11:30-14:00 น., 17:30-22:00 น. (L.O. 21:45 น.)
Rengaya ร้านยากินิกุรุ่นเก๋ากึ๊กที่เปิดมอบความสุขให้กับสาวกปิ้งย่างมานานกว่า 30 ปี โลเคชั่นก็เรียกได้ว่าดีใจกลางสุขุมวิท
บรรยากาศที่ Rengaya เรียกได้ว่าอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น ว่ากันด้วยขนาดพื้นที่ก็กว้างขวางจุทั้งหมดราวๆ 70-80 ที่นั่ง สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหน่อย ทางร้านก็ได้เตรียมห้องกึ่งส่วนตัวไว้คอยต้อนรับ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ทราฟฟิกร้านจะค่อนข้างแน่น ใครที่รู้ตัวว่าหิ้วท้องรอไม่ไหวแน่ๆ แนะนำให้โทรสำรองโต๊ะก่อนเลยจะชัวร์กว่า
นอกจากเนื้อที่เสิร์ฟในแบบอะลาคาร์ท อย่างเนื้อโกเบ เนื้อยูเอส และเนื้อโลคอลเกรดพรีเมียม ไปจนถึงหมู ไก่ ซีฟู้ด อีกทั้งเครื่องใน เป็นต้นว่า Harami เนื้อส่วนท้องมันแทรกละเอียดชุ่มซอสหมักที่เชฟชาวญี่ปุ่นปรุงเองกับมือ ช่วงมื้อกลางวันระหว่าง 11:30-14:00 น. ทางร้านยังได้จัดชุดยากินิกุราคาคุ้มๆ ให้เหล่าคนรักปิ้งย่างได้เลือกสรรกันอยู่หลายต่อหลายเซ็ต เช่น Yakiniku Lunch Set A-2 ยากินิกุเซ็ตที่รวมหมูสันนอก (สามารถรีเควสได้ว่าจะเอามันมากหรือมันน้อย) กับซีฟู้ดเข้าไว้ด้วยกัน เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัดผักกาดแก้วราดด้วยเดรสซิ่งรสเผ็ดเล็กๆ สูตรของทางร้าน, กิมจิหมักเอง, ซุปมิโซะ, ข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ โรยผงบ๊วย ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกตามชอบระหว่างชาหรือกาแฟ และผลไม้คัดมาอย่างดีตามแต่ละวัน
หรือถ้าใครถนัดกินเนื้อมากกว่า Yakiniku Lunch Set B-1 ชุดนี้น่าจะถูกปาก ด้วยเนื้อที่เสิร์ฟมาในเซ็ตเป็นเนื้อโลคอลส่วนเนื้อสันมันน้อย น้ำจิ้มของที่ร้านก็อร่อยใช่ย่อยทั้งมีให้เลือกอร่อยกันถึง 2 แบบเค็มหวาน บวกกับสลัด, กิมจิ, ข้าว, ซุปมิโซะ, เครื่องดื่ม ไปจนถึงผลไม้ช่วยล้างปาก นับว่าเป็นอีกมื้ออร่อยที่น่าสนใจเลยทีเดียว
Ebi Tempura จานนี้ก็ขายดี ด้วยไซส์ของกุ้งเท่าที่กะด้วยสายตา พูดแบบไม่ได้โอเวอร์ก็คือยาวกว่าฝ่ามือ ซึ่งที่ร้านได้นำกุ้งขาวขนาดเบิ้มมายืดตัวตรงและชุบแป้งเทมปุระทอดในน้ำมันร้อนๆ และแม้จะปล่อยไว้นานก็ยังคงกรอบอยู่ เยี่ยมจริงๆ
แต่ถ้ามื้อนี้ไม่อยากกินปิ้งย่าง ทางร้านก็ยังพร้อมเสิร์ฟนานาจานญี่ปุ่นในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดงบุริ, ราเมน, อุด้ง, ข้าวแกงกะหรี่, โอนิกิริ, เบนโตะ รวมถึงข้าวต้มญี่ปุ่นอย่างโอชาซึเกะที่หากินได้ยาก
หมายเหตุ: ภาพบรรยากาศร้านที่เห็นเป็นภาพร้านสาขาเดิมก็คือที่ธนิยะ ปัจจุบันร้านย้ายมาตั้งที่อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์แล้ว