glampark OKAGERO : แกลมปิ้งแห่งแรกในเมืองอิโกมะ นารา สัมผัสธรรมชาติและอาหารไคเซกิต้นตำรับ

คนไทยหลายคนคงไม่รู้จักคำว่า แกลมปิ้ง ถ้าฟังจากชื่อก็อาจจะคิดว่ามันคงคล้ายๆ กับคำว่าแคมป์ปิ้ง แต่จริงๆ แล้ว แกลมปิ้งเป็นการผสมผสานบรรยากาศการตั้งแคมป์ เข้ากับห้องพักที่สะดวกสบาย ทั้งยังได้ซึมซับบรรยากาศจากภายนอก วันนี้จึงขอแนะนำ glampark OKAGERO แกลมปิ้งเปิดใหม่แห่งแรกที่เมืองอิโกมะ (Ikoma) จังหวัดนารา

glampark OKAGERO เป็นส่วนหนึ่งของ Monzen Okagero ที่พักสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนภูเขาอิโกมะ (Mt. Ikoma) ทำให้แขกที่มาพัก ได้อิ่มเอมไปกับทัศนียภาพบ้านเรือนในเมืองอิโกมะ และธรรมชาติที่สวยงามในทุกฤดูกาลจากมุมสูง บางคนอาจจะกังวลว่ามาที่นี่จะเดินทางลำบาก แต่ไม่ต้องกังวลเพราะที่นี่สามารถนั่ง Ikoma Cable Car ขึ้นมาบนภูเขาได้

ทิวทัศน์ที่สวยงามจากเต็นท์โดม

ตื่นพร้อมพระอาทิตย์ขึ้น แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่อง เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นวันใหม่ วิวที่มองเห็นผ่านบานหน้าต่างของเต็นท์โดมนั้น จะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน ทั้งดวงอาทิตย์ยามเช้าที่ขึ้นจากสันเขา ทะเลเมฆที่เห็นได้หลายครั้งต่อปี หรือภูเขาที่จะเปลี่ยนผลัดสีไปตามฤดูกาล เป็นทิวทัศน์ที่น่าทึ่งจนแทบจะหยุดหายใจ

ซึมซับบรรยากาศย้อนยุคภายในอาคารที่สร้างขึ้นในสมัยไทโชที่ 5

เดิมทีที่พัก Monzen Okagero ในปัจจุบันที่เราเห็นกัน อดีตเคยเป็นเรียวกังที่สร้างขึ้นในปีไทโชที่ 5 (ค.ศ. 1916) ได้ถูกรีโนเวทใหม่ในปี ค.ศ. 2014 ก่อนจะมาเป็นที่พักแบบในปัจจุบัน นอกจากนี้ก็เคยเป็นทั้งแกลเลอรี่ และพื้นที่เช่ามาก่อน ทำให้สัมผัสได้ถึงเรื่องราวต่างๆ และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์กว่า 100 ปีที่ Okagero

เคลิบเคลิ้มไปกับทัศนียภาพรอบเมืองอิโกมะ

ด้านหน้าของ Monzen Okagero จะหันไปทางทางเข้าวัดโฮซันจิ (Hozanji Temple) ทำให้มองเห็นประตูวัดขนาดใหญ่ พื้นที่รอบๆ และทิวทัศน์บ้านเมืองก็เป็นวิวจากมุมสูง ซึ่งเป็นความพิเศษ ที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากที่ไหนๆ เรียกได้ว่านอกจากจะมาแกลมปิ้งชมวิวแล้ว ยังสามารถแวะเยี่ยมชมวัดท้องถิ่นได้อีกด้วย

