Tag "ยากินิกุ"

Ikkyu Japanese Yakiniku (อิคคิว เจแปนนิส ยากินิกุ)
เปิดให้บริการมานานสำหรับ Ikkyu Japanese Yakiniku ร้านปิ้งย่างตำรับญี่ปุ่นที่ได้นำเอาความเป็นยากินิกุในแบบกินซ่ามาไว้ในกรุงเทพฯ
Sushi Cyu & Carnival Yakiniku (ซูชิ ชู แอนด์ คาร์นิวัล ยากินิกุ)
อร่อยในคราวเดียวทั้งซูชิและยากินิกุ มาที่เดียวได้ถึง 2 อารมณ์สำหรับ Sushi Cyu & Carnival Yakiniku ร้านซูชิและยากินิกุระดับพรีเมียมพิกัดซอยทองหล่อ
Gyu-Ya Yakiniku (กิวย่า ยากินิกุ)
Gyu-Ya Yakiniku สาขา The Street Ratchada จัดเต็มทั้งไลน์บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่มีให้เลือกสั่งไม่อั้นกว่า 80 รายการ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อนำเข้า นานาซีฟู้ด เมนูซาชิมิ ซูชิ ไปจนถึงไอศกรีมโฮมเมดรสชาติต่างๆ ที่ทางร้านสั่งทำพิเศษมาเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ
Yakiniku Joeng (ยากินิกุ โจเอง)
Yakiniku Joeng ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นในซอยธนิยะ โดดเด่นด้วยเนื้อคุณภาพดีในบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นยุคเก่า พร้อมที่นั่งรับรองทั้งโต๊ะเดี่ยวและห้องส่วนตัว
Stamina-En (ซึทามินะ เอ็น)
ร้านยากินิกุจากโอซาก้าที่เปิดให้บริการในบ้านเรามานานกว่า 10 ปี เสิร์ฟตั้งแต่เนื้อพรีเมียมนำเข้าจากญี่ปุ่นและออสเตรเลียแต่ในขณะเดียวกันก็มีไทยวากิวให้สั่ง
Tajimaya Yakiniku (ทาจิยามะ ยากินิกุ)
Tajimaya Yakiniku คือร้านยากินิกุส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น เปิดมาเพื่อเอาใจสายปิ้งย่างโดยแตกไลน์มาจาก Tajimaya Shabu ค่ายเดียวกัน ตั้งอยู่บนชั้น 7 ของห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงอย่าง CentralWorld เน้นเสิร์ฟเฉพาะเนื้อเกรดเยี่ยมจากญี่ปุ่นกับออสเตรเลีย
Sabu Yakiniku (ซาบุ ยากินิกุ)
Sabu Yakiniku ร้านยากินิกุแบบฉบับพรีเมียม ร้านแรกของโลกที่นำเข้าเนื้อวัวยูกิฟูริ จากจังหวัดยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมสัมผัสรสชาติของเนื้อวากิวและซอสหมักได้อย่างเข้มข้นโดยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม  ความพิเศษของร้านยังไม่หมดแค่นี้นะ ตามคิจิมาเราจะพาคุณไปล้วงลึกถึงความสุดยอดของร้านนี้กัน
Hokkaido Grill Yakiniku & Jingiskang EZOYA (ฮอกไกโด กริลล์ ยากินิกุ แอนด์ เจงกิสข่าน อิโซย่า)
Hokkaido Grill Yakiniku & Jingiskang EZOYA ไม่เพียงจะได้สัมผัสกับอาหารแนวฮอกไกโดที่มีเนื้อแกะเป็นหัวใจหลักอย่างเจงกิสข่าน ที่นี่ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษๆ ให้แก่สายบุฟเฟ่ต์ได้มาเพลิดเพลินกับยากินิกุและชาบูชาบูกันจนพุงกางในราคาสุดคุ้มค่านานกว่า 60 นาที
Yakiniku En (ยากินิกุ เอ็น)
Yakiniku En เชี่ยวชาญเรื่องยากินิกุ มีเนื้อหลายตระกูลให้เลือกสรร ย้ายมาโลเคชั่นใหม่ตรงต้นซอยสุขุมวิท 26 ได้กว่า 2 ปี สำหรับ Yakiniku En ร้านยากินิกุขวัญใจใครหลายๆ คนที่เคยตั้งประจำการอยู่ใน Taka Town แหล่งรวมร้านอร่อยฝั่งซอยสุขุมวิท 39
Ginryu Yakiniku Kenkyujo (กินริว ยากินิกุ เคนคิวโจ)
ร้านปิ้งย่างสไตล์สนุกด้วยแนวคิดห้องทดลองยากินิกุ ด้วยบรรยากาศร้านกว้างขวางโปร่งโล่งสบายตา ด้านในสุดมีบาร์สำหรับคนที่อยากกินปิ้งย่างคนเดียวอีกด้วย!
