หนึ่งในความกังวลของหลายคนเวลาขับรถส่วนตัวไปกินอาหารนอกบ้านคือ วิตกว่าจะมีที่จอดรถให้เราไหมนะ ? จะปลอดภัยไหม? คำถามผุดมาขึ้นตลอดเวลา แต่หลังจากนี้สบายใจได้เลย เพราะคิจิได้ยก 20 ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีลานจอดรถสแตนด์บายไว้ให้อุ่นใจ ปลอดภัย หายห่วง

หมดกังวลเรื่องที่จอดรถแล้ว ไปหาอะไรกินกันดีกว่า : )

1. Shinsoko Sushi (ชินโซะโกะ ซูชิ)

คุณภาพวัตถุดิบสดใหม่ ซาชิมิที่บรรจงแล่กันแบบคำต่อคำ หลากหลายเมนูอาหารญี่ปุ่นให้เลือกสรร อีกทั้งคอนเซ็ปต์ของร้านที่สัมผัสได้ว่าจริงใจในทุกอณู เลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่หลายคนขอฝากท้องกับ Shinsoko Sushi มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่เปิดร้านสาขาแรกที่ถนนสุรวงศ์

“Shin” แปลว่า “หัวใจ” ส่วน “Soko” นั้นถอดความหมายออกมาได้ว่า “ก้นบึ้ง” ทำให้ทุกจานที่ปล่อยออกมาจากมือเชฟนั้นล้วนผ่านความพิถีพิถันและใส่ใจจตัวร้านก็เช่นกัน ชินโซะโกะจะให้ความสำคัญกับอินทีเรียภายในให้เรียบง่ายไม่เอะอะ ซึ่งต่างกับฟังก์ชั่นการใช้สอย เพราะนอกจากจะมีหลายโซนให้เลือกนั่งราวๆ 15 โต๊ะ บริเวณร้านยังมีห้องรับรองสำหรับกรุ๊ปใหญ่อีก 3 ห้อง เอาเป็นว่าใครเพื่อนเยอะและมีโจทย์เพื่อมาสังสรรค์ ที่ชินโซะโกะก็จัดให้ได้

Australian Beef Shabu Set (499 บาท)

อ่านรีวิวร้าน Shinsoko Sushi ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/shinsoko-sushi/

INFO
Tel: 02-074-4419
Address: 9/25 ซ.อรรถกะวี 1 ถ.สุขุมวิท 26
Opening Hours: 11:30-14:30 น., 18:00-22:30 น.
Holiday: X
Facebook URL: Shinsoko Sushi

2. Kensaku (เคนซากุ)

Kensaku ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 4 ป้ายสีน้ำเงินโลโก้รูปปลาสีขาวนำทางเราตั้งแต่ต้นซอยจนไปถึงบ้านไม้หลังหนึ่ง ภายในปรับเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกอบอุ่นด้วยโทนสีน้ำตาลของไม้ไผ่บนผนัง พร้อมห้องส่วนตัวสำหรับมาเป็นหมู่คณะ และยังมีเคาน์เตอร์บาร์ที่คุณสามารถพูดคุยกับเชฟระหว่างที่ดื่มด่ำกับอาหารได้ ซึ่งเชฟจะเล่าให้ฟังตั้งแต่ที่มาของวัตถุดิบจวบจนจบบนจานกันเลยทีเดียว

Kabayaki Unajuu ข้าวหน้าปลาไหลย่างซอสเต็มตัว (1,650 บาท)

อ่านรีวิวร้าน Kensaku ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/kensaku/

INFO
Tel: 096-426-9878
Address: ซ.พหลโยธิน 4 ถ.พหลโยธิน
Opening Hours: 11:00 – 14:00 น., 17:00 – 22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Kensaku

3. Uwajima (อุวะจิมะ)

ผ่อนคลายในบรรยากาศสุดโรแมนติก พร้อมอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารญี่ปุ่นที่หลากหลาย คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น กับร้าน Uwajima ร้านอาหารญี่ปุ่นริมทะเลสาบเมืองทองธานี ที่ตั้งชื่อตามเมือง “อุวะจิมะ” เมืองเล็กๆ เงียบสงบติดชายทะเล ตั้งอยู่ในภูมิภาคชิโกกุ ประเทศญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงในด้านการเพาะเลี้ยงไข่มุกและการทำประมง

