• Bookmark
  • Share

Sabu Yakiniku (ซาบุ ยากินิกุ)

  • Bookmark
  • Share
  • 082-722-7888
  • ชั้น 3 โรงแรม Nikko Bangkok ซ.สุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) ถ.สุขุมวิท
  • คลิกแผนที่
  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 3,000 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = น้อย
    เนื้อวัว = มาก
    ผัก = ปานกลาง
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    มาก
  • Special
    Special

ร้านแรกของโลกที่นำเข้าเนื้อวัวยูกิฟูริจากประเทศญี่ปุ่น!

Sabu Yakiniku (ซาบุ ยากินิกุ) ร้านยากินิกุแบบฉบับพรีเมียม ร้านแรกของโลกที่นำเข้าเนื้อวัวยูกิฟูริ จากจังหวัดยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมสัมผัสรสชาติของเนื้อวากิวและซอสหมักได้อย่างเข้มข้นโดยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม  และที่สำคัญยังมีเมนูพิเศษที่เปลี่ยนวิธีการรับประทานจากต้มสู่ย่างทั้งเมนูวากิวสุกี้ยากิ และเมนูวากิวชาบู ความพิเศษของร้านยังไม่หมดแค่นี้นะ ตามคิจิมาเราจะพาคุณไปล้วงลึกถึงความสุดยอดของร้านนี้กัน

sabu yakiniku

เราเดินทางมาที่โรงแรม โรงแรม Nikko Bangkok เดินทางง่ายมากเพราะตัวโรงแรมห่างจากสถานี BTS ทองหล่อ เพียง 200 เมตร เท่านั้น จากนั้นตรงขึ้นไปชั้น 3 เมื่อเห็นหน้าร้านที่โดดเด่นด้วยไม้สีน้ำตาลอ่อนตั้งตระหง่านชัดเจน ดูสวยงามด้วยแผงไม้โค้งตกแต่งบริเวณผนังกระจก แสดงว่าคุณได้มาถึง Sabu Yakiniku เรียบร้อยแล้วล่ะ เราแนะนำว่าควรสำรองที่นั่งไปล่วงหน้าด้วยจะดีมากเพื่อการันตีว่าอย่างไรวันนี้เราก็จะไม่พลาดความอร่อยตรงหน้านี้แน่ๆ

sabu yakiniku

ภายในร้านตกแต่งด้วยไม้สีอ่อนสลับเข้ม ใช้โทนสีน้ำตาล-ดำเป็นหลัก ดีไซน์เพิ่มลูกเล่นด้วยไม้เส้นตรงเรียงเป็นซี่สร้างความอบอุ่นสไตล์โมเดิร์นเจแปนนีส ทั้งยังมีที่นั่งรับรองทั้งแบบโต๊ะเดี่ยวขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ และโต๊ะนั่งห้อยขาสไตล์ญี่ปุ่นอีกด้วย

หากใครสงสัยว่าแล้วร้านนี้พิเศษอย่างไร?
ล้อมวงกันเข้ามา เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง

หากใครเป็นสายเนื้อ รักในการกินยากินิกุเป็นชีวิตจิตใจคงต้องเคยได้ยินชื่อของเนื้อวัวสายพันธ์ุต่างๆ มาบ้างแล้ว ทั้งเนื้อโกเบ เนื้อมัสซึซากะ และอีกมากมาย แต่ร้านนี้ใช้เนื้อที่คุณไม่เคยลิ้มลองในประเทศไทยแน่นอน นั่นคือ “เนื้อยูกิฟูริ” จากเมืองโอบานาซาว่า จังหวัดยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยที่ร้าน Sabu Yakiniku เป็นร้านแรกของโลกที่นำเข้าเนื้อวัวยูกิฟูริมาจากญี่ปุ่น มาเสิร์ฟให้เราตรงหน้านี้เลย!

sabu yakiniku

ที่เนื้อยูกิฟูริแรร์ไอเทมขนาดนี้ก็เพราะว่าเป็นวัวที่มีไขมันดีเยอะมาก วัวจะถูกเลี้ยงที่เมืองโอบานาซาว่า เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการเพาะพันธ์ุวัวมากว่า 70 ปี จนกลายเป็นวัวพื้นเมืองของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ว่ากันว่าที่นี่ติด Top 3 ของอากาศที่หนาวมากๆ ของญี่ปุ่น เวลาหนาวก็จะหนาวมากจนถึง -10 องศา เวลาร้อนก็ร้อนไม่แพ้ใครถึง 40 องศาเลยทีเดียว ฉะนั้นวัวที่นี่ต้องแข็งแรงและมีไขมันดีสะสมไว้มากบวกกับการเลี้ยงดูในฟาร์มที่ขนาดไม่ใหญ่มากทำให้วัวทุกตัวได้รับการดูแลที่ดีอย่างทั่วถึงยังไงล่ะ

ล้อมวงกันหน้าเตาย่างเรียบร้อยแล้วเราขอเริ่มจากจานนี้ก่อนเลยแล้วกันกับ Gyu Tan เนื้อส่วนลิ้นที่เสิร์ฟมาพร้อมเลมอนสีเหลือง ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ โรยพริกไทยและเกลือปิดท้าย เราจะแอบกระซิบเคล็ดลับความอร่อยของจานนี้ให้ฟัง ลองนำเลมอนทาลงบนตะแกรงก่อนนำเนื้อลงไปย่าง พอเนื้อสุกก็รอสัมผัสรสชาติที่มีความกรุบกรอบ นุ่มละมุนลิ้น แถมมีรสเปรี้ยวนิดๆ ติดที่ปลายลิ้น ซึ่งจะต่างกับการบีบเลมอนลงบนเนื้อโดยตรงเพราะจะทำให้รสชาติของเนื้อถูกลดทอนลงไปนั่นเอง

