ยามากาตะ (Yamagata:山形) จังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา หน้าผา และแอ่งกระทะ สามารถเดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟชินคันเซ็นสึบาสะ (Tsubasa) อาจพูดได้ว่าเป็นจังหวัดที่เดินทางลำบากที่สุดในญี่ปุ่นก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แบบไม่ต้องเปลี่ยนรถ แต่เป็นจังหวัดที่ยังคงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไว้อยู่ ทำให้ปลูกเชอร์รี่และสาลี่ได้มากที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องข้าวอร่อย ในขณะเดียวกันยามากาตะก็เป็นจังหวัดที่แมคโดนัลด์มาเปิดเป็นจังหวัดสุดท้ายในญี่ปุ่น
ยามากาตะขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) ซาโอะออนเซ็น (Zao Onsen) อาคายุออนเซ็น (Akayu Onsen) เซมิออนเซ็น (Semi Onsen) อาคาคุระออนเซ็น (Akakura Onsen) อัตสึมิออนเซ็น (Atsumi Onsen) หรือถ้าชอบสัตว์ก็ขอแนะนำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะ (Kamo Aquarium) อควาเรียมที่มีแมงกะพรุนมากที่สุดในโลกถึง 50 ชนิด
เทศกาลที่โดดเด่นของยามากาตะคือ เทศกาลยามากาตะฮานะกาสะ (Yamagata Hanagasa Matsuri) พาเหรดที่มีผู้หญิงใส่ชุดสีพาสเทลหรือสีฉูดฉาดออกมาระบำโดยใช้หมวกปักดอกไม้เป็นพร็อพอยู่ทั่วเมือง แต่ถ้าเป็นฤดูหนาวผู้คนนิยมไปเล่นสกีที่ซาโอะออนเซ็นสกีรีสอร์ท (Zao Onsen Ski Resort)
ยามากาตะมีอาหารขึ้นชื่อหลายอย่าง เช่น วัวโยเนซาว่า (Yonezawa Gyu) เนื้ออร่อยไม่แพ้เนื้อโกเบหรือมัตสึซากะ ฮิยาชิราเมน (Hiyashi Ramen) ราเมนสูตรเย็นที่ขายดีสุดๆ ในช่วงหน้าร้อน และอิโมะนิ (Imoni) หม้อไฟที่เน้นมันหรือเผือก
อย่าลืมซื้อของฝากจากยามากาตะ เช่น ไวน์ยามากาตะ (Yamagata Wine) ไวน์ที่ทำจากองุ่นที่ปลูกในจังหวัดยามากาตะ คุจิระโมจิ (Kujira Mochi) ขนมที่ทำจากข้าวเหนียวกับข้าวอ้วนกลมของญี่ปุ่น หากนำไปย่างรสชาติจะยิ่งอร่อย ซากุรัมโบรัสก์ (Sakuranbo Rusk) ขนมปังกรอบที่มีส่วนผสมของเชอร์รี่ นอกจากนี้ยามากาตะยังขึ้นชื่อเรื่องเฟอร์นิเจอร์ไม้อย่างเก้าอี้ของบริษัทเทนโดมกโก (Tendo Mokko)
ข้อมูลพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปเที่ยว ยามากาตะ (Yamagata) กัน!