Yakiniku Tan (ยากินิกุ ทัน)
ยากินิกุเจ้าดังกับตำนานกว่า 15 ปีในไทย 15 ปีไม่ขาดไม่เกินถ้าให้นับตั้งแต่สาขาแรกเริ่มแถวทองหล่อ ในปัจจุบัน Yakiniku Tan ยินดีต้อนรับคอเนื้อทุกคนได้เลือกไปปิ้งย่างตามสาขาที่ถนัด ไม่ว่าจะเป็นในซอยสุขุมวิท 26 แหล่งรวมร้านอาหารญี่ปุ่นที่โครงการ Nihonmachi กับอีกแห่งที่คิจิเลือกมาเช็คอินในครั้งนี้ที่ชั้น 2 ของพาร์คเลน เอกมัย
Kobe King (โกเบ คิง)
Kobe King ยากินิกุเจ้าดังจากเชียงใหม่มาเปิดสาขาใหม่ในกรุงเทพฯ แล้วที่ซอยอารีย์ “เนื้อราชา ราคามิตรภาพ” คอนเซ็ปต์ช่างถูกใจสายเนื้อย่างที่ต้องการกินเนื้อปริมาณมากในราคาเข้าถึงง่าย สำหรับ Kobe King ร้านยากินิกุสาขาแรกที่เปิดไกลถึงเชียงใหม่ ก่อนจะได้ฤกษ์ขยายความอร่อยแห่งใหม่ที่กรุงเทพฯ ในย่านอารีย์
Koyama Yakiniku (โคยามะ ยากินิกุ)
บุฟเฟ่ต์ อาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นร้าน Koyama Yakiniku กับความสุขในเวลา 1.45 ชั่วโมง ใน 3 ราคาให้เลือกสั่งตามความพรีเมียมของเนื้อและวัตถุดิบที่ต่างกัน
Horumon Yakiniku Hirashima By Kirabi (โฮรุมง ยากินิกุ ฮิราชิมะ บาย คิราบิ )
เป็นแฟนพันธุ์แท้ปิ้งย่างและจะรักมากๆ ถ้าได้กินเครื่องใน ใครที่ยึดคอนเซ็ปต์นี้จะบอกว่า Horumon Yakiniku Hirashima By Kirabi คือเนื้อคู่ที่คุณกำลังหาอยู่ล่ะ
Niku Sho (นิกุ โช)
ร้านยากินิกุเปิดใหม่เสิร์ฟวากิวเซนไดเกรดพรีเมียม  Niku Sho คือร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นทำเลดีในซอยสุขุมวิท 31 ที่เน้นเสิร์ฟเฉพาะวากิวเซนไดเกรด A5 ตลอดจนโปรโมชั่นโดนๆ ที่ขยันออกมาให้ก๊วนสายปิ้งย่างได้ฟินกันในราคาประหยัด
Omi Beef Okaki (โอมิ บีฟ โอคาคิ)
เล่าขานความอร่อยมานักต่อนักกับร้าน Omi Beef Okaki ที่นำเข้าเนื้อวัวโอมิจากฟาร์มในจังหวัดชิกะ เป็นเนื้อวัวที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน นอกจากเนื้อโอมิที่เลื่องชื่อแล้ว การตกแต่งร้านยากินิกุแบบสไตล์คาเฟ่อเมริกัน พร้อมบรรเลงเพลงแจ๊สยุค 80’s ก็ดึงดูดผู้คนได้ไม่น้อยเชียวล่ะ 
Yakinikudo (ปิดกิจการ)
เดินทางมายังย่านทองหล่อกันอีกแล้ว อย่างที่รู้กันว่าย่านนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งสองข้างทางหลากหลายทั้งร้านซูชิ ร้านราเมน ร้านอิซากายะ และแน่นอนว่ามีร้านยากินิกุด้วย วันนี้คิจิขอชวนทุกคนมารู้จักร้านยากินิกุร้านหนึ่งที่มีความพิเศษไม่แพ้ร้านไหนๆ นั่นคือร้าน Yakinikudo นั่นเอง!