แน่นอนว่าสำหรับร้าน Uwajima ที่นี้เน้นในเรื่องของอาหารทะเลสดๆ ทั้งซูชิ ซาชิมิ ชุดหม้อไฟ ชุดบาร์บีคิวสไตล์ญี่ปุ่น รวมไปถึงเมนูอื่นๆ ที่คัดสรรวัตถุดิบมาเป็นอย่างดี ในบรรยากาศร้านสไตล์โมเดิร์นที่ให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ผสมผสานกันได้อย่างสวยงามและลงตัว แนะนำช่วงเย็นๆ เลือกที่นั่งโซนด้านนอกติดทะเลสาบกับวิวสวยๆ ยามฟ้าเปลี่ยนสี ยิ่งบวกกับอาหารอร่อยๆ ด้วยแล้ว ถือเป็นช่วงเวลาที่พิเศษและยอดเยี่ยมในการรับประทานอาหาร

Rainbow Sushi Set (599 บาท)

อ่านรีวิวร้าน Uwajima ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/uwajima/

INFO
Tel: 02-033-1853, 064-184-7109
Address: IMPACT Lakefront ริมทะเลสาบเมืองทองธานี ซ.แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 39 (ถ.ป๊อบปูล่า)
Opening Hours: 16:00-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Uwajima

4.Guru Gyu Yakiniku (กูรู กิว ยากินิกุ)

Guru Gyu Yakiniku ร้านบุฟเฟ่ต์ผู้ได้รับสมญานามว่า บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างขั้นเทพ ที่เราเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะเคยไปกันบ้างแล้ว ร้านตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธินข้างๆ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ระหว่าง BTS สถานีสะพานควายกับอารีย์ แม้ขนาดร้านจะไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แต่ภายในก็จัดวางที่นั่งได้แบบสบายๆ ไม่ดูอึดอัดจนเกินไปนัก ดูสะอาดสะอ้านเข้ากันกับการตกแต่งที่ดูเรียบง่ายมาในโทนสีดำ-แดง

ความหลากหลายของเมนูอาหารโดยเฉพาะบรรดาเนื้อส่วนต่างๆ ของที่นี่ ต้องบอกว่าจัดจ้านเอามากๆ พิถีพิถันตั้งใจคัดสรรเฉพาะเนื้อที่ดีมีคุณภาพ เสิร์ฟกันแบบจานต่อจาน คุ้มค่าคุ้มราคาภายในเวลา 2 ชั่วโมง มีให้เลือกหลายราคาเริ่มตั้งแต่ชุด Deluxe Buffet 599 บาท ที่ีมีให้เลือกทั้งหมด 44 เมนู ชุด Premium Buffet 699 บาท หลากหลายถึง 66 เมนู เช่น เนื้อบูลโกกิ เนื้อใบบัว เนื้อสองสี เนื้อสามศอก เบค่อนรมควัน และอีกหลายเมนูอื่นๆ อีกเพียบ ทั้งเนื้อหมู ซีฟู้ด ชุดผักต่างๆ และของหวาน ปิดท้ายด้วยชุดพิเศษสุดพรีเมี่ยมอย่าง Super Buffet 1,999 บาท ที่เลือกใช้เนื้อส่วนต่างๆ ทั้งเนื้อวากิวนำเข้าจากญี่ปุ่น เนื้อไทย-วากิว เนื้อไทย-เฟรนซ์ และเนื้อไทยเกรดพรีเมี่ยม เลือกสั่งได้เต็มที่ 81 เมนู หรือทุกอย่างทั้งหมดภายในร้านนั่นเอง

Super Short Ribs Wagyu

Beef Tongue Thick Soft หรือลิ้นวัวซุปเปอร์ชิ้นหนานุ่ม

อ่านรีวิวร้าน Guru Gyu Yakiniku ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/guru-gyu-yakiniku/

INFO
Tel: 02-279-9086
Address: 466/5-6 ถ.พหลโยธิน (อยู่ระหว่าง BTS สะพานควาย-อารีย์ ใกล้ธนาคารออมสิน)
Opening Hours: อ.-อา. 11:30-23:00 น.
Holiday: วันจันทร์
Facebook URL: GuruGyuu บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างขั้นเทพกูรูกิว

5.Torajiro (โทราจิโร่)

ชื่อเสียงเรียงนามยาวนานไม่เป็นรองใครเหมือนกัน สำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ Torajiro ที่เปิดให้บริการมากว่า 20 ปี ย้อนวันเวลาจากสถานที่ตั้งแรกเริ่มย่านทองหล่อ สู่ที่ตั้งแห่งใหม่ภายในอาคารซอยสุขุมวิท 39 และอีก 2 สาขา ในโครงการ Nihonmachi สุขุมวิท 26 และสาขาที่จังหวัดเชียงใหม่ ภายในพบกับบรรยากาศเรียบหรูโทนสีน้ำตาลเข้ม-ดำ ร่วมสมัยแบบสไตล์โอเรียนทัล ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยโต๊ะที่นั่งมุมต่างๆ ทั้งโต๊ะนั่งแบบปกติ และนั่งพื้นแบบญี่ปุ่น พร้อมผนังกั้นแบบร้านอาหารญี่ปุ่นที่เราเห็นกันบ่อยๆ

