1 Day MIE Hidden Gems : เอาใจสายมูด้วยศาลเจ้าที่ให้พรหญิงสาว แวะคาเฟ่เบาๆ และชมซากุระสุดอันซีน
1 Day MIE Hidden Gems : )
ถ้าเคยไปมิเอะ (Mie) มาแล้วบ้าง เที่ยวสถานที่แลนด์มาร์คดังๆ ทั้งศาลเจ้าอิเสะ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ หรืออุโมงค์ไฟ illumination สุดอลังการอย่างนาบานะโนะซาตะจนครบหมดแล้วเกิดติดใจขึ้นมา เราแอบมีสถานที่เก๋กรุบมาแนะนำให้ไปชิลล์กันต่อ
ด้วยความที่อยู่แถวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะอยู่แล้ว เราเลยจับรถบัสจากบัสเทอร์มินอลตรงข้ามสถานีรถไฟโทบะขึ้นเขาไปไหว้พระ แต่ถ้ามาจากในเมืองนาโกย่าสามารถขึ้นรถไฟคินเท็ตสึจากสถานีคินเท็ตสึนาโกย่า (Kintetsu Nagoya Station) ไปลงที่สถานีโทบะได้โดยตรง จากนั้นก็ต่อบัสไปต่อได้เลย
ศาลเจ้าที่เรากำลังจะแนะนำนั้นคุ้มค่าการนั่งบัสขึ้นเขาแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสุภาพสตรี เพราะที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการบันดาลให้คำอธิษฐานของผู้หญิงเป็นจริง! โดยมีเงื่อนไขว่าขอได้เพียง 1 ข้อเท่านั้นตลอดชีวิต! (คนที่ศาลเจ้าบอกว่า จริงๆ แล้วจะตีความว่าขอหลายข้อ มาขอหลายครั้งก็ได้ แต่ท่านเทพรับปากว่าสมหวังชัวร์แค่ข้อเดียว)
เกริ่นมาตั้งนาน ศาลเจ้านี้มีชื่อว่าชินเม (Shinmei Jinja) ส่วนศาลเจ้าที่ขอให้พรสาวๆ นั้นอยู่ด้านในศาลเจ้านี้อีกทีมีชื่อว่าอิชิกามิซัง (Ishigami-san) ศาลเจ้าแห่งนี้บูชาเทพธิดาแห่งท้องทะเล Tamayorihimenomikoto ซึ่งเป็นลูกสาวของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ท่านเทพธิดาองค์นี้เป็นที่เคารพบูชาในย่านนี้มาตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ “อามะ” ซึ่งหมายถึงสตรีที่มีอาชีพเป็นนักดำน้ำตัวเปล่าเก่าแก่ของญี่ปุ่น พวกเธอจะลงไปงมหอย เก็บกุ้งในทะเลขึ้นมาขาย สาเหตุที่อาชีพนี้เป็นผู้หญิงล้วนก็เพราะว่าสมัยก่อนคนเชื่อกันว่าผู้หญิงทนความหนาวเย็นได้ดีกว่าผู้ชาย อาจจะเป็นเพราะเหล่าอะมะมีจิตศรัทธาที่แรงกล้าหมั่นเพียรบูชามาตั้งแต่อดีต จึงทำให้ท่านเทพเมตตากับผู้หญิงเป็นพิเศษ
ชื่อเสียงความขลังและสิทธิพิเศษเฉพาะ “ผู้หญิง” ดังไกลไปทั่วประเทศ ปัจจุบันจึงมีสาวน้อยใหญ่ตั้งใจเดินทางมาสักการะบูชาและขอพรที่นี่มากมาย วิธีการขอพรนั้นแสนง่าย แค่หยิบกระดาษที่ทางศาลเจ้าเตรียมไว้ให้ เขียนคำอธิษฐานลงไป (ข้อเดียวเท่านั้นนะ!) แล้วนำไปหย่อนลงในกล่องหน้าแทนบูชาท่านเทพ แล้วทำความเคารพเหมือนศาลเจ้าอื่นๆ คือ โค้ง 2 ครั้ง ตบมือ 2 ครั้ง และโค้งอีก 1 ครั้ง
ขอพรเสร็จแล้วขอแนะนำให้ซื้อเครื่องรางลวดลายมินิมอลมาบูชาด้วย เห็นเป็นรูปดาวกับเส้นขีดๆ อย่างเพิ่งนึกว่าเป็นดีไซน์โมเดิร์นทั่วไป นี่คือลายเส้นเก่าแก่ที่เหล่าอามะมักจะปักลงบนผ้าพกติดตัวแทนเครื่องรางเพื่อปัดเป่าภยันตราย ลายดาวซึ่งวาดด้วยการลากเส้นครั้งเดียวหมายถึงการได้กลับไปที่เดิม สื่อถึงอามะที่ลงไปดำน้ำในทะเลก็จะได้กลับขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย ส่วนลายเส้นขีดๆ เป็นตารางนั้นคือการสับขาหลอกให้ไม่รู้ว่าทางเข้าออกอยู่ไหน พวกวิญญาณร้ายจะได้ตามมารังควานไม่ได้นั่นเอง
