10:30-19:00 น.
คงต้องย้อนไปตั้งแต่ ค.ศ. 1899 ที่ “เอคิจิ มัทสึดะ” เจ้าของร้าน เปิดสาขาแรกที่ตลาดปลานิฮมบาชิ ในโตเกียว และย้ายไปตลาดปลาสึคิจิหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จากนั้นชื่อร้าน Yoshinoya ก็กระจายสาขาไปยังประเทศต่างๆ จนกลายร้านอาหารแฟรนไชส์ที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในญี่ปุ่น และในเมืองไทยก็มีมากกว่า 10 สาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ
หลายคนอาจจะคุ้นกับบรรยากาศร้านโทนสีส้ม-ดำ แต่ตอนนี้หลายสาขาเริ่มปรับให้มีโทนสว่างขึ้น ใช้ไม้สีอุ่น ตัวร้านโปร่ง น่านั่ง สบายตา เหมาะเป็นร้านอาหารจานด่วนสำหรับชั่วโมงเร่งรีบแต่อิ่มสบายท้อง และหากสังเกตโลโก้ร้านที่อยู่ตรงชามข้าวหรือหน้าปกเมนูดีๆ ล่ะก็ จะเจอรูปเขาวัวเป็นตัว Y มีเมล็ดข้าว 7 เม็ด และมีเชือกล้อม นั่นสื่อว่าเราจะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ดีตลอดสัปดาห์นั่นเอง และจะอุดมสมบูรณ์ขนาดไหนนั้น เราไปเริ่มที่เมนูแรกกันเลย
ข้าวหน้าเนื้อในตำนานที่ใช้เนื้อ U.S. Beef 100 % ที่มีชื่อคุ้นหูว่า Beef Bowl เนื้อนุ่มชุ่มซอสสูตรตำรับโตเกียวแท้ๆ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ เนื้อสไลด์บาง เคี้ยวง่าย หวานฉ่ำซอสทั่วทั้งปาก ใครอยากเพิ่มความอร่อยด้วยไข่ออนเซ็นก็สั่งมาได้เลย
ต่อกันที่ Spicy Yakiniku Buta Bowl ข้าวหน้าหมูย่างรสเผ็ด ถูกปากคนที่ชอบรสจัดจ้าน ความเผ็ดร้อนกำลังดีบวกกับเนื้อสัมผัสละมุนลิ้น ทำให้ได้รสชาติใหม่ที่ติดใจได้ไม่ยาก เมนูต่อไปถือว่าเด็ดไม่แพ้ใคร Suki Kimuchi Nabe Set ที่มีให้เลือกทั้งเนื้อและหมู มาพร้อมควันพวยพุ่งจากซุปนาเบะร้อนๆ ที่ปรับรสชาติให้ถูกกับปากคนไทย กินกับข้าวสวยเป็นมื้อกลางวันได้ความอิ่มขนาดกำลังดี
ใครชอบแกงกะหรี่ที่นี่ก็มีเมนูที่ห้ามพลาด Pork Curry Rice ข้าวแกงกะหรี่หมู มีทั้งซอสรสกลมกล่อมและรสเผ็ด ซอสแกงกะหรี่หอมอบอวลทั่วทั้งปาก เข้ากันเป็นอย่างดีกับหมูนุ่มสูตรพิเศษของร้าน ยังไงก็ต้องลองจริงๆ