Kushi Mori L 9 hon (299 บาท)

ในส่วนของเมนูต่างๆ เรียกได้ว่าค่อนข้างครบทุกเมนูยอดนิยม ด้วยวัตถุดิบคุณภาพทั้งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและภายในประเทศ ทั้งซูชิยอดนิยม เมนูสไตล์กับแกล้มต่างๆ อาหารทะเล ดงบุริ ยากิโทริ ชุดหม้อไฟต่างๆ รวมถึงเครื่องดื่มที่หลากหลาย สามารถนั่งได้ยาวๆ ตลอดทั้งคืน

อ่านรีวิวร้าน Torajiro ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/torajiro/

INFO
สาขา สุขุมวิท 39
Tel: 02-261-5351
Address: ซ.พร้อมศรี 1 สุขุมวิท 39
Opening Hours: จ.-ส.17:30-LATE., อา.16:30-LATE
Holiday: X
Facebook URL: Torajiro Japanese Restaurant – Sukhumvit Soi 39

6. Bankoku  (บานโคกุ)

Bankoku สุดยอดชาบูบุฟเฟ่ต์สแตนอโลนย่านรัชดา-สุทธิสาร ที่อลังการงานพรีเมี่ยมทั้งขนาดร้าน บรรยากาศ วัตถุดิบต่างๆ เมนูอาหารไลน์บุฟเฟ่ต์ที่เยอะและหลากหลายเอามากๆ พิกัดร้านหาไม่ยากตั้งอยู่ใกล้ๆ MRT สถานีสุทธิสาร พร้อมที่จอดรถสะดวกสบาย ขนาดร้านกว้างขวาง มีที่นั่งตามมุมต่างๆ ให้เลือกมากมาย แถมจัดวางระยะห่างในแต่ละโต๊ะได้พอดี ดูไม่อึดอัด พร้อมห้องส่วนตัวสำหรับทุกการสังสรรค์

อัพเดตราคาล่าสุดมี 2 ราคา เซ็ต silver 799 บาท และเซ็ต Gold 1,099 บาท ทั้งหมดสามารถรับประทานได้ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง เดินเลือกกันได้ตามสะดวกทั้งโซนอาหารทะเลสดๆ ที่มีพระเอกอย่าง หอยนางรมสดๆ นำเข้าจากเกาหลี ปูม้าจากทะเลสุราษฏร์ฯ ปูขน กั้งกระดาน ปลาหมอทะเล ปลากระพงขาว แซลมอน และอื่นๆ อีกเพียบ

อ่านรีวิวร้าน Bankoku ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/bankoku-shabu-buffet/

INFO
Tel: 02-276-5889
Address: 69 ซ.รุ่งเรือง ถ.สุทธิสารวินิจฉัย (ตรงข้ามโรงแรมเจ้าพระยา)
Opening Hours: จ.-ศ. 11:30-14:00 น., 17:00-22:00 น.
ส.-อา. 11:30-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Bankoku

7. Touka (โทกะ)

หากจะพูดถึงมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมกินดื่มแบบญี่ปุ่นในสไตล์ร้านอิซากายะก็ต้องคิดถึงร้าน Touka (โทกะ)  ร้านอิซากายะที่โดดเด่นในเรื่องการตบแต่งร้านแบบเรียบง่าย แต่ดูมีระดับโดยมัณฑนากรชาวญี่ปุ่น ผู้ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ตั้งแต่สวนหินแบบเซ็นขนาดกะทัดรัดบริเวณหน้าร้าน ส่วนด้านการตบแต่งภายในเน้นการใช้งานไม้และเชือกป่าน รวมไปถึงของตกแต่งประดับอย่างพัดและป้ายผ้าที่ช่วยเติมสีสันให้กับกำแพงของร้านให้ดูครึกครื้น มีครัวเปิดอยู่ตรงกลางร้านที่คุณสามารถชมลีลาการปรุงอาหารของเชฟอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีบริการห้องรับรองพิเศษที่แยกตัวออกจากในส่วนห้องอาหารหลักของร้านบริเวณอย่างเป็นสัดเป็นส่วน สำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์

Kushiyaki (Set of Grilled Chickens 8 pcs.) เซ็ตเนื้อไก่และเครื่องในไก่ปรุงรสเสียบไม้ย่าง 8 ไม้ 8 สไตล์
ทางร้านเลือกใช้ไก่คุณภาพสูงจากฟาร์มที่ได้มาตรฐานและสะอาดที่จังหวัดนครนายก

