รวมซูชิสุดพรีเมียมในราคาน่ารัก ย่านประชาชื่น

ใครว่าร้านอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียมจะกระจุกตัวอยู่แค่ในเมือง วันนี้เราเดินทางไปแถวถนนเลียบคลองประปา-ประชาชื่น เพราะมีเสียงกระซิบว่าที่นี่มีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ร้านหนึ่งที่มีทั้งซูชิสุดพรีเมียมคำโตๆ แถมยังมีทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และอะลาคาร์ท ที่สำคัญยังมีเซ็ตชาบูพร้อมเสิร์ฟอีกด้วย และร้านนั้นก็คือร้าน Senbon Sakura นี่เอง เรียกว่าครบถ้วนกระบวนความอร่อยขนาดนี้จะชักช้าได้อย่างไร รีบไปกัน!

Senbonsakura แปลว่า ซากุระหนึ่งพันต้น มาจากคือชื่อของกระบวนท่าไม้ตายของ คุจิกิ เบียคุยะ ตัวละครหนึ่งในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง เทพมรณะ (Bleach) ตัวการ์ตูนที่เจ้าของร้านชื่นชอบเป็นพิเศษจนนำมาตั้งชื่อร้าน จึงเห็นรอบบริเวณร้านตกแต่งดอกซากุระสีชมพูสดใส เราว่าร้านนี้จัดสรรปันส่วนที่นั่งได้ดีมีทั้งโซนด้านนอกสำหรับนั่งรับลมเย็น และโซนด้านในที่มีทั้งที่นั่งแบบนั่งพื้นสไตล์ญี่ปุ่นและโต๊ะเดี่ยว สามารถเลือกนั่งได้ตามใจชอบได้เลย

ท้องเริ่มร้องแล้วหันมาดูเมนูอาหารกันสักหน่อย อย่างที่เรารู้มาว่าร้านนี้มีทั้งบุฟเฟ่ต์และอะลาคาร์ทให้เลือกสั่ง หากใครชอบบุฟเฟ่ต์ทางร้านมีให้เลือกทั้งหมด 3 ราคา คือ 499, 599 และ 1,299 บาท ความยิ่งใหญ่อลังการของเมนูก็แตกต่างกันไปและที่สำคัญทุกราคาจะมีเช็ตชาบูแถมให้ด้วย ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่บุฟเฟ่ต์นะ อาหารในส่วนอะลาคาร์ทของเขาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน แต่สำหรับใครที่อาจไม่ได้มีเวลามากพอจะนั่งกินแบบบุฟเฟต์เหมือนเราในวันนี้ สามารถสั่งเมนูอะลาคาร์ทแบบเราได้เลย เห็นว่าซูชิร้านนี้เขาให้วัตถุดิบกันแบบไม่หวงเลยล่ะ

เมนูแรกที่ยกมาก็ทำตาลุกวาวกับ Foie Gras ฉ่ำๆ แบบพรีเมียมวางบนข้าวญี่ปุ่นขนาดกำลังดี ราดมาด้วยซอสสูตรเฉพาะก่อนจะท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน แนะนำให้กินคำละชิ้นเพราะจะได้สัมผัสความนุ่มนวลของฟัวกราส์ผสมกับความหอมหวานของซอสและปิดท้ายด้วยสัมผัสเด้งดึ๋งของไข่ปลาแซลมอนที่กระจายความอร่อยอีกครั้งในปาก แนะนำเลยว่าจานนี้ต้องสั่ง!