TORA Yakiniku X Cafe (โทระ ยากินิกุ X คาเฟ่)
บุฟเฟ่ต์ยากินิกุที่ขนมาครบทุกหมวดอร่อย ขยายสาขาบริการความอร่อยมาเป็นแห่งที่ 2 แล้วกับ TORA Yakiniku X Cafe ร้านบุฟเฟ่ต์ยากินิกุที่ยืนหยัดในคอนเซ็ปต์กินไม่อั้นตั้งแต่เนื้อนำเข้า ซีฟู้ดสดๆ ยกพลจากทะเล ซาชิมิ ซูชิ และนานาของหวานทั้งเครื่องดื่มแบบโฮมเมดที่มีให้เลือกสรรกันอย่างจุใจกว่า 30 รายการ
Rengaya (เรนกาย่า)
Rengaya | ตำนานยากินิกุ 30 ปี มีหรือจะธรรมดา Rengaya ร้านยากินิกุรุ่นเก๋ากึ๊กที่เปิดมอบความสุขให้กับสาวกปิ้งย่างมานานกว่า 30 ปี โลเคชั่นก็เรียกได้ว่าดีใจกลางสุขุมวิท
Iroha Yakiniku (อิโรฮะ ยากินิกุ)
ครอบคลุมทุกความชอบของชาวปิ้งย่างกับร้านยากินิกุที่เปิดมานานกว่า 23 ปี Iroha Yakiniku ร้านยากินิกุระดับตำนานในบ้านหลังใหญ่ซอยทองหล่อ 11 แห่งนี้เปิดมอบความสุขให้กับชาวปิ้งย่างรุ่นสู่รุ่นมานานนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540
Yakiniku Kirabi (ยากินิกุ คิราบิ)
Yakiniku Kirabi เสิร์ฟแต่สิ่งดีๆ ให้ลูกค้าอยู่เสมอ ทั้งเนื้อวัว วัตถุดิบต่างๆ และยังมีห้องส่วนตัวเพื่อให้ลูกค้าได้กินไปคุยไป เพิ่มอรรถรสในการกินมากยิ่งขึ้น
Hon Yakiniku (ฮอน ยากินิกุ)
ร้านยากินิกุน้องใหม่ย่านกรุงเทพกรีฑาที่คัดแต่วากิวคาโกชิม่ามาเสิร์ฟ เปิดมาได้ไม่ถึง 5 เดือนดีสำหรับ Hon Yakiniku ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นหนึ่งเดียวในโครงการ The Park Avenue ที่กรุงเทพกรีฑา นำเสนอวากิวคาโกชิม่าทว่าคุ้มค่าด้วยราคาที่ใครๆ ก็มาอิ่มอร่อยได้
Ranichi (รันอิจิ)
สัมผัสละลายในปากกับเนื้อวากิว A5 จากแหล่งที่ดีที่สุด Ranichi (รันอิจิ) ร้านยากินิกุย่านทองหล่อที่เสิร์ฟทั้งเนื้อโคขุนของไทยและวากิวนำเข้าระดับ A5 กำกับคุณภาพโดยร้านดาวมิชลิน Yoroniku ชื่อดังแห่งกรุงโตเกียว
Yakiniku Bakaichidai (ยากินิกุ บากะอิจิได)
ยากินิกุสุดคึกคักสไตล์โอซาก้า หลังจากเอาใจคอปิ้งย่างที่จีนและโอกินาว่า Yakiniku Bakaichidai ก็ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดอีกสาขาในบ้านเราที่ซอยทองหล่อ พร้อมตอกย้ำความเป็นยากินิกุแบบภูมิภาคคันไซด้วยเมนูเครื่องใน ไปจนถึงความใจใหญ่ด้วยโปรโมชั่นประจำเดือนที่ขยันปล่อยออกมาให้ลูกค้าอย่างเราได้ประหยัดกระเป๋าสตางค์กันมากขึ้น Yakiniku Bakaichidai เสิร์ฟทั้งเนื้อญี่ปุ่น เนื้อออสเตรเลีย และไทยวากิว ส่วนใครที่เป็นสายเครื่องในมาที่นี่น่าจะถูกใจเพราะทางร้านเป็นยากินิกุฉบับคันไซเขาจึงเน้นเรื่องเครื่องในเป็นพิเศษ ด้านบรรยากาศก็คึกคักเป็นกันเองแนวโอซาก้า แถมเดินทางง่ายด้วยพิกัดของร้านตั้งอยู่ต้นๆ ซอยทองหล่อ (เดินเท้า 5 นาทีจาก BTS สถานีทองหล่อ) กับอีกอย่างที่น่าบอกต่อก็คือที่ร้านเขามักจะปล่อยโปรโมชั่นประจำเดือนให้สาวกเนื้อย่างได้ฟินในราคาที่เบาขึ้น