อ่านรีวิวร้าน Touka ฉบับเต็ม:https://kiji.life/eats/restaurant/touka/

INFO
Tel: 02-236-8230
Address: โรมแรมบัญดารา สวีท สีลม ซ.ศาลาแดง 1 ถ.ศาลาแดง
Opening Hours: จ.-ศ. 11:00-14:00 น., 17:00-23:00 น., ส.-อา. 17:00-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: TOUKArestaurant

8. Nishiki Japanese Restaurant (ห้องอาหารนิชิกิ)

ห้องอาหารญี่ปุ่นในโรงแรม Golden Tulip Sovereign Hotel Bangkok บนถนนพระราม 9 ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศโปรงสบายในสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย และมีอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับ มีให้บริการทั้งในรูปแบบอะลาคาร์ทและบุฟเฟต์ที่มีอาหารให้เลือกสั่งกันกว่า 77 เมนู ตั้งแต่ ซูชิ ซูชิโรล ซาชิมิ เทปปันยากิ ของทอด พิซซ่าญี่ปุ่น อาหารย่าง และอาหารญี่ปุ่นอีกนานาชนิด

Hiroshima Okonomiyaki (550 บาท)   โอโคโนมิยากิแบบ 3 ชั้น แป้งหนานุ่มที่อัดแน่นไปด้วยผักต่างๆ สูตรเฉพาะของร้าน Nishiki Japanese Restaurant จะใส่ทั้งกะหล่ำปลีเขียวและกะหล่ำปลีม่วงทำให้สีสันดูสวยงามและน่ากินมากยิ่งขึ้น

อ่านรีวิวร้าน Nishiki Japanese Restaurant ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/nishiki-japanese-restaurant/

INFO
Tel: 02-641-4777
Address: ชั้น 1 Golden Tulip Sovereign Hotel Bangkok ถ.พระราม 9
Opening Hours: 11:30-14:30 น., 18:00-22:30 น.
Holiday: X
Facebook URL: Nishiki Japanese Restaurant

9. Jidori Cuisine Ken (จิโดริ คุยซีน เคน)

หากพูดถึงเมนูไก่ย่างของบ้านเราอาจจะดูธรรมดา แต่ถ้าเป็นไก่ย่างสไตล์ญี่ปุ่นหรือยากิโทริที่ร้าน Jidori Cuisine Ken แห่งนี้ไม่มีอะไรที่ธรรมดาเลย ตั้งแต่ไก่ที่มาจากฟาร์ม ตัวถ่าน วิธีการย่าง และเครื่องปรุงสูตรพิเศษ จึงไม่น่าแปลกใจหากราคาต่อไม้อาจจะดูสูงสักหน่อย แต่เมื่อได้ลองชิมก็จะบอกว่าคุ้มค่ากับรสชาติ คุณภาพ และบริการที่ได้รับ เพราะไก่ที่นี่เลือกใช้ไก่บ้านจากฟาร์มที่สะอาดปลอดภัย มีวิธีการเลี้ยงที่ปล่อยให้ไก่เดินในโรงเรือนได้อย่างสะดวกสบาย และแบ่งโรงเรือนเลี้ยงไก่ตามอายุของไก่เพื่อการดูแลที่เหมาะสมกับช่วงวัย ด้วยคุณภาพที่คัดสรรมาเป็นพิเศษและวิธีการปรุงสูตรเฉพาะจนได้รสชาติไม่เหมือนใคร ทำให้ร้านนี้เป็นร้านนิยมในหมู่คนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบยากิโทริ สามารถมานั่งกินไก่ย่างในบรรยากาศดีๆ พร้อมดื่มและพูดคุยกับเพื่อนได้อย่างสนุกสนาน

Liver Crostini (250 บาท) ตับไก่บดสูตรพิเศษเสิร์ฟคู่ขนมปัง ให้รสชาติมันกำลังดีเข้ากันกับกลิ่นพริกไทยอ่อนๆ น่าจะเข้ากับไวน์และสาเกได้ดีด้วย

อ่านรีวิวร้าน Jidori Cuisine Ken ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/jidori-cuisine-ken/

INFO
Tel: 02-661-3457
Address: ซ.สุขุมวิท 26
Opening Hours: จ.-ส. 17:00-24:00 น.
อา. 17:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Jidori cuisine Ken 地鶏料理　けん

