ความใฝ่ฝันของนักเรียนแฟชั่นในยุคนี้น่าจะหนีไม่พ้นการได้เป็นเจ้าของแบรนด์ หรือบางคนอาจใฝ่ฝันที่จะทำงานให้กับแบรนด์ที่มีชื่อเสียง หรือแบรนด์ที่ตัวเองรัก..

ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ฉันยังเรียนอยู่ที่ Bunka Fashion College ในโตเกียว ตอนนั้น ฉันอยู่ชั้นปีที่ 3 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของสาขา Fashion Technology สาขานี้เน้นการออกแบบแพทเทิร์นเพื่อใช้ในระบบอุตสาหกรรม เรียกได้ว่าดีไซเนอร์กับคนทำแพทเทิร์น หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า パタンナー (Patterner) เป็นสิ่งที่ต้องอยู่คู่กัน ขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้ แต่อีกแค่ไม่กี่เดือนก็จะจบหลักสูตร ณ ตอนนั้น ฉันเองก็หนักใจ เพราะยังอยากลองทำงานในบริษัทแฟชั่นของญี่ปุ่นดูสักครั้งในชีวิต ฉันได้ลองพยายามสมัครไปในหลายๆ บริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่ที่มีแบรนด์ของตัวเอง หรือนำเข้าสินค้ามาขายอยู่ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ รวมถึงบริษัทเล็กๆ และเดินทางไปยื่น Portfolio บ้าง สอบดีไซน์คอลเล็กชันตามโจทย์ที่ได้รับบ้าง แต่เหมือนกับว่า โชคไม่เข้าข้างฉัน ไม่มีบริษัทไหนติดต่อกลับมา เพราะเราเป็นคนต่างชาติ หลายๆ บริษัทในญี่ปุ่น ไม่มีนโนบายรับคนต่างชาติเข้าทำงานในฐานะดีไซเนอร์ อาชีพในฝันของฉันเลยต้องจบแค่ตรงนี้

แต่อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่ฉันกำลังอยู่ในคลาสแพทเทิร์น ฉันจำได้เลยว่ากำลังนั่งอยู่ข้างหน้าเครื่องจักรที่กำลังขยับมาร์กจุดต่างๆลงบนผ้าที่ปูพลาสติกไว้อย่างเรียบร้อย จู่ๆ เซ็นเซประจำห้องของฉันก็เข้ามานั่งข้างๆ และถามว่า “หมิวซัง สนใจนี่ไหม” เซ็นเซยื่นกระดาษมาให้ พร้อมกับบอกว่า “COMME des GARÇONS กำลังรับสมัครพนักงานที่เป็นคนไทย หมิวซังน่าจะทำได้นะ ถ้าสนใจก็สมัครดูสิ” บอกตรงๆ ว่า ฉันไม่คาดหวังว่าจะได้งานนี้หรือไม่ เพราะ COMME des GARÇONS เป็นดีไซเนอร์แบรนด์ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมาก ฉันจะไปสู้กับผู้สมัครคนอื่นๆ ได้ยังไง แต่สุดท้าย ฉันก็ลองสมัครดู ดีกว่าไม่ได้ทำแล้วจะเสียใจภายหลัง

เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ ในที่สุดก็มีโทรศัพท์เบอร์ที่ไม่คุ้นตาโทรเข้ามา พร้อมกับบอกว่าเป็นผู้จัดการแผนก HR ของ COMME des GARÇONS เสียงในสายบอกกับฉันว่า ให้ฉันเข้ามาสัมภาษณ์ในสัปดาห์หน้านะ แล้วพบกัน…

เมื่อวันนั้นมาถึง ฉันรีบเก็บข้าวของออกจากห้องเรียน ตรงดิ่งไปที่ออฟฟิศซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีอะโอะยะมะ (Aoyama Station) ช่วงนั้นเริ่มเข้าหน้าหนาว ฟ้ามืดเร็ว และลมพัดแรง แต่ฉันไม่ได้สนใจ เพราะสิ่งที่รออยู่นั้นยิ่งใหญ่กว่า ตึกของ COMME des GARÇONS เป็นตึกที่ก่อด้วยอิฐสีน้ำตาลแดง มีความเรียบง่ายแต่แข็งแกร่ง เมื่อมองจากภายนอก อาจดูไม่ออกว่านี่คือสถานที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะของเระอิ คะวะกุโบะ (Rei Kawakubo) ผู้ก่อตั้ง COMME des GARÇONS จริงหรือ ฉันขึ้นลิฟต์ไปพบกับผู้สัมภาษณ์ 2 คน ทั้งคู่ไม่ใช่คนญี่ปุ่น แต่เป็นผู้ชายฝรั่งผมทอง (จะว่าไปก็มีแค่คนหนึ่งที่มีผม อีกคนหนึ่งไม่มี หรือมีก็น้อยมาก) บรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเอง ทั้งคู่ถามฉันด้วยคำถามต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ ปนภาษาญี่ปุ่น และการสัมภาษณ์ก็ผ่านไปด้วยดี ฉันโล่งใจมากๆ

เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์ ฉัน ซึ่งไม่ได้คาดหวังว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ได้รับโทรศัพท์ระหว่างอยู่ในคลาสเรียนอีกครั้ง ฉันรู้ว่านี่คือโทรศัพท์ของคุณลุงใจดีจากแผนก HR จึงรีบรับสายทันที คุณลุงแจ้งว่า ฉันได้รับเลือกให้เข้าทำงานกับ COMME des GARÇONS นะ ทำงานพาร์ทไทม์เสาร์อาทิตย์ได้ใช่ไหม สาขาที่จะได้ทำงานก็คือสาขากินซ่า (Ginza) ที่ตึก Dover Street Market Ginza ให้เข้ามาที่ตึกนี้นะ และไปพบกับผู้จัดการสาขา ผู้จัดการเป็นคนใจดี แต่ก็เคร่งครัดมาก เขาจะอธิบายหน้าที่ให้ฉันฟัง ฉันได้ยินคำอธิบายต่างๆ ไปด้วย หัวใจก็เต้นแรงไปด้วย ความฝันของฉันเขยิบเข้าใกล้ความจริงทีละนิดทีละนิดแล้ว จากที่เคยคิดว่า ฉันนี่ช่างไม่มีโชคเหลือเกิน วันนี้โอกาสก็มาถึงแล้ว ฉันจะทำมันให้ดีที่สุด…

(ว๊า..เวลาหมดซะแล้ว ยังไงก็โปรดติดตามการเดินทางของความฝันที่ COMME des GARÇONS ตอนที่ 2 ได้ในคอลัมน์หน้า ที่ Kiji นะคะ).. 

 

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