อย่าง Bakaichi’s Day ที่ทุกๆ วันที่ 11 ของเดือนลดไปเลยค่าเครื่องดื่ม 50% ขณะวันที่ 25 ก็มีดีลแรงๆ เป็น Nikoniko Niku no Hi สำหรับลูกค้าที่มากินอาหารในวันนั้นเป็นคูปองแทนเงินสดมูลค่า 50% ของยอดใช้จ่ายเพื่อเอาไว้ใช้บริการที่ร้านครั้งต่อไป (หมายเหตุ : สำหรับโปรโมชั่น Nikoniko Niku no Hi กรุณาสอบถามเงื่อนไขกับทางร้านเพิ่มเติม) อีกหนึ่งไฮไลท์ของร้านก็คือโซนสารพัดน้ำจิ้มและเครื่องปรุงรสต่างๆ กว่า 10 ชนิด ซึ่งทางร้านตั้งใจออกแบบมาให้ลูกค้าได้ครีเอทรสชาติน้ำจิ้มกันตามถนัด รวมถึงการเสิร์ฟเนื้อที่ร้านก็ยังคงคอนเซ็ปต์ยากินิกุแบบสึรุฮาชิเอาไว้ […]
Carnival Yakiniku (คาร์นิวัล ยากินิกุ)
Carnival Yakiniku เป็นหนึ่งในร้านเนื้อย่างที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะให้บริการเนื้อย่างสูตรต้นตำรับญี่ปุ่นในไทยมากว่า 24 ปี และยืนยันเต็มเสียงว่าการคัดสรรเนื้อแต่ละส่วนนั้นพิถีพิถันยิ่งกว่าร้านใด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของร้าน จะหมักก่อนย่างหรือจิ้มก่อนกินก็ช่วยเสริมรสชาติของเนื้อได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
Kuroushi no Sato (คุโรอุชิ โนะ ซาโตะ)
เสิร์ฟเนื้อจิตะส่งตรงจากฟาร์ม เนื้อจิตะ (Chita Beef) ส่งตรงจากฟาร์มคือไฮไลท์ของร้าน Kuroushi no Sato เขาล่ะ เนื้อจิตะเป็นที่ร่ําลือว่ารสชาติดีงามตั้งแต่หัวยันหางขณะที่ปริมาณไขมันก็น้อยกว่าพันธุ์อื่นๆ สรุปก็คือเนื้อจิตะเหมาะกับคนที่ชอบกินเนื้อย่างแต่อีกใจก็กลัวว่าถ้ากินไปมากๆ จะรู้สึกเลี่ยน มาที่นี่คุณจะได้ฟินกับเนื้อจิตะแบบส่งตรงจากฟาร์ม ยืนยันคุณภาพด้วยความพิถีพิถันตั้งแต่ต้นทางของวัตถุดิบ หมายความว่าทางร้านไม่ได้แค่เลือกฟาร์มเลี้ยงหรือซัพพลายเออร์ที่ได้มาตรฐาน แต่ Kuroushi no Sato นำเข้าเนื้อวัวจากฟาร์มของตนที่จังหวัดไอจิ (Aichi) โดยไม่ผ่านการแช่แข็งแม้แต่ครั้งเดียว ด้านบรรยากาศก็ไม่เหมือนกับร้านเนื้อย่างทั่วไป ตัวร้านมีขนาด 2 ชั้น ฟิลลิ่งสดใสด้วยเฟอร์นิเจอร์บุหนัง ล้อมรอบด้วยกำแพงกระจกปลอดโปร่งไม่อึดอัด ชั้นบนออกแบบให้เป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยห้องไพรเวทสำหรับคนไหนที่ต้องการสเปซ ซึ่งก็มีบริการถึง 5 ห้องสามารถรับรองลูกค้าต่อห้องได้ 2-4 คน แน่นอนว่ามาถึงร้านเนื้อก็ต้องจัดส่วนที่ขายดีที่สุดมาลงเตาก่อน Jo Karubi (1 ที่ 8 ชิ้น) เนื้อส่วนท้องใกล้กับซี่โครง (Baranniku) ของวัวสายพันธุ์จิตะ จะบอกว่าข้อดีของเขาคือแม้จะเป็นเนื้อติดมันแต่ปริมาณไขมันที่แทรกมาอยู่ในสัดส่วนที่กำลังพอดิบพอดี เรียกว่าโดนใจคนที่ชอบกินเนื้อแดงแต่ก็อยากฟินกับมันให้พอกระชุ่มกระชวย  Jo Karubi (8 ชิ้น 570 บาท) นอกจาก Jo Karubi […]