จ.-ศ. 11:30-14:00 น., 17:00-22:00 น., ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:30-22:00 น.
Shishitei คือร้านผู้เชี่ยวชาญชาบูชาบูและสุกียากี้ที่มาเปิดในตรอกเล็กๆ ติดกับดองกิ มอลล์ ทองหล่อ เพิ่งฉลองครบรอบ 1 ปีไปเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา และกำลังจะเปิดสาขาที่ 2 ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565
ชื่อร้านนั้นมาจากคำว่า Shishi (เนื้อ) บวกกับคำว่า Tei (เรือน, ศาลา) บ่งบอกได้ในทันทีว่าร้านนี้ต้องเด่นเรื่องเนื้อแน่ๆ และก็ไม่ผิดคาดเพราะทางร้านเลือกใช้แต่เนื้อมิยาซากิ (Miyazaki Beef) ซึ่งเป็นแบรนด์เนื้อชื่อดังที่เลี้ยงเฉพาะในพื้นที่จังหวัดมิยาซากิ ซึ่งเคยชนะการประกวดเนื้อมาถึง 3 ปีซ้อน โดดเด่นด้วยลายหินอ่อนบนเนื้อที่แม้จะใช้อุณหภูมิที่ไม่สูงมากก็จะละลายเร็ว เนื้อจึงมีรสหวานชุ่ม ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน
เชื่อว่าหลายคนยังสับสันว่าชาบูชาบูกับสุกียากี้นั้นแตกต่างกันอย่างไร โดยเฉพาะวิธีการกินที่แนะนำของร้านนี้ยังมีจุดเด่นที่แตกต่างไปจากที่เราคุ้นชินกันอีก สำหรับสุกียากี้ของ Shishitei เป็นสไตล์คันไซ พนักงานที่ร้านจะเป็นคนย่างเนื้อและผักให้ทั้งหมดบนกระทะร้อน โดยเราสามารถเพลิดเพลินไปกับขั้นตอนการทำที่ซับซ้อนนั้น ไม่ว่าจะเป็นลำดับการใส่วัตถุดิบเพื่อให้สุกพร้อมกัน ท้ายที่สุดเราจะได้เนื้อรสออกหวานๆ ซึ่งเคล็ดลับนั้นมาจาก Shimazarame น้ำตาลกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ที่ทางร้านสั่งมาเป็นพิเศษจากจังหวัดมิยาซากิ
ส่วนชาบูชาบูนั้นจะเสิร์ฟมาพร้อมกับหม้อชาบูสเตนเลสก้นตื้นพร้อมซุปชาบูสูตรของร้าน โดยเราจะต้องเป็นคนคีบเนื้อแล้วจุ่มเอง แต่ทางร้านแนะนำให้ใช้วิธีสะบัดเนื้อไปมาในซุปเพียงไม่กี่วินาทีแล้วให้กินเลยเพราะจะได้รับรสอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อมิยาซากิได้อย่างดีที่สุด
Shishitei Sukiyaki ทุกเมนูล้วนใช้แต่เนื้อ Miyazaki A5 Wagyu โดยมีส่วนให้เลือกถึง 5 แบบ ได้แก่ A5 Premium Loin Set (2,780 บาท) A5 Special Loin Set (1,890 บาท) A5 Loin Set (1,560 บาท) A5 Lean Set (1,560 บาท) และล่าสุดกับ A5 Tender Loin Set (5,220 บาท) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเซ็ตไหนจะเสิร์ฟในปริมาณ 180 กรัม แต่มาพร้อมกับผักกาดขาว มิซูนะ ต้นหอมญี่ปุ่นสไลซ์ เห็ดเข็มทอง เห็ดชิเมจิ เห็ดชีตาเกะ แครอท เต้าหู้ และคุสุคิริที่เติมได้ไม่อั้น ร่วมด้วยไข่สด ซุปสุกี้ และข้าวสวยหรืออุด้ง
ในส่วนของ Shishitei Shabu Shabu ก็ใช้เนื้อ Miyazaki A5 Wagyu ทั้งหมดเช่นกัน โดยเลือกสั่งส่วนเนื้อในราคาเดียวกันกับ Sukiyaki ทุกเมนู แต่จะแตกต่างตรงที่มีจำนวนชนิดของบุฟเฟ่ต์ผักที่มากกว่าอีก 1 ชนิดคือรากโกโบ สำหรับเส้นอุด้งที่มาในเซ็ตแนะนำให้กินปิดท้ายคู่กับน้ำซุปที่เหลือเหมือนได้อุด้งมาอีกชามเลย
นอกจากเมนูสุกียากี้และชาบูชาบู ที่นี่ยังเสิร์ฟเมนูอะลาคาร์ทที่ล้วนแต่ใช้เนื้อมิยาซากิแบบไม่หวง ไม่ว่าจะซูชิหรือโรลที่มีรสชาติเนื้อมิยาซากิแบบเต็มคำ หรือถ้าไม่ถนัดของกึ่งสุกกึ่งดิบก็มีเมนูข้าวหน้าเนื้อที่ปรุงสุกแล้ว แต่เมนูที่ลูกค้าประจำชอบเป็นแบบพิเศษเห็นจะเป็น Wagyu Namerou เนื้อมิยาซากิสับคลุกกับมิโซะและสมุนไพรญี่ปุ่น
ไม่เพียงแต่เมนูสไตล์ญี่ปุ่น ยังมีการนำเนื้อมิยาซากิมารังสรรค์เป็นอาหารสไตล์ตะวันตกที่นุ่มละลายในปากกันไปเลยอย่าง Stewed Beef สตูว์สูตรพิเศษที่น้ำสต๊อกเข้มข้นถึงใจและได้รสชาติของเนื้อชั้นดีเต็มเปี่ยม จากการเคี่ยวเนื้อเป็นเวลานาน
นอกจากที่แนะนำไป ที่ Shishitei ยังมีชาบูชาบูซีฟู้ดที่รวมเอาอาหารทะเลจากแหล่งชั้นดีในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมจากจังหวัดมิยากิ โฮตาเตะ ปูหิมะ และกุ้งลายจุดจากฮอกไกโด เป็นต้น รวมถึงเมนูกลางวันในราคาย่อมเยาซึ่งสั่งได้ในช่วงเวลา 11:30-13:30 น. แนะนำให้ติดตามโซเชียลมีเดียของร้าน เพราะจะอัพเดทโปรโมชั่นเสมอๆ และบนชั้น 2 ของร้านยังมีห้องส่วนตัวที่สามารถใช้เวลาดื่มด่ำกับเนื้อมิยาซากิแบบส่วนตัวได้อีกด้วย