ไหนๆ ก็มาแล้ว เข้าไปที่ศาลเจ้าชินเมด้วย นอกจากจะมีท่านเทพอามาเทราสึให้บูชา ยังมีต้นไม้เก่าแก่ให้ขอพรเรื่องอายุยืนยาว และมีเซียมซีอันใหญ่มาก! ให้เสี่ยงทางดวงชะตาอย่างยิ่งใหญ่เต็มไม้เต็มมือ เขาเคลมว่าเป็นเซียมซีที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น(?)เชียวนะ
สำหรับคนที่สนใจวัฒนธรรมอามะของสตรีเมืองอิเสะ ลองแวะ Ama no Ie ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ศาลเจ้าดู ที่นี่เป็นกึ่งศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับอะมะและเป็นร้านขายของที่ระลึก (ซึ่งน่ารักมาก) ในตัว ใครอยากนั่งพักจิบชากาแฟในบ้านไม้เก๋ๆ สามารถไปสั่งอาหารและเครื่องดื่มจากร้านข้างๆ มานั่งกินที่ชั้นสองได้อีกด้วย
ร้านข้างๆ ที่ว่าคือ Osatsu Kitchen 0023 คาเฟ่เก๋ไก๋สไตล์ชาวเมืองฮิปที่มีเมนูเด็ดคือ Zako Fried ทางร้านนำอาหารทะเลจากชาวประมงในท้องถิ่นมาชุบแป้งทอดให้กรุบกรอบอร่อยไปอีกแบบ เครื่องดื่มที่นี่ก็ดีงาม มีให้เลือกหลากหลายทั้งชากาแฟน้ำอัดลมและแอลกอฮอล์ เราลองชิมน้ำชื่อแปลก Yamato Tachibana Cider ซ่าๆ สดชื่นดีทีเดียว
อิ่มท้อง อิ่มบุญ อิ่มใจแล้วลงเขาไปเที่ยวที่อื่นต่อกันดีกว่า สถานที่ถัดไปที่เราอยากแนะนำให้แวะไปให้ได้ ถ้ามาเที่ยวจังหวัดมิเอะ (Mie) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิคือ สถานีไดอัน (Daian Station)
เดินเลียบทางรถไฟไปประมาณ 10 นาทีจากสถานีจะได้พบกับจุดชมซากุระที่สวยมาก เวรี่อันซีน ใครชอบเจาะที่ลับไปลุยก่อนเพื่อน ขอเรียนเชิญมาเช็คอินที่นี่ หันไปทางซ้ายเจอต้นซากุระเรียงรายเป็นแถวยาวริมถนนสายเล็กๆ ริมแม่น้ำ เหมาะกับการเดินเล่นทอดหุ่ยเป็นที่สุด และเมื่อข้ามสะพานเดินไปทางขวาเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ จะเจอทางรถไฟ มุมนี้แหละคือมุมสุดกรุบกริบในการชมซากุระที่นี่ เพราะจังหวะที่รถไฟวิ่งผ่านดงซากุระทั้ง 2 ฝั่งเป็นภาพที่หาดูยากและอัดแน่นไปด้วยความเป็นญี่ปุ่น ขอแนะนำนิดนึงว่า ควรเช็คเวลารถไฟก่อนมาดักชม ไม่งั้นรอนานอยู่เหมือนกัน หรือจะพกเสื่อและขนมนมเนยไปนั่งปิกนิกชมวิวรอดูรถไฟก็เพลินดี
มินิทริปสำหรับกระชับสัมพันธ์กับจังหวัดมิเอะ (Mie) ใน 1 วันจบแต่เพียงเท่านี้ นี่ว่านั่งรถไฟวนเที่ยวเยอะแล้ว ยังมีอีกหลายย่านที่ตัดใจไม่ได้แวะไป ถ้ามีโอกาสอีกจะรีบกลับไปตีสนิทให้เป็น BFF คนใหม่เลยล่ะ
Info
Shinmei Jinja
Hours: 24 ชั่วโมง
Holiday: –
Entrance Fee: เข้าฟรี
Website: www.oosatsu.net/midokoro/ishigami
Ama no Ie Gozaya
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: –
Website: osatsu.org/gozaya
Osatsu Kitchen 0023
Hours: 9:00-17:00 น.
Holiday: วันพุธ
Website: osatsu.org/kitchen