• Bookmark
  • Share

Hinata Asoke (ฮินาตะ สาขาอโศก)

  • Bookmark
  • Share
  • 11:30-14:30 น., 17:30-21:00 น.

  • Hinata
  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 500 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = น้อย
    เนื้อวัว = มาก
    ผัก = มาก
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    ปานกลาง
  • Special
    Special
    มีเชฟญี่ปุ่น
    มีห้องส่วนตัว
    มีสาเกมากกว่า 10 ชนิด

เสิร์ฟคุชิยากิและคุชิอาเกะราคานักศึกษาเริ่มต้นที่ 20 บาทต่อไม้

ตกเย็นทำงานมาเหนื่อยๆ ถ้าได้ฝังตัวอยู่ในร้านบรรยากาศเป็นกันเองมีอาหารอร่อยถูกปากให้กินก็คงจะเป็นอะไรที่ชุบชูใจอยู่ไม่น้อย และถ้าเป็นไปได้ราคาต้องไม่แรงมากจนอยากจะแวะวันไหนก็ได้ไม่เดือดร้อนกระเป๋าสตางค์ ซึ่งเงื่อนไขประมาณนี้คิจิคิดออกอยู่ร้านเดียวก็คือ Hinata (ฮินาตะ) ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดสาขาแรกในซอยสุขุมวิท 21 เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2562 เน้นเสิร์ฟเมนูคุชิยากิ (Kushiyaki) กับ คุชิอาเกะ (Kushiage) รสชาติดั้งเดิม ปิ้งและทอดโดยเชฟชาวโอซาก้าที่เชี่ยวชาญอาหารสายนี้โดยเฉพาะ

ที่ Hinata ไม่เพียงจะโดดเด่นเรื่องเมนูคุชิยากิและคุชิอาเกะ รายการอาหารจานเดี่ยวไปจนถึงเซ็ตที่เสิร์ฟในมื้อกลางวันก็ล้วนอร่อยถูกปากชาวอโศก (ราคาเริ่มต้นที่ 100 บาท) น่ารักไปกว่านั้นคือร้านไม่เก็บเซอร์วิสชาร์จเพิ่มหนำซ้ำยังเติมความเป็นกันเองให้กับลูกค้าทุกโต๊ะแถมเป็นโบนัสอีกด้วย เรื่องขนาดพื้นที่ก็ไม่ได้ถึงกับกะทัดรัดเพราะรับรองลูกค้าได้กว่า 50 ที่นั่ง ตัวร้านมี 2 ชั้น ทั้งตกแต่งได้อารมณ์ญี่ปุ่นแบบสุดๆ

บรรยากาศภายในร้านที่มีทั้งโต๊ะรับรองแบบเคาน์เตอร์บาร์และโต๊ะสำหรับใครที่มากันเป็นคู่
ถ้ามาเป็นกลุ่มก็ต้องขึ้นที่ชั้น 2 ของร้านเลย 
อร่อยแบบโฮมเมดโดยเชฟชาวโอซาก้า
ปิ้งตามออเดอร์กันแบบไม้ต่อไม้

ในพาร์ทของมื้อเย็นนอกเสียจากจานกินเล่นน่าสั่งหลายรายการ (บางเมนูก็หากินยากในบ้านเราอย่างไก่ดิบคลุกพอนสึ, ไก่ต้มซอสโยดาเระ) ทว่า เต้าหู้นมสด คือเมนูอันดับต้นๆ ที่คิจิอยากแนะนำให้ได้ลองชิมกัน เต้าหู้นมสดโฮมเมดเนื้อเนียนที่เชฟลงมือทำสดทุกเช้า พอเอามากินคู่กับซอสที่มีโชยุเป็นเบสและวาซาบิ ผลคืออร่อยลงตัวจนอยากเบิ้ลอีกสักถ้วย

เต้าหู้นมสด (60 บาท)