10. Sousaku (โซซากุ)

จากตึกแถวเล็กๆ เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน สู่บ้านดินหลังใหญ่ภายในซอยอารีย์ 4 สำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นสุดครีเอท “โซซากุ” (Sousaku) กับบรรยากาศร้านที่ดูอบอุ่น กันเอง ให้อารมณ์แบบบ้านญี่ปุ่นโบราณ ชั้นล่างแบ่งเป็นห้องสำหรับรับประทานอาหารประเภทหม้อไฟอย่างชาบูหรือนาเบะ ในส่วนพื้นที่ชั้น 2 แบ่งออกเป็นที่นั่งตามมุมต่างๆ และห้องส่วนตัวสำหรับจัดเลี้ยงหรือปาร์ตี้สังสรรค์ พร้อมบาร์ซูชิเผื่อใครอยากนั่งทานอาหารพร้อมกับดูลีลาท่าทางในการปรุงอาหารของเชฟ

Sashimi Ice Dome (1,499 บาท)  เมนูสุดสร้างสรรค์ ที่ไม่ว่าโต๊ะไหนสั่งก็ต้องมีเสียเวลาถ่ายรูปกันบ้าง กับเซ็ตซาชิมิที่มีทั้ง Otoro, Chutoro, Salmon toro, และอีกมากมายหลายชนิด สับเปลี่ยนหมุนเวียนตามความสดในวันนั้นๆ ทั้งหมดเสิร์ฟในโดมน้ำแข็งที่ช่วยคงความสดของปลาได้เป็นอย่างดี

Shime Sabe (490 บาท) หนึ่งในเมนูกับแกล้มยอดนิยมกับปลาซาบะดองสูตรโฮมเมด ทางร้านใช้น้ำส้มหมักข้าวชั้นดีในการดอง ทำให้ได้รสที่ไม่เปรี้ยวหรือเค็มจนเกินไป ก่อนเผาไฟและเสิร์ฟบนไม้ไผ่

อ่านรีวิวร้าน Sousaku ฉบับเต็ม:  https://kiji.life/eats/restaurant/sousaku/

INFO
Tel: 02-279-2461
Address:  ซ.อารีย์ 4  ถ.พหลโยธิน 7
Opening Hours: 12:00-15:00 น. – 17:00-22:00 น.
Holiday: วันจันทร์
Facebook URL: Sousaku

11. Momotarou Ramen (โมโมทาโร่ ราเมน)

ตำนานราเมน 23 ปีในซอยธนิยะติดฝั่งถนนสุรวงศ์ ถือเป็นร้านราเมนเจ้าแรกๆ ในย่านนี้เลยก็ว่าได้ ที่ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปสักกี่สิบปี ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นก็ยังแวะเวียนไปฝากท้องกันแน่นร้านอยู่เป็นประจำ กับความหลากหลายของราเมนที่มีให้เลือกเกือบ 20 ชนิดรวมถึงเมนูอิ่มท้องอื่นๆ ในบรรยากาศเรียบง่าย นั่งกินสบายๆ ไม่ต้องเคอะเขิน แถมการบริการของพนักงานร้านนี้ เข้าขั้นยอดเยี่ยมและเป็นกันเองอีกด้วย

Shoyu Ramen (190 บาท) ราเมนรสซีอิ๊วญี่ปุ่น หอมกลมกล่อมเค็มกำลังดี น้ำซุปแม้จะดูใสแต่กลับให้รสเข้มข้นเพราะเคี่ยวนานถึง 6 ชั่วโมง เข้ากันกับเส้นราเมนขนาดกลางที่ลวกมาแบบนุ่มๆ

อ่านรีวิวร้าน Momotarou Ramen ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/momotaro-ramen/

INFO
Tel: 02-235-0108
Address:  ซ.ธนิยะ ถ.สุรวงศ์
Opening Hours: 11:00-LATE
Holiday: X
Facebook URL: Momotarou Ramen

12. Peko (เปโค)

ร้านอาหารที่เน้นขายเนื้อวัวนำเข้าจาก Ohira Farm บนเกาะฮอกไกโด ด้วยคอนเซ็ปต์ส่งตรงวัตถุดิบสดๆ จากฟาร์มมาถึงเมนูบนโต๊ะอาหารให้คนไทยได้ลิ้มรสชาติเนื้อวัวคุณภาพดี ทางร้านสามารถควบคุมคุณภาพได้ตลอดทั้งกระบวนการ เพราะ Ohira Farm เป็นหนึ่งในกิจการของครอบครัวมาตั้งแต่รุ่นคุณตา เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1979 เลี้ยงวัวตั้งแต่เกิดในฟาร์มสะอาด ปลอดเชื้อ และดูแลโดยพนักงานอย่างเอาใจใส่ จากวัตถุดิบคุณภาพมาถึงอาหารที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน ออกเสิร์ฟในร้านที่ตกแต่งด้วยดีไซน์เก๋ไก๋สไตล์ Hokkaido Garage สามารถนั่งกินอาหารทั้งหนักเบาได้นานๆ อย่างไม่รู้เบื่อ

