วาเลนไทน์นี้ใครที่กำลังวางแผนจะเซอร์ไพรส์คนรักด้วยการพาไปออกเดทในสถานที่สุด โรแมนติก คลิกมาอ่านเรื่องราวจากประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นใน 5 ร้านอาหารญี่ปุ่น ในบรรยากาศสุดพิเศษที่คิจิกันก่อน ไม่แน่ว่าคุณอาจจะเจอร้านที่ใช่โดยที่ไม่ต้องเปิดเพจโน้นเพจนี้กันให้วุ่น เหมือนกับเราที่ก็ตกลงปลงใจแล้วเรียบร้อยว่าจะไปที่ไหนในวันพิเศษที่จะถึงนี้ดี

In The Mood For Love

“เธอๆ วันนี้เราอยากไปร้านที่บรรยากาศเหมือนหนังเรื่องนี้อ่ะ”

ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากที่เราดูหนังเรื่องหนึ่งด้วยกัน หนังเรื่องนั้นชื่อว่า “In the Mood for love” ของผู้กำกับชาวฮ่องกงชื่อดัง “หว่อง กาไว” เป็นหนังที่ถ่ายทอดอารมณ์เหงาๆ ปนความโรแมนติก โดยมีฉากหลังเป็นฮ่องกงในยุค 70s ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกอินจนอยากจะลองสัมผัสบรรยากาศแบบนั้นดูบ้าง

เหลือเชื่อว่าเขาจะหามันพบร้านนี้ซ่อนตัวอยู่ในย่านเอกมัยซอย 1 ที่เพียงแค่ได้ยินชื่อร้านก็ได้ใจฉันไปกว่าครึ่งแล้ว ภายในร้านเต็มไปด้วยกลิ่นอายของหนังแทบจะทุกส่วน ตั้งแต่โคมไฟสีแดงสดห้อยสลับกับโคมไฟกรงนกสีดำที่โดดเด่นอยู่ตรงกลางร้าน ไหนจะแจกันดอกโบตั๋นที่วางประดับในทุกๆ โต๊ะ รวมไปถึงภาพวาดหญิงสาวสวมชุดกี่เพ้าแขวนบนผนัง ให้กลิ่นอายความเป็นตะวันออกที่ดูคลาสสิก ชวนให้นึกถึงหลายๆ ซีนในหนัง

ส่วนเมนูอาหารมีทั้งอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น ที่ครีเอทเมนูออกมาได้เข้ากับยุคสมัย โดยยังไม่ทิ้งความเป็นออริจินัลและแบบโอมากาเสะที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพบวกกับฝีมือของเชฟผู้มากประสบการณ์

สำหรับคู่รัก ฉันคิดว่าร้านนี้เหมาะจะเป็นสถานที่สร้างความทรงจำโรแมนติกร่วมกันหรือคุณว่าไม่จริง?

Info
In The Mood For Love
Tel. : 02-392-8477
Address: 69 ซ.เอกมัย 1 ถ.สุขุมวิท 63
Open Hours: 11:30-14:00 น., 17:30-24:00 น.
Holiday: –
Facebook: IN the mood for LOVE: Sushi Bar & Bistro

Kitaohji Ginza Thailand

“เธอๆ วันนี้เราอยากไปกินร้านที่สงบๆ และมีสวนด้วยอ่ะ”

หลังจากที่ฉันพูดจบ เขาก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่ถนนทองหล่อ ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในซอยทองหล่อ 8  แล้วเลี้ยวขวาอีกเพียง 50 เมตร เพียงอึดใจเดียวก็ได้เจอกับสถานที่ที่สงบนิ่งราวกับหลุดออกมาจากอีกโลก ช่างต่างจากความวุ่นวายบนท้องถนนที่เพิ่งเจอมาโดยสิ้นเชิง  ตัวร้านถอดแบบมาจากเรียวกังญี่ปุ่นซ่อนตัวอยู่ใน

สวนแบบเซน ทุกองค์ประกอบมีการจัดวางไว้อย่างเข้าที่เข้าทาง บริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยต้นไผ่จำนวนมากเรียงรายอย่างเป็นระเบียบโอบล้อมตัวบ้านไว้ เมื่อเดินไปถึงที่โต๊ะก็มีพนักงานยื่นเมนูมาให้ด้วยกิริยาอ่อนน้อม ซึ่งพนักงานทุกคนล้วนแต่งกายด้วยชุดกิโมโนให้อารมณ์ความเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นสูงที่มีเสน่ห์แบบดั้งเดิมขณะที่รออาหาร มองไปรอบๆ ตัวร้านจะเห็นบ่อปลาที่เต็มไปด้วยฝูงปลาคาร์ฟหลากหลายสีสัน เหมาะที่จะนั่งชมไปพลางๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์และเตรียมพร้อมกับเมนูสุดพิเศษ

ฉันสั่งเมนูไฮไลท์ของร้านคือเมนูปูทาราบะจากจ.ฮอกไกโด เสิร์ฟมาเฉพาะกล้ามปูใหญ่ๆ เนื้อแน่น เนื้อปูมีความสดและหวาน อีกหนึ่งไฮไลท์คือเมนูเนื้อวากิวระดับ A4 จากจ.คาโกชิม่า ที่มีไขมันแทรกเยอะเป็นพิเศษ กินแล้วรับรู้ได้ถึงความนุ่มฉ่ำลิ้นเมื่อไขมันละลายในปาก คลุกเคล้ามากับซอสสูตรลับของร้าน ย่างบนใบโฮบะยิ่งทำให้เนื้อหอมอร่อยอย่างหาที่ติไม่ได้