บรรดาเมนูคุชิยากิที่มีให้เลือกสรรเกือบ 30 ชนิด 7 ไม้ที่เราจะว่ากันต่อจากนี้คือรายการขายดีของที่ร้าน เริ่มจาก หมูสามชั้นย่างราดซอสมิโซะ รสชาติออกหวานกินซ้ำได้ไม่เบื่อ สึคุเนะ สูตรของเชฟที่เลือกได้ว่าจะย่างเกลือหรือย่างซอส สันในไก่วาซาบิ ที่ถ้าอยากเสริมด้วยรสเปรี้ยวจะจิ้มสั่งไปที่หน้าบ๊วยมากินด้วยกันก็ได้ ส่วน ตูดไก่ และ เนื้อไก่และหอมญี่ปุ่นย่างซอส นี่ก็กินง่ายด้วยสัมผัสฉ่ำสองต่อทั้งเนื้อไก่และซอส แต่ถ้าใครชอบสะโพกไก่เป็นพิเศษเราขอผายมือไปที่เมนู สะโพกไก่ย่างซอส เลยถูกใจแน่นอน กับ เบคอนพันหน่อไม้ฝรั่ง ที่ใครได้ลองก็ต้องติดใจกันทุกราย 

เรียงจากซ้ายไปขวา: หมูสามชั้นย่างราดซอสมิโซะ (20 บาท / ไม้), สึคุเนะย่างเกลือ (30 บาท / ไม้), สันในไก่วาซาบิ (20 บาท / ไม้), ตูดไก่ (20 บาท / ไม้), เนื้อไก่และหอมญี่ปุ่นย่างซอส (20 บาท / ไม้)

สำหรับคุชิอาเกะเมนูทอดนั้นก็อร่อยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านั้น โดยเฉพาะ สันในไก่, เบคอนพันชีส, หมูสามชั้น และ หอมใหญ่ ซึ่งเชฟก็ทอดออกมาได้กรอบเหลืองไม่อมน้ำมัน เราแนะนำให้กินด้วยกันกับซอสวูสเตอร์รสชาติออกเปรี้ยวแต่ถ้าใครชอบหวานก็จิ้มซอสทงคัตสึได้เลย อร่อยเหมือนกัน

เรียงจากซ้ายไปขวา: สันในไก่ (20 บาท / ไม้), เบคอนพันชีส (30 บาท / ไม้), หมูสามชั้น (20 บาท / ไม้) และ หอมใหญ่ (20 บาท / ไม้)

ว่ากันด้วยมื้อกลางวัน โอมุ ยากิโซบะ ก็คือหนึ่งในตองอูของร้าน เส้นไม่แข็งไม่นุ่มผัดกับซอสก่อนห่อด้วยไข่แผ่นบาง เอาเป็นว่าลองเถอะ ไม่มีผิดหวัง 

โอมุ ยากิโซบะ (130 บาท)

แฮมเบิร์กหน้าตาน่ารักอย่าง ข้าวแฮมเบอร์เกอร์ชีส ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมนูซิกเนเจอร์ของ Bikkuri Donkey ร้านดังในญี่ปุ่น เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสสไตล์ญี่ปุ่น อิ่มกำลังดี

ข้าวแฮมเบอร์เกอร์ชีส (200 บาท)

ปิดท้ายด้วย อุด้งเย็นเทมปุระ เมนูลับที่ไม่มีในเมนู นำเสนออุด้งในแบบฉบับซานุกิอุด้งซึ่งสูตรคิดค้นโดยเชฟเจ้าของร้านที่มีประสบการณ์การทำงานที่ร้านอุด้งมามากกว่า 30 ปี ถือได้ว่านอกจากจะเป็นเมนูดับร้อนได้ดี ทุกอย่างในชามยังลงตัวเข้ากันอย่างคาดไม่ถึง

อุด้งเย็นเทมปุระ (ขนาดใหญ่ 170 บาท)

Map