Today’s Steak (750 บาท) สเต๊กเนื้อที่เลือกใช้แต่ละส่วนเฉพาะแต่ละวัน ทำให้ได้ลิ้มรสชาติของเนื้อที่ต่างออกไปในทุกครั้งที่มากิน

อ่านรีวิวร้าน Peko ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/peko/

INFO
Tel: 083-542-3199
Address: ซ.สุขุมวิท 49
Opening Hours: อ.-ส. 11:30-14:00 น., 17:30- 22:00 น.,
อา. 11:30-14:00 น., 17:30-21:00 น.
Holiday: วันจันทร์
Facebook URL: Peko

13. Yasuda (ยาสุดะ)

Yasuda คือร้านที่แฟนพันธุ์แท้เนื้อวัวทั้งหลายไม่ควรพลาด เพราะทุกเมนูของที่นี่ปรุงขึ้นจากเนื้อวัวโกเบระดับ A5 เท่านั้น มีสาขาที่ฟุกุโอกะถึง 4 สาขา และเก็บเกี่ยวคอนเน็คชันกับบริษัทผลิตเนื้อวัวมาอย่างยาวนานถึง 30 ปี ทำให้สามารถนำเข้าเนื้อวัวโกเบชั้นดีมาถึงเมืองไทยได้แบบสดๆ ทั้งตัว ไม่ผ่านการแช่แข็งและไม่ต้องแล่แยกส่วน จึงมั่นใจได้ทั้งเรื่องคุณภาพความสดใหม่ การเลือกใช้เนื้อแต่ละส่วนได้อย่างเหมาะสม และราคาที่ต่ำกว่าร้านอื่นในระดับเดียวกัน ภายในร้านมีที่นั่งทั้งแบบธรรมดา ห้องส่วนตัว และห้องสำหรับจัดปาร์ตี้ที่จุได้ถึง 40 คน

Gapao Kobe Beef (580 บาท)  เนื้อโกเบย่าง ราดซอสครีมกะเพรา กินคู่กับไข่ออนเซ็น และเครื่องเคียงเห็ดเทมปุระ กับใบกะเพราทอดกรอบ รสชาติอาจจะไม่ได้จัดจ้านเหมือนอาหารไทยดั้งเดิม แต่เป็นรสชาติกะเพราอ่อนๆ ที่เข้ากับเนื้อย่างได้เป็นอย่างดี

อ่านรีวิวร้าน Yasuda ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/yasuda/

INFO
Tel: 02-258-2530
Address:  ซ.สุขุมวิท 34 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: 11:30-14:30 น., 17:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Yasuda

14. Hokkaido Genshiyaki & Kamameshi (ฮอกไกโด เก็นชิยากิ แอนด์ คามะเมชิ)

ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดโดดเด่นในเรื่องของเมนูซีฟู้ดสดๆ ส่งตรงจากเมืองท่าเกาะฮอกไกโด  รวมไปถึงเทคนิคการปรุงอาหารแบบโบราณของชาวฮอกไกโด เน้นการใช้ถ่านไม้แบบวิถีดั้งเดิม บรรยากาศร้านทั้งตัวอาคารและการตกแต่งดูสวยงาม ไฮไลท์ของที่นี่คือการย่างปลาแบบ “genshiyaki” ภูมิปัญญาดั้งเดิมในการปรุงอาหารของชาวฮอกไกโด กับความชำนาญในการใช้พลังงานความร้อนจากไฟ วิธีนี้จะทำให้ปลามีกลิ่นหอม หนังกรอบ แต่เนื้อข้างในยังคงชุ่มฉ่ำ

Genshiyaki เทคนิคการย่างแบบโบราณของชาวฮอกไกโด ความแรงของไฟถือเป็นตัวกำหนดความอร่อยของเมนูนี้อย่างแท้จริง

Furano Wagyu Ribeye Nigiri Sushi (280 บาท)

อ่านรีวิวร้าน Hokkaido Genshiyaki&Kamameshi ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/genshiyakikamameshi/INFO
สาขา เอกมัย 12
Tel: 02-060-5503
Address: 15/1 ซ.เอกมัย 12
Opening Hours: จ.-ส. 17:00-23:30 น., อา. 16:00-22:30 น.
Holiday: X
Facebook URL: 釜飯と原始焼き 北海道レストラン Kamameshi to Genshiyaki Hokkaido Restaurant

