11:00-23:00 น.
ใครที่เป็นแฟนราเมนเก็บแต้มตามกินมาแล้วทั่วกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้อาจจะรู้สึกเสียดายที่ร้าน Hideya ก๋วยเตี๋ยวโยโกฮาม่าพิกัดแถวๆ สี่แยกพระรามเก้าได้โบกมือลาเราไป ทว่าล่าสุดก็ต้องใจชื้นอีกครั้งเมื่อ Hideya กลับมาในมาดใหม่ในชื่อ EAK Hideya Ramen ที่ยาวขึ้น ทั้งตัวร้านก็เขยิบเข้ามาอยู่กลางเมืองใกล้รถไฟฟ้า แถมบรรยากาศยังร่วมสมัยน่านั่งผิดหูผิดตา และแน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับราเมนสไตล์โยโกฮาม่าอร่อยๆ ให้เราได้ซดจนเกลี้ยงชามเช่นเดิม (ปัจจุบันทางร้านได้ย้ายจากโครงการ Eleven Bangkok ซ.สุขุมวิท 11 ไปเปิดความอร่อยใหม่กันที่พิกัดระหว่างซ.สุขุมวิท 69/1 กับซ.สุขุมวิท 71)
แม้เชฟฮิเดะจะไม่ได้มาลวกเส้นเคี่ยวซุปเหมือนเก่า แต่เชฟก็ได้ถ่ายทอดสูตรสไตล์ฮิเดะยะแทบทั้งหมดให้กับคุณทิม-ทิมสุขนิติ์ สุขุมานนท์ผู้ที่เข้ามารับช่วงส่งต่อความอร่อยคนใหม่ ไม่เพียงแค่นั้นภายใต้ E AK Hideya Ramen คุณทิมก็ยังพัฒนาสูตรราเมนใหม่ๆ ออกมาด้วยแรงแพสชั่นและในอีกทางหนึ่งก็เพื่อตอบโจทย์คอราเมนให้ครอบคลุมทุกความชอบมากขึ้น
มู้ดแอนด์โทนของร้านก็เช่นกัน นอกจากโลโก้ที่ครีเอทขึ้นมาใหม่ ในทุกๆ ดีเทลคุณทิมก็ได้หยิบเอาสิ่งต่างๆ มาตกแต่งให้ลุคของร้านโมเดิร์นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟนีออนดัดล้อกับลายบนผนัง โทนสีที่ใช้ หรืออย่างหน้าร้านเองก็โดดเด้งด้วยโคมประดับสไตล์ญี่ปุ่นสีขาวติดโลโก้ ตลอดจนโนเร็นสีครามที่สื่อความหมายต่อผู้ที่สัญจรไปมาให้รู้สึกว่าร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ยินดีต้อนรับสาวกราเมนทุกคน
อย่างที่บอกไปว่าทางร้านได้พัฒนาสูตรราเมนใหม่ออกมา แต่ถ้าคิจิไม่ได้เริ่มต้นชิมจากชาม Hideya-style Iekei Ramen เมนูซิกเนเจอร์ของร้านก็เหมือนกับพบหน้าแต่ไม่ได้ถามถึงความเป็นมาของอีกฝ่าย เช่นเบื้องหลังกว่าจะได้มาซึ่งราเมนสไตล์โยโกฮาม่าชามนี้ นอกจากตัวซุปทงคตสึจะใช้ส่วนผสมของกระดูกหมูเป็นหลัก ยังมีไก่เป็นคีย์ลับเพิ่มมิติให้รสชาติของซุปนั้นพิเศษมากขึ้น จับคู่กับเส้นไม่หนาเท่าอุด้งแต่ก็อวบกว่าเส้นราเมนปกติ ท็อปด้วยหมูชาชูทั้งส่วนท้องและสันคอ ไข่นกกระทา และผักโขมที่ต้มมาแบบนิ่มๆ ไม่เพียงแค่นั้นที่ร้านยังแนะนำวิธีกิน Hideya-style Iekei Ramen ให้วาไรตี้กว่าเดิม ด้วยการเติมน้ำส้มสายชูและกระเทียมสับในปริมาณตามใจชอบลงไป รสชาติของซุปที่เคยเข้มข้นก็เปลี่ยนเป็นซุปแบบใหม่ให้คนกินเผลอลืมรสชาติความเป็นทงคตสึแบบเดิมๆ ไปเลย
ส่วนใครอยากได้ราเมนซุปโชยุซดง่ายๆ Chuka Soba นี่ก็ว่าอร่อยเข้าทาง ด้วยเบสของซุปมีทั้งส่วนประกอบอย่างโครงไก่และปลาที่ตามขั้นตอนต้องไม่ควรเคี่ยวนานกว่า 6 ชั่วโมง เพราะถ้าเกินกว่านั้นโครงไก่จะละลายและทำให้ซุปกลายเป็นซุปข้นไปในทันที หรือแม้แต่เส้นเองทางร้านก็เลือกใช้ให้เข้าคอนเซ็ปต์ความเป็นบะหมี่จีน และแน่นอนว่ามาพร้อมกับท็อปปิ้งที่ทำให้ราเมนชามนั้นสมบูรณ์ขึ้น ได้แก่ เม็นมะ, ต้นหอมญี่ปุ่นซอย, ผักโขม, สาหร่ายแผ่น และชาชูส่วนท้องกับสันคอ
มาถึงสเปเชียลเมนูที่คุณทิมคิดค้น พัฒนา เพื่อให้รสชาติมวลรวมในชามนั้นออกมาอร่อยลงตัวที่สุด อย่าง Spicy Tonkotsu Vegetarian Ramen ราเมนวิถีมังสวิรัติตั้งแต่ซุปทงคตสึจากผัก 4 ชนิด เส้น ยันเครื่องเคราทั้งหมดที่อยู่ในชาม ซึ่งตั้งแต่เสิร์ฟมาก็เป็นที่ถูกปาก โดยเฉพาะกับลูกค้าสายเวจเจททาเรียนนั้นจะสังเกตว่าถูกใจมากเป็นพิเศษ
Homemade Gyoza ที่นี่ก็น่าโดนแถมมีให้เลือกว่าจะสั่งเป็นไส้ผักหรือไส้หมู และเท่าที่ชิมดูคิจิว่ารสชาติดกลมกล่อมแบบไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม หรือแม้แต่ของหวานหนึ่งเดียวก็คือ Almond Pudding ที่ทางร้านทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนหลายๆ คนที่ได้กินชมกันไม่ขาด แล้วยังเสนอให้ทางร้านควรทำแพ็กเกจพร้อมสั่งกลับบ้านออกมาได้แล้ว