Foie Gras (100 บาท / คำ)

จานข้างบนหมดไปแล้วแต่เรายังไม่มูฟออนจากฟัวกราส์ไปง่ายๆ ขอยกมือสั่งอีกจานกับ Foie Gras Roll โรลชิ้นโตที่สอดไส้ด้วยแซลมอล ท็อปด้วยฟัวกราส์และไข่ปลาแซลมอน ก่อนราดซอสสูตรพิเศษปิดท้าย บอกได้คำเดียวว่าสุดมาก ไหนๆ ก็สั่งโรลแล้วขอเพิ่มอีกสักจานกับ Engawa Roll เอ็นกาวะเนื้อเด้งนุ่มหนึบเบิร์นไฟมากำลังดี สอดไส้ด้วยปลาไหล ไข่หวาน และแตงกวา เข้ากันเป็นที่สุด 

Foie Gras Roll (220 บาท)       

Engawa Roll (200 บาท)

และแล้วไฮไลท์ของวันนี้ก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ เหล่าซูชิไล่สีตั้งแต่สีขาวนวลจนไปถึงสีน้ำตาลแดงวางอยู่ตรงหน้าเราอย่างสวยงาม เรารู้มาว่าหากจะกินซูชิให้อร่อยควรกินไล่ตั้งแต่ปลาเนื้อขาวไปจนถึงปลาเนื้อแดง นั่นเพราะว่าปลาเนื้อขาวจะมีรสชาติอ่อนกว่าหากเริ่มที่รสอ่อนก่อนจะได้ไม่กลบรสชาติกันนั่นเอง ร้านนี้เขาคิดมาดีแล้วจริงๆ มาดูกันว่าทั้งหมดทั้งมวลมีอะไรบ้าง

จานแรกจะรวมปลาเนื้อขาวรสชาติอ่อนเอาไว้ด้วยกันเริ่มที่ปลาหมึกยักษ์ อิซุมิได ฮามาจิ เอ็นกาวะ และโฮตาเตะ จบเซ็ตนี้เรามาต่อกันที่สีต่อไปจะออกไปทางสีส้มเริ่มที่แซลมอน โทบิโกะ กุ้งหวาน ไข่หวาน และซาบะ จบเซ็ตสุดท้ายกับซูชิสีแดงเริ่มที่ปลาไหล ทูน่า หอยปีกนก อากามิ และโอโทโร่ (โอโทโร่คำนี้นี่ละลายในปากมาก ต้องลองให้ได้จริงๆ) แต่ละคำล้วนคัดเฉพาะวัตถุดิบเกรดดีมาเสิร์ฟในราคาน่ารักเริ่มต้นแค่คำละ 15 บาทเอง รับรองได้เลยว่าสดใหม่ทุกคำจริงๆ

(จากซ้าย) ปลาหมึกยักษ์ (30 บาท/คำ), อิซุมิได (30 บาท/คำ), ฮามาจิ (30 บาท/คำ),
เอ็นกาวะ (50 บาท/คำ), และโฮตาเตะ (100 บาท/คำ)

(จากซ้าย) แซลมอน (25 บาท/คำ),  เอบิโกะ (15 บาท/คำ), กุ้งหวาน (60 บาท/คำ),
ไข่หวาน (15 บาท/คำ), และซาบะ (15 บาท/คำ)

(จากซ้าย) ปลาไหล (40 บาท/คำ), ทูน่า (30 บาท/คำ),
หอยปีกนก (20 บาท/คำ), อากามิ (25 บาท/คำ) และโอโทโร่ (100 บาท/คำ)

หากใครเป็นสาวกซาซิมิเราขอแนะนำ 4 จานต่อไปนี้เลยกับแซลมอน อิซุมิได ฮามาจิ และทูน่า เสิร์ฟมาชิ้นโตเต็มปากเต็มคำบอกเลยว่าไม่ผิดหวังในรสชาติและคุณภาพแน่นอน

แซลมอน (125 บาท), อิซุมิได (180 บาท), ฮามาจิ (180 บาท) และทูน่า (145 บาท)

หากใครที่กำลังเดินทางมาแถวนี้หรืออยากลองร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดีราคาที่เอื้อมถึงแวะเข้ามาที่นี่ Senbon Sakura (เซนบงซากุระ) ทั้งซูชิ ซาซิมิที่พร้อมเสิร์ฟทุกอย่าง หรือใครอยากมาลองชาบูก็แนะนำมากๆ เจ้าของร้านการันตีเองเลยว่าน้ำซุปร้านนี้รสชาติดีไม่แพ้ใคร ไปคราวหน้าต้องขอสั่งชาบูสักหม้อให้ได้เลย!