Gyu Tan (320 บาท)

ต่อไปขอแนะนำ Tokujyou Rousu และ Nami Karubi ที่สามารถเลือกได้ระหว่างหมักซอสหรือหมักเกลือ จัดเสิร์ฟพร้อมวาซาบิ ถ้าสังเกตให้ดีร้านนี้จะไม่เสิร์ฟน้ำจิ้มรสจัดเหมือนที่เราเคยเห็น เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมกินเนื้อย่างกับน้ำจิ้มรสจัดเท่าไหร่นัก ร้านนี้จึงมีวิธีการกินที่เรียกว่า “Momidare” คือ การรับประทานเนื้อที่ผ่านการหมักให้ตัวซอสสูตรเข้มข้นซึมเข้าไปในเนื้อ แค่นำมาย่างและกินคู่วาซาบิเพิ่มความหอมและเผ็ดแบบดั้งเดิมเท่านี้ก็อร่อยมากๆ เลยล่ะ

Tokujyou Rousu (980 บาท)
Nami Karubi (580 บาท)

มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ของร้านที่ทำให้เราลืมภาพจำของสุกียากี้และชาบูแบบเดิมๆ นั่นคือเมนู Wagyu Suki Yaki และเมนู Wagyu Yaki Shabu เมนูที่เปลี่ยนวิธีการรับประทานจากต้มสู่ย่าง เมนู Wagyu Suki Yaki จะเสิร์ฟมาเป็นเนื้อสไลด์ชิ้นใหญ่ที่หมักมาอย่างดี ราดซอสไวน์ ก่อนโรยเกลือและพริกไทย มาพร้อมไข่แดงสีส้ม ถึงแม้เนื้อจะสไลด์มาแต่ยังคงความนุ่มละมุนลิ้นสุดๆ หลังคีบเนื้อวางบนตะแกรงย่างให้สุกได้ที่แล้ว ก็ยกมาจุ่มไข่แดงและส่งเข้าปากเลยทันที ไม่ต้องกลัวร้อนนะเพราะไข่แดงจะเป็นตัวเคลือบความร้อนไว้อีกที สัมผัสเนื้อที่นุ่มและชุ่มฉ่ำไข่แดงจะตลบอบอวลอยู่ในปากแบบไม่เคยกินที่ไหนมาก่อนเลยล่ะ

Wagyu Suki Yaki (700 บาท)

ส่วนเมนู Wagyu Yaki Shabu จัดเสิร์ฟเนื้อส่วนสะโพกสไลด์ที่ท็อปมาด้วยหัวไชเท้าบดละเอียด ก่อนราดซอสสูตรเฉพาะที่หารับประทานจากที่ไหนไม่ได้ การย่างเนื้อเมนูนี้ให้อร่อยคือ คีบเนื้อชิ้นนี้วางบนเตาย่างให้ด้านที่สัมผัสความร้อนสุกกำลังดีแค่ด้านเดียวและม้วนส่งเข้าปากเลย เนื้อจะยังคงความชุ่มฉ่ำไว้ได้อย่างดีเลยล่ะ

sabu yakinikuWagyu Yaki Shabu (700 บาท)

นอกจากเมนูจานเนื้อแล้วยังมีเมนูจานเดี่ยวที่การันตีรสชาติได้เลยว่า มาจากต้นตำรับของญี่ปุ่นแท้ๆ ทั้งเมนู Spicy Curry ใช่แล้วนี่คือเมนูแกงกะหรี่ที่เรารู้จักกันนั่นแหละ แต่นี่คือข้าวแกงกะหรี่น้ำใส แบบฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่นเลย หากใครคิดว่าน้ำใสๆ แบบนี้รสชาติจะเจือจางหรือไม่ ขอบอกเลยว่ารสชาติเข้มข้นถึงรสถึงเครื่องแกงกะหรี่ที่สุดเลยเท่าที่เราเคยกินมาก แถมมาพร้อมกับหางวัวตุ๋นจนเปื่อยได้ที่เข้ากันดีมากๆ

Spicy Curry (250 บาท)

ต่อกับเมนู  Karauma Tail Chanpon (Spicy) หรือจันปงซุปหางวัวแบบเผ็ด ทางร้านใช้เส้นจัมบงที่เหนียวนุ่ม มาพร้อมซุปร้อนๆ ที่มาพร้อมหางวัวตุ๋นสูตรเข้มข้น เมนูนี้รสชาติเป็นเอกลักษณ์มากจริงๆ  และเมนู Soboro Don ข้าวหน้าเนื้อสับรสนุ่ม โรยด้วยหอมสับและไข่แดงดิบ เมนูนี้หากใครที่ไม่รับประทานเนื้อสามารถเปลี่ยนเป็นหมูได้นะ

sabu yakinikuKarauma Tail Chanpon-Spicy (280 บาท)
Soboro Don (250 บาท)

Sabu Yakiniku คืออีกหนึ่งร้านยากินิกุที่คิจิอยากแนะนำ นอกจากจะได้สัมผัสความอร่อยแบบสุดๆ แล้ว ยังได้รับประสบการณ์ใหม่ในเมนูสุดครีเอทแต่ยังคงความดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีอีกด้วยล่ะ คิจิการันตีได้เลย

Map