆ เมื่อขึ้นจากน้ำบ่อออนเซ็นตั้งอยู่กลางแจ้ง แต่มีระแนงไม้และหลังคาบังสายตาจากคนภายนอกได้มิดชิด เบื้องหน้าจึงเหลือแต่วิวภูเขาและแม่น้ำทอดยาวออกไป ที่นี่จึงถูกขนานนามว่าเป็นออนเซ็นที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุดแห่งหนึ่ง แต่ฉันว่า…ชมหิมะก็สวยจับใจไม่แพ้กัน

 

 

แช่เสร็จฉันต้องขึ้นเคเบิลคาร์อีกครั้ง คราวนี้เริ่มชิน จากความกลัวก็เปลี่ยนเป็นความสนุก จะมีออนเซ็นสักกี่ที่กันที่เราได้นั่งรถรางขลุกขลักมาแช่น้ำในบ่อเล็กๆ ที่เป็นส่วนตัวขนาดนี้

Info:
Address: 367-2 Matsumoto, Ikeda, Matsuo, Miyoshi, Tokushima
Opening Hours: 7:30-18:00 น. (โทรจองล่วงหน้าได้ถึงเวลา 17:00 น.)
Price: ผู้ใหญ่ 1,700 เยน, เด็ก 900 เยน
Website: www.iyaonsen.co.jp/en

 

การเดินทางไปหุบเขาอิยะ

รถยนต์ (Driving)

สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่ และมีความสามารถในการขับขี่บนถนนที่มีหิมะ ถือเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุด โดยสามารถเลือกหาบริษัทเช่ารถในตัวเมืองใกล้ๆ ด้านล่าง ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองใกล้ๆ ราว 2-3 ชั่วโมง

รถไฟ (Train)

สามารถนั่งรถไฟ JR สาย Dosan Line มาลงที่สถานี Iyaguchi แล้วจึงต่อรถบัสประจำทางสาย 21 (Awa Ikeda Bus Terminal-Kubo) ซึ่งจะวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ หลายแห่งในหุบเขาอิยะ และสามารถต่อรถบัสสายอื่นๆ เพื่อไปเที่ยวได้รอบทั้งหุบเขา

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