เรื่องเหล่านี้อาจไม่ได้รู้สึกแปลกใจในสายตาคนญี่ปุ่น แต่เราจะลองมองจากสายตาคนนอกจากสายตาสากลโลกดู

อิเนะมุริ (居眠り)

 

 

ารงีบหลับในที่ทำงาน เพื่อชาร์จพลังให้กลับมา หลับในที่ทำงานแบบนี้เจ้านายไม่ว่าด้วยนะ (แต่ก็ต้องดูปัจจัยอื่น จังหวะ และความเหมาะสมด้วย ^^’) อีกทั้งตัวคนที่หลับอาจยิ่งได้เครดิตเสียอีก เพราะถูกมองว่าตั้งใจทำงานหนักจนเหนื่อยเลยของีบหลับชาร์จพลัง ฟังดูแปลกไปนิด แต่ในทางวิทยาศาสตร์แล้วนี่อาจเป็นข้อดีด้วยซ้ำ การงีบหลับพักผ่อนเพียงชั่วครู่ (Rest) แล้วค่อยตื่นขึ้นมาลุยงานต่อ อาจมีประสิทธิภาพมากกว่าตะบี้ตะบันทำงานรวดเดียวเสียอีกนะ ^^

 

ต่อคิวขึ้นชั้น 2 ของร้าน

 

 

ร้านบางแห่งอย่างเช่นตามร้านกาแฟจะมีชั้น 2 ให้ขึ้นไปนั่ง ส่วนมากชั้น 2 เหล่านี้ก็จะมอบความพิเศษในแบบที่ชั้น 1 หาไม่ได้ อย่างเช่น ที่นั่ง/ ห้องน้ำ/ หรือวิวที่มองออกไปเห็น landmark สวยๆ ชั้น 2 จึงเป็นที่ ‘หมายปอง’ ของใครหลายคน demand > supply จนชั้น 2 เต็มจนเกิดการต้อง ‘ต่อคิวขึ้นชั้น 2’ การเข้าคิวน่ะเป็นเรื่องปกติที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง แต่ถึงกับต่อคิวขึ้นชั้น 2 นั้นก็ดูจะเป็นอะไรที่แอ็ดวานซ์จริงๆ (บางคนแค่อยากขึ้นไปเข้าห้องน้ำ หรือเช็กว่ามีที่นั่งหรือเปล่า ก็อาจไม่กล้าขึ้น เพราะเหมือนลัดคิวคนอื่น ฮ่าๆๆ)

 

ส่วนแบ่งจากของหาย

 

 

เวลาเราทำของตกหายและมีคนเห็นและเก็บมาคืนเรา อันที่จริงตามกฎหมายเขามีสิทธิเรียกร้อง “ส่วนแบ่ง” จากมูลค่าของนั้นได้ด้วยนะ แม้ว่าในทางปฏิบัติหลายคนอาจจะถือว่าเป็นแค่การช่วยเหลือไม่ได้ต้องการเงินตอบแทนใดๆ ก็ตาม 

 

ไม่รับทิป

 

ปฏิเสธแม้แต่ทิปด้วยความเต็มใจ ^^

 

เคยไหมครับ? เวลาไปทานร้านอาหารหรือได้รับบริการใดๆ ที่เรารู้สึกประทับใจเอามากๆๆๆๆ จนรู้สึกว่าคุณภาพและบริการที่ได้รับมากเกินกว่าราคาที่ตั้งไว้ จึงอยากให้ “ทิปเล็กๆ น้อยๆ” ด้วยความเต็มใจและบริสุทธิ์ใจ (ไม่ได้ให้เพราะมองว่าเค้ารายได้น้อย สงสาร ช่วยๆ น้องเขาหน่อย) แต่สังคมญี่ปุ่นกลับปฏิเสธการรับทิปค่อนข้างจริงจัง แม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่รับ จุดนี้ดูจะเป็นอะไรที่ขัดแย้งกับหลายประเทศโดยเฉพาะวัฒนธรรมตะวันตก ที่การให้ทิปในลักษณะนี้ (Discretionary Service Charges – ให้ทิปด้วยความสมัครใจเต็มใจ) เป็นเรื่องปกติ 

 

เงียบสนิทบนรถไฟ

 

เงียบสนิทบนรถไฟ ^^’

 

ความเงียบสนิทบนรถไฟเป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่น บ่งบอกถึงมารยาทและการรักษาความเป็นส่วนตัวของคนอื่นในพื้นที่สาธารณะ แต่อีกนัยหนึ่งก็บ่งบอกถึงความสุดโต่งเช่นกัน เพราะบนรถไฟญี่ปุ่นในเวลาทั่วไปเรียกว่าเงียบชนิดที่เงียบสนิท ห้ามพูดคุยโทรศัพท์ (บางคนจำเป็นต้องโทร ถึงกับต้องลงสถานีไปก่อนเพื่อคุยโทรศัพท์) โฆษณาไม่มีเสียง ฟังเพลงหูฟังห้ามดังเกิน จะคุยกับเพื่อนที่มาด้วยก็ต้องกระซิบๆ (บางคนถึงกับต้องรอให้ถึงสถานีจุดหมาย) เงียบน่ะถือว่าดีและเป็นมารยาทสากล แต่ถ้าต้องเงียบสนิทจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นได้ขนาดนี้ก็อาจโหดไปสำหรับบางคน ฮ่าๆๆ

กฎและมารยาททางสังคมเหล่านี้ ถูกออกแบบมาภายใต้วัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น อาจดูแปลกหรือเป็นที่ไม่ยอมรับไปบ้างในสายตาต่างชาติ แต่ก็เพราะแต่ละประเทศแต่ละชาติล้วนมีวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของตน เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ปฏิบัติตามไว้ไม่เสียหายนะ : -)

LIKE & SHARE

ชอบเรื่องนี้จนต้องบอกต่อ