จ.-ส. 9:30-19:30 น. (หยุดวันอาทิตย์)
Masamoto True Express ร้านอาหารญี่ปุ่นที่พร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูอะลาคาร์ทและบุฟเฟต์ จัดเต็มกว่า 120 เมนู ที่เน้นคุณภาพโดยเชฟที่เชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่น บินตรงไปแดนอาทิตย์อุทัยเพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการทำซูชิจนชำนาญ พร้อมมารังสรรค์เมนูอาหารที่สด สะอาด กลมกล่อมให้เราลองกันแล้วที่ร้านนี้
จากที่หลายคนรู้ว่า ความอร่อยของอาหารญี่ปุ่นคือความละเอียดอ่อน ในฐานะลูกค้าเราจะสัมผัสได้หลังจากเมนูโปรดที่เราสั่งมาเสิร์ฟตรงหน้า แต่จริงๆ มันเริ่มมาตั้งแต่วัตถุดิบสดใหม่ที่นำส่งเข้ามาในร้าน เรื่อยไปตั้งแต่การจัดเก็บ การดูแลรักษา การนำมาปรุงอาหารให้ถูกวิธี การคิดค้นรสชาติให้เข้ากับวัตถุดิบ จนถึงการจัดเสิร์ฟอย่างสวยงาม
วันนี้เรามีนัดคุยกับ เชฟไซม่อน เจ้าของร้านและเชฟมือหนึ่งของร้าน การันตีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับ “ซูชิ” ระดับสูงสุดจาก Wolrd Sushi Skills Institute (WSSI) ประเทศญี่ปุ่น เห็นได้จากใบประกาศนียบัตรที่ตั้งไว้ตรงเคาน์เตอร์บาร์ หลังจากการพูดคุยทำให้รู้เราว่าการจัดการวัตถุดิบให้ได้คุณภาพมาตรฐานขนาดนี้ไม่ง่ายเลย อย่างที่เราทราบกันว่าอาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการปรุงสูงมาก เพราะหัวใจหลักคือการดึงรสชาติของวัตถุดิบให้ชัดเจนขึ้นด้วยวิธีการปรุงที่ประณีต ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมบางร้านแทบจะไม่ปรุงอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่าต้องจริงจังเรื่องวิธีการเก็บรักษาและรู้วิธีการดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาให้ได้มากที่สุดนั่นก็พอแล้ว อีกหนึ่งเรื่องคือรสชาติของคนไทยกับคนญี่ปุ่นอาจจะต่างกันในเรื่องของรสที่จัดจ้าน ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยหลายร้านจึงดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาและปรุงรสชาติคนไทยเข้าไปเพื่อให้ถูกปากมากขึ้นนั่นเอง
อย่างที่บอกว่าความละเอียดอ่อนและความพิถีพิถันคือที่สุดของการทำอาหารญี่ปุ่น เชฟไซม่อนจึงจริงจังในทุกอย่างเริ่มตั้งแต่การเก็บรักษาวัตถุดิบ เพราะวัตถุดิบหรือปลาแต่ละชนิดมีวิธีการเก็บแตกต่างกันจึงต้องศึกษาเกี่ยวกับวัตถุดิบแต่ละอย่างเพื่อทำการเก็บให้ถูกวิธี อีกเรื่องหนึ่งที่เชฟไซม่อนให้ความสำคัญเป็นอย่างมากคือ “มีด” สิ่งที่สัมผัสลงวัตถุดิบโดยตรง ทั้งการแล่ การตัด การหั่น มีดของที่ร้านจึงต้องสะอาดและคมเสมอ เช่น การหั่นปลาด้วยมีดที่คมและสะอาด จะทำให้ปลาชนิดนั้นเก็บได้นานขึ้นเพราะเนื้อปลาในส่วนที่สัมผัสกับอากาศไม่เสียหายมาก แต่หากมีดไม่คมเนื้อปลาจะช้ำเพราะแรงกดของมีดทำให้เก็บปลาได้ไม่นาน เป็นต้น เพราะฉะนั้นมีดที่ดีจะทำให้วัตถุดิบที่หั่นออกมาดีตามไปด้วย นอกจากนี้ยังเน้นเรื่องความสดสะอาดของวัตถุดิบเป็นที่หนึ่ง อย่างที่เรารู้กันอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะรับประทานปลาดิบ ซึ่งหากไม่สดจริงหรือเก็บรักษาไม่ดีอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมปะปนได้ เพราะสุขภาพของลูกค้าคือส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน เชฟไซม่อนได้ทิ้งท้ายไว้
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม ตัดกับแสงไฟสีส้มได้อย่างลงตัว กว้างขวาง และโปร่งโล่งด้วยผนังกระจกใส มีพื้นที่นั่งรับรองอยู่ทั่วบริเวณร้านอย่างหลวมๆ ให้บรรยากาศผ่อนคลายได้ดีเลยทีเดียว ความพิเศษของร้านนี้คือมีทั้งอาหารญี่ปุ่นแบบอะลาคาร์ทและแบบบุฟเฟต์ โดยบุฟเฟ่ต์มีตั้งแต่ 550 บาท รับประทานได้กว่า 70 เมนู, 850 บาท รับประทานได้กว่า 90 เมนู และ 1,199 บาท รับประทานได้กว่า 120 เมนู อิ่มอร่อยกันยาวๆ 1.45 ชั่วโมง เรียกได้ว่าอร่อยคุ่มราคาทุกเมนูแน่นอน ในวันนี้เราขอแนะนำเมนูฮอตฮิตที่เป็นที่โปรดปรานของหลายคน สามารถสั่งเป็นแบบอะลาคาร์ทหรือแบบบุฟเฟต์ก็ได้ตามใจชอบเลย
เริ่มที่เมนูโรลสุดฮิตอย่าง Gozilla Roll ก็อตซิล่าโรลสุดอร่อยที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง เสิร์ฟมาอย่างยิ่งใหญ่ สอดไส้ด้วยฮามาจิ แซลมอน และทูน่าสับรวมกัน ก่อนราดด้วยซอสเทอริยากิและมายองเนสสูตรของทางร้าน หรือจะเป็นซาชิมิกับเมนู Sashimi Deluxe เต็มอิ่มทั้งฮามาจิ อากามิ ซาบะ หอยปีกนก ปลาหมึกกล้วย แซลมอน และกุ้งหวาน ที่เราอยากบอกเลยว่าทุกอย่างสด สะอาดมากๆ
ต่อกันกับเมนูโปรดของใครหลายคนอย่าง Kani Miso มันปูย่างหอมหวาน หอมกรุ่นมาแต่ไกล ด้วยมันปูปรุงรสให้กลมกล่อม ก่อนท็อปด้วยเนื้อปูและไข่ปลาแซลมอน คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักกินตอนอุ่นๆ จะฟินมาก หากใครชอบของทอดอย่างเทมปุระเราขอแนะนำ Softshellcrab Tempura ปูนิ่มเทมปุระที่เคี้ยวได้ทั้งตัว หรือจะเป็นกุ้งเทมปุระก็กรุบกรอบกลมกล่อมมากเชียวล่ะ
นอกจากนี้ยังมีเมนูซูชิเซ็ตและเมนูข้าวหน้าต่างๆ ให้เลือกสั่งอีกมากมาย รับรองว่าอิ่มอร่อยคุ้มค่าทุกเมนูแน่นอน มาลองที่ Masamoto Sushi (มาซาโมโต้ ซูชิ) กันได้เลย