ลิ้มลองอาหารจานพิเศษ

ภาพ : www.byfood.com

อาหารไคเซกิ อาหารที่จะจัดเสิร์ฟทีละจาน ตามลำดับฉบับของญี่ปุ่น พิถีพิถันตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ ไปจนถึงการจัดแต่งจานให้สวยงาม ความพิเศษของที่นี่คือ อาหารไคเซกิจะใช้วัตถุดิบ เช่น ทะเลสด ผักสดที่ปลูก และเก็บเกี่ยวเอง หรือผักป่าที่เก็บรวบรวมจากภูเขาอิโกมะ ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล  เป็นการผสมผสานรูปแบบใหม่ของอาหารไคเซกิต้นตำรับ และการแกลมปิ้งในยุคปัจจุบันเข้าด้วยกัน

คอร์สอาหารเย็น ไคเซกิสุดหรูยามาโนะคามิ (Yamanokami) ซาชิมิปลาทะเลที่คัดสรรมาอย่างดีจากทั่วญี่ปุ่น หรือจะเป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดนารา อย่าง เนื้อไก่ยามาโตะ ซึ่งล้วนแต่น่าอร่อยทุกจาน

คอร์สหม้อไฟซังไค (Sankai) โดยใช้วัถุดิบท้องถิ่น มาพร้อมน้ำซุปสไตล์คันไซ กลิ่นอายธรรมชาติ และวัตถุดิบในหม้อไฟที่อุดมไปด้วยรสอูมามิ อร่อยกลมกล่อม จนไม่จำเป็นต้องพึ่งเครื่องปรุงอื่นเลย ปิดท้ายด้วยโซซุย (Zosui) หรือ ซุปข้าวญี่ปุ่นอ่อนๆ คล้ายกับซุปผักจากข้าว

คอร์สหม้อไฟทะเล อาหารประจำชาติสูตรต้นตำหรับ เป็นคอร์สอาหารประจำชาติ ที่ให้บริการที่ร้าน Maharajyaya ร้านอาหารอินโดนีเซียสูตรดั้งเดิม ซึ่งใช้เวลาเดินเพียง 1 นาทีจากที่พัก ที่นี่ทุกคนจะได้สัมผัสความรู้สึกที่สดใหม่ ของรสชาติอาหารอินโดนีเซียต้นตำรับจากเกาะบาหลี และวัตถุดิบท้องถิ่นปลูกในนารา ผสมผสานกับรสชาติแบบญี่ปุ่น 

และสุดท้ายที่สุดของการแกลมปิ้ง นั่นก็คือ กองไฟและมาร์ชเมลโล่ เป็นบริการที่ต้องเลือกเมื่อทำการจอง ใช้เวลาอันแสนพิเศษ เพลิดเพลินไปกับการปิ้งมาร์ชเมลโล่ และแคมป์ไฟท่ามกลางอากาศอันบริสุทธิ์ พร้อมชื่นชมบรรยากาศของธรรมชาติ

การมาแกลมปิ้งที่นี่ บอกได้เลยว่าเหมาะมากๆ สำหรับผู้คนที่หลงใหล และต้องการสัมผัสธรรมชาติบนภูเขาของญี่ปุ่น นอกจากจะได้นอนพักที่เต็นท์โดม ท่ามกลางธรรมชาติแล้ว ยังได้เอร็ดอร่อยไปกับอาหาร ที่ทำจากวัตถุดิบสดๆ ในอิโกมะ เรียกได้ว่ามาครั้งเดียว แต่จะต้องจำกลิ่นอายของอิโกมะไปอีกนานเลยล่ะ ที่สำคัญ ยังสามารถเพลินเพลินไปกับกองไฟยามค่ำคืน ที่ช่วยให้เราสัมผัสฟีลลิ่งตั้งแคมป์ได้อย่างแท้จริงอีกด้วย การเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ได้ยากเลย หากเดินทางจากสถานีโอซาก้านัมบะ (Osaka-Namba Station) ก็ใช้เวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น ถ้าหากมีโอกาสได้มาเที่ยวนารา ลองแวะมาเที่ยวที่นี่กันดูนะ

ที่มา : prtimes.jp