อ.-อา. 17:00-22:30 น. (หยุดวันจันทร์)
Iroha Yakiniku ร้านยากินิกุระดับตำนานในบ้านหลังใหญ่ซอยทองหล่อ 11 แห่งนี้เปิดมอบความสุขให้กับชาวปิ้งย่างรุ่นสู่รุ่นมานานนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540
เดิมที Iroha Yakiniku บุกเบิกโดยสองสามี-ภรรยาชาวญี่ปุ่นก่อนจะเกษียณตัวเองในช่วงที่ร้านดำเนินกิจการได้ 16 ปี เจ้าของคนปัจจุบันเห็นว่าไม่มีใครทำต่อประกอบกับเป็นลูกค้าประจำมานานจึงรู้สึกเสียดายร้านยากินิกุดีๆ กำลังจะหายไป เลยตัดสินใจรับช่วงต่อดูแลร้านแทนมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพอได้เข้ามาทำเองแบบเต็มตัว มาตรฐานของอิโรฮะที่แต่เดิมดีอยู่แล้วก็หลากหลายมากขึ้น เช่นในพาร์ทของยากินิกุที่เคยมีแต่เนื้อเบสิกๆ มาให้ปิ้งบนเตา ก็วาไรตี้ไปอีกขั้นด้วยเนื้อโลคอลทั้งนำเข้าจากญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ส่วนใครที่ไม่ถนัดเนื้อวัวไม่ต้องน้อยใจไป เพราะทางร้านได้คัดสรรเนื้อหมูคุโรบูตะ เนื้อไก่ ไปจนถึงซีฟู้ดมาให้เลือกสั่งกันอยู่หลายรายการ
ขนาดก็เป็นอีกสิ่งที่หลายคนประทับใจ ไม่ใช่แค่เรื่องกว้างขวาง (จุรวมๆ แล้วก็ 90 ที่นั่ง) แต่เพราะที่ร้านยังมีห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นรับรองลูกค้าได้ก๊วนใหญ่ๆ กว่า 3 ห้อง ว่ากันด้วยบรรยากาศก็โคซี่ฟิลลิ่งครอบครัว เหมาะควรไปซะทุกทาร์เก็ตตั้งแต่แก๊งเพื่อนฝูง มนุษย์เงินเดือน ไปจนถึงเหล่าสมาชิกครอบครัวหลายช่วงอายุรวมตัวกันในวันสำคัญ อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือพื้นที่จอดรถ ที่ Iroha Yakiniku มีอาณาบริเวณเพียงพอต่อรถ 30 คัน และทราฟฟิกในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นั้นจะค่อนข้างแน่น ซึ่งใครที่ต้องการโต๊ะแนะนำให้โทรสำรองก่อน เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกกัน
แน่นอนว่ายากินิกุคือหัวใจหลักทว่าจานเคียงต่างๆ ก็ทำให้มื้อนั้นๆ สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อย่าง Daikon Salad นี่ถือว่าเป็นจานที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะ สลัดหัวไชเท้าซิกเนเจอร์ขายดีของร้าน รสชาติเน้นไปทางเปรี้ยวแซมเค็ม จะเลือกให้เป็นจานออเดิร์ฟหรือกินเคียงกับปิ้งย่าง ไม่ว่าจะเป็นชอยส์ไหนก็อร่อยถูกปากทั้งนั้น
ส่วน Namaru ผักยำ 4 อย่าง ไล่ไปตั้งแต่ผักกวางตุ้ง ถั่วงอก เห็ดหูหนู ทั้งหัวไชเท้า เราก็ไม่อยากให้คุณพลาด เพราะมันกรุบกรอบทั้งเคล้ากลิ่นหอมของน้ำมันงาจนอยากจะเคี้ยวไปนานๆ หากไม่ติดว่า Ebi Karaage กุ้งชุบแป้งทอดกรอบๆ นั้นก็กำลังรอให้เราได้ชิมด้วยเช่นกัน
หรือแม้แต่ Ninniku Fried Rice ของที่นี่ก็อร่อยไม่ธรรมดา ด้วยข้าวที่ผัดมากับกระเทียมพร้อมปรุงรสอย่างดีเสิร์ฟมาร้อนๆ บอกไว้ก่อนว่าหลายคนติดใจจนต้องขอเบิ้ลมานักต่อนัก
เตาเริ่มร้อนก็ถึงเวลาอร่อยกับสารพัดเนื้อแนะนำของร้าน เริ่มจาก Korobuta เนื้อหมูคุโรบูตะย่างนุ่มๆ เต็มรสชาติซอสหมักสูตรเฉพาะที่ทางร้านปรุงแยกกันกับน้ำหมักเนื้อ ซึ่งเป็นอะไรที่แสดงออกถึงความพิถีพิถันที่อิโรฮะมีให้กับทุกๆ ดีเทลอย่างแท้จริง
ด้านเนื้อไทยคัดมาแต่เฉพาะระดับพรีเมียม อย่าง Rosu และ Sirloin ก็ลายสวยละเอียด น่าละเมียดกับน้ำจิ้มไม่แพ้เนื้อญี่ปุ่นเลยทีเดียว
สำหรับเนื้อร่องซี่โครง Nakaochi Wagyu นั้นก็มาไกลจากญี่ปุ่น สัมผัสกรุบๆ รู้สึกสนุกยามได้เคี้ยว ใครก็ตามที่ได้ลองต้องมีซ้ำแน่นอน ขอการันตี
Hitachi Wagyu ลายหินอ่อนคือความพรีเมียมขั้นสุด คนไหนที่ชอบบริโภคเนื้อญี่ปุ่น เราขอเชียร์ฮิตาชิวากิวจากจังหวัดอิบารากิเป็นพิเศษ เหตุผลก็เพราะฉ่ำฟินพอๆ กับเนื้อโกเบในราคาที่น่ารักกว่า เอาเป็นว่าสั่งเถอะ ไม่มีผิดหวัง
และอย่างที่บอกไปว่าที่นี่มีนานาซีฟู้ดให้ได้เลือกสั่ง ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาไข่ (Shishamo) เรื่อยมาจนถึงแซลมอน ทว่า Scallops Garlic Butter ที่อิมพอร์ทจากฮอกไกโดตัวโตๆ เสิร์ฟพร้อมเนยกระเทียม คืออีกรายการที่เราแนะนำว่าอย่าพลาดเลยเชียวไม่งั้นจะเสียใจ