Info
Tel. : 02-714-7997
Address: 212 ซ.ทองหล่อ 8 ถ.สุขุมวิท 55
Open Hours: จ.-ศ. 17:00-23:00 น. (L.O. 22:00 น.)ส-อา. 11:00-15:00 น. (L.O. 14:00 น.),17:00-23:00 น. (L.O. 22:00 น.)
Holiday: –
Facebook: Kitaohji Ginza Thailand

Tank Restaurant & Cafe

“เธอๆ วันนี้เราอยากไปกินร้านแบบสไตล์ใหม่ๆ ไม่ธรรมดาอ่ะ”

“มีอยู่ร้านหนึ่ง แต่อยู่ใต้น้ำนะ” แอบตกใจเล็กน้อยที่เขาพูดมาแบบนี้ เราก็คิดในใจว่ามันมี ร้านอาหารญี่ปุ่น แบบที่ว่านั้นด้วยหรือ ซึ่งก็ต้องอ้าปากค้างไปเลยเมื่อมาถึงหน้าร้าน เพราะมันเป็นร้านที่ไม่ธรรมดาเอามากๆภายในร้านเต็มไปด้วยตู้ปลาหลายขนาด แทรกตัวอยู่ในทุกๆ พื้นที่ของร้าน ความสว่างของตู้ปลาตัดกับผนังสีน้ำเงินเข้มให้ความเป็น Blue Ocean ได้อย่างลงตัว แผงไฟสลัวดวงเล็กๆ ถูกจัดวางไว้อย่างถูกที่ชวนให้รู้สึกถึงความ โรแมนติก จับใจเสมือนกำลังดินเนอร์อยู่ใต้น้ำอย่างที่เขาบอกจริงๆ แต่เราก็ยังอดสงสัยไม่ได้ถึงที่มาของคอนเซ็ปต์แปลกๆ นี้

เมนูของร้านส่วนใหญ่เป็นเมนูดั้งเดิมไม่หวือหวา แต่บอกเลยว่าอัดแน่นด้วยคุณภาพ ทุกเมนูล้วนใช้แต่วัตถุดิบที่สดใหม่ ตั้งแต่เนื้อวากิวระดับ A4 ลายสวยไปจนถึงเมนูซูชิ และซาชิมิ ที่เมื่อลองชิมจะรู้สึกได้ทันที

หลังจากจัดการอาหารที่อยู่ตรงหน้าเสร็จเรียบร้อย สิ่งที่สงสัยมาตั้งแต่แรกก็ได้คลี่คลาย การมองดูฝูงปลาจำนวนมากที่แหวกว่ายในตู้ปลาเหล่านี้ไปพร้อมๆ กับการกินอาหารอร่อยๆ ช่วยคลายความกังวลจากเรื่องภายนอกของเราทั้งสองได้ดีทีเดียว บทสนทนาของเราในวันนี้จึงเป็นไปอย่างราบรื่น ที่สำคัญมันทำให้อาหารทุกจานอร่อยยิ่งขึ้น คงเป็นอย่างที่เขาพูดกันว่า “ถ้าอารมณ์ดี กินอะไรก็อร่อย”

อ่านรีวิวร้าน Tank Restaurant & Cafe ฉบับเต็มได้ที่นี่

Info
Tank Restaurant & Cafe
Tel. : 082-326-5626
Address: 3/1 อาคารประชานิเวศน์ 1 สแควร์ ถ.เทศบาลนิมิตรเหนือ
Open Hours: 11:30-21:30 น.
Holiday:  –
Facebook: TANK Restaurant and Cafe

Benihana

“เธอๆ วันนี้เราอยากไปกินร้านที่มีโชว์ตื่นเต้นๆ ให้ดูอ่ะ”

พอบอกไปอย่างนั้นแฟนฉันถึงกับกุมขมับ จนแอบคิดว่านี่คงถือเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับเขาพอดู แต่ในที่สุดเราก็ได้ร้านนี้ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์เทปปันยากิซึ่งฉันเองยังไม่เคยลองมาก่อน จึงไม่เข้าใจว่าความน่าตื่นเต้นที่ว่านั้นมันจะมาในรูปแบบไหน

ร้านนี้ออกแบบได้อย่างสวยงามโดยใช้เส้นสีแดงตัดกับพื้นหลังสีดำ ให้ความรู้สึกลึกลับแฝงไปด้วยเสน่ห์ ฉันเลือกห้องที่มีผนังเป็นลายดอกไม้สีแดง ที่รู้สึกประทับใจตั้งแต่แรกเห็น สักพักก็มีเชฟเดินเข้ามาพร้อมกับวัตถุดิบต่างๆ จากนั้นค่อยเริ่มโชว์ลีลาลวดลายในการทำเทปปันยากิ โดยเริ่มจากย่างกุ้งแคนาเดียนล็อบสเตอร์เนื้อเด้ง ต่อด้วยเนื้อวัวออสเตรเลียส่วนเทนเดอร์ลอยน์ที่เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่นุ่มที่สุด

แต่ละเมนูถูกปรุงอย่างพิถีพิถัน ระหว่างที่นั่งชมอยู่นั้น ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นแทบจะทุกขณะ เพราะการทำเทปปันยากิของเชฟแฝงไปด้วยมายากลที่น่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งยังมีการชวนคุยสลับกับการปล่อยมุกตลก ช่วยสร้างบรรยากาศในการกินให้เป็นไปอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีช่วงไหนที่ฉันรู้สึกว่าน่าเบื่อเลย

ปิดท้ายด้วยข้าวผัดกระเทียมสูตรเบนิฮานา ที่มีกิมมิกเป็นรูปตัวอักษรเขียนว่า I Love U “นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะบอกกับเธอนะ” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมา ทำเอาฉันยิ้มแก้มแทบปริ เขินทั้