15. In The Middle by Kaizen (อินเดอะมิดเดิล บาย ไคเซ็น)

เดินทางมาที่ย่านเหม่งจ๋ายกับสาขาที่ 2 ของร้านเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์ชื่อเท่ๆ อย่าง In The Middle by Kaizen ที่หลายๆ คน น่าจะเคยมีโอกาสไปสาขาแรกกันบ้างแล้ว (สาขาแรกอยู่ที่โครงการ AQUA สะพานควาย) สำหรับสาขานี้ยังคงเน้นเรื่องคุณภาพของเนื้อและวัตถุดิบต่างๆ ทั้งเนื้อวากิวอิมพอร์ตอย่างเนื้อมัตสึซากะ เนื้อมิยาซากิ และเนื้อคุณภาพอย่างไทย-วากิว วัวสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่เลี้ยงและเติบโตในไทย รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ ซีฟู้ด และซูชิประเภทต่างๆ ความอร่อยของที่นี่ ยังคงมีให้เลือกหลากหลายทั้งแบบอะลาคาร์ทและบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มในราคา 549, 799, และ 1,099 บาท ในเวลา 90 นาที ให้ทุกคนได้เต็มอิ่มไปกับเนื้อคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน

Jyo Rosu จากชุดบุฟเฟ่ต์ราคา (799 บาท)

เนื้อใบพาย จากชุดบุฟเฟ่ต์ราคา (799 บาท)

อ่านรีวิวร้าน In The Middle by Kaizen ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/in-the-middle-by-kaizen/INFO
สาขา เหม่งจ๋าย
Tel: 095-846-6808
Address:  ซ.ประชาอุทิศ 19 (รัชดานิเวศน์ 10 ) ถ.ประชาอุทิศ
Opening Hours: 11:00-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: IN THE MIDDLE By KAIZEN

16. Restaurant Genshiyaki (เรสเตอรองท์ เก็นชิยากิ)

หลังจาก Robata Genshiyaki เปิดให้บริการอาหารทะเลสดใหม่ส่งตรงจากฮอกไกโดถึงกรุงเทพฯ เป็นสาขาแรก ด้วยรสชาติถูกปากและราคาถูกใจนักชิม ทำให้เมนูของที่นี่เป็นที่เลื่องลือ นำทางสู่การเปิดสาขาที่ 2 คือ Restaurant Genshiyaki ซึ่งยังคงรักษามาตรฐานและคุณภาพเรื่องความสดใหม่และรสชาติของวัตถุดิบที่นำเข้าจากญี่ปุ่นได้ไม่ผิดเพี้ยน รวมถึงกรรมวิธีย่างที่ขึ้นชื่ออย่าง “เก็นชิยากิ” ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของร้าน ทว่าความพิเศษของที่นี่คือ นอกจากเมนูอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมแล้ว ยังผสมผสานเมนูสไตล์ตะวันตกอีกหลายรายการ ไม่ว่าจะสเต็ก สลัด หรือพาสต้าไว้เป็นทางเลือกเพิ่มเติมอีกด้วย

Cream and Cheese Pasta (380 บาท) ใช้ชีสกรานาพาดาโนจากอิตาลี ขูดกลางก้อนแล้วนำเส้นพาสต้าพร้อมครีมลงคลุกก่อนตักใส่จานกระทะร้อน โรยเบคอนกรอบ จะได้กลิ่นชีสหอมน่ารับประทาน

อ่านรีวิวร้าน Restaurant Genshiyaki ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/restaurant-genshiyaki/INFO
Tel: 02-001-8680
Address: ซ.สุขุมวิท 26
Opening Hours: 17:00-23:30 น. (L.O. 22:30 น.)
Holiday: X
Facebook URL:  北海道レストラン原始焼き Hokkaido Restaurant Genshiyaki

17. Kinshiro (คินชิโร่)

ร้าน Kinshiro แห่งนี้ได้รวบรวมาหารท้องถิ่นสไตล์นางาซากิไว้ในที่เดียว เช่น เนื้อวากิวนางาซากิ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากการบริโภคเนื้อวัวของชาวตะวันตก จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเนื้อวากิวชั้นดี ที่ร้านคัดเลือกเฉพาะเนื้อระดับ A4 มาทำเป็น Sirloin Steak หรือจะเป็นเมนู Aburi Sukiyaki

[ล่าง] Mini Kakuni Manju (45 บาทต่อชิ้น) และ [บน] Hatoshi Roll (45 บาทต่อชิ้น)

ซาลาเปาไส้หมูตุ๋นเนื้อนุ่มหวานฉ่ำ เวลาเคี้ยวเนื้อหมูกับซาลาเปาเกือบจะเป็นเนื้อเดียวกัน กับกุ้งบดห่อด้วยขนมปังแล้วนำไปทอด อีกหนึ่งในอาหารท้องถิ่นของนางาซากิ

อ่านรีวิวร้าน Kinshiro ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/kinshiro/INFO
Tel: 062-880-9878
Address: 97 ซ.บางนา-ตราด 23 ถ.บางนา-ตราด (ด้านหลังเซ็นทรัล บางนา)
Opening Hours: 17:00-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Kinshiro Bangna

18. Jirafu Sushi & Beer Bar (จิราฟุ)

“จิราฟุ” ร้านอาหารญี่ปุ่นบรรยากาศดีริมถนนลาดพร้าว ที่นำเสนอหลากหลายเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่น พิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอนของศิลปะการทำอาหารรวมถึงตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทั้งนำเข้าจากต่างประเทศและวัตถุดิบในประเทศไทย

Salmon Combo Don (380 บาท) ข้าวหน้าแซลมอนที่ยกกันมาทั้งส่วนเนื้อ ท้อง และไข่แซลมอน

Ebi Cheese Volcano Roll (280 บาท) หนึ่งในเมนูพิเศษของทางร้าน คัดกุ้งไซส์ใหญ่ทั้งตัวนำมาพันด้วยแซลมอน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำก่อนราดด้วยชีสบนกระทะร้อน และปิดท้ายด้วยซอสไซเกียวสูตรเด็ด เด็ดมากพูดเลย

อ่านรีวิวร้าน Jirafu Sushi & Beer Bar ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/jirafu-sushi-beer-bar/INFO
Tel: 02-002-9979
Address: ใกล้ ซ. ลาดพร้าว 5 ถ.ลาดพร้าว
Opening Hours: 11:00-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Jirafu Sushi & Beer Bar

19. Shoyuu Bangna (โชยู)

ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียมย่านบางนากับความหมายมงคลของชื่อร้านที่แปลว่า “ชัยชนะของความอร่อย” ด้วยความตั้งใจในการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพทั้งจากภายในประเทศและนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สร้างสรรค์และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุงโดย 2 เชฟยอดฝีมือผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารญี่ปุ่น การันตีความอร่อยจากเวทีเชฟกระทะเหล็ก น่าจะยืนยันความอร่อยระดับคุณภาพของร้านนี้ได้ดี

Shoyuu Special Roll (390 บาท)

Shoyuu Bento Set (890 บาท)

อ่านรีวิวร้าน Shoyuu Bangna  ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/shoyuu-bangna/INFO
Tel: 089-620-8888
Address: ชั้น 1 โครงการ Little Walk ซ.บางนา-ตราด 21 ถ.บางนา-ตราด (กม.4)
Opening Hours: จ.-ศ. 11:00-14:00 น., 17:00-22:00 น., ส.-อา. 11:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Shoyuu Bangna

20. Hagakure (ฮะกะคุเระ)

จากคัมภีร์ “ฮะกะคุเระ” ในตำนานของชาวญี่ปุ่น กล่าวถึงจิตวิญญาณและแนวทางแห่งนักรบที่แท้ ซึ่งอาจไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสมรภูมิรบ ทว่าในสมรภูมิแห่งอาหารก็สามารถยืนหยัดด้วยจิตวิญญาณได้เฉกเช่นเดียวกัน นี่คือสิ่งที่เชฟ Yoshihiro Yamamoto เชื่อมั่นและยึดถือเป็นคำสอนประจำใจ จนตัดสินใจหยิบเอาชื่อของคัมภีร์ในตำนานอย่าง “ฮะกะคุเระ” มาใช้เป็นชื่อร้าน เพื่อหวังจะถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งอาหารญี่ปุ่นอย่างที่ว่า และนี่คือเจตนารมณ์ของเชฟมือพระกาฬผู้เคยปรุงพระกระยาหารถวายเจ้าชายนารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่นมาแล้ว

 Wagyu Steak (1,450 บาท) สเต๊กเนื้อวัวญี่ปุ่นเกรด A4-A5 ที่ย่างสุกมาแบบกำลังดี ขณะที่เนื้อในยังคงเป็นสีชมพูระเรื่อ และมีความชุ่มฉ่ำของชั้นไขมันที่หวานละมุน กินคู่กับซอสรสหวานหอมที่เคี่ยวจากมิโซะขาวและโชยุ แกล้มด้วยกระเทียมทอด

Kani Chawanmushi (300 บาท) ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนละเอียดหอมหวานที่มีส่วนผสมของเนื้อปูม้ารสหวานละมุน

อ่านรีวิวร้าน Hagakure ฉบับเต็ม: https://kiji.life/eats/restaurant/hagakure/INFO
Tel: 02-714-4131
Address: ซ.เอกมัย 6
Opening Hours: 17:00-24:00 น.
Holiday: วันอาทิตย์
Facebook URL: 日本料理 葉隠 hagakure ฮะกะคุเระ อาหารญี่ปุ่น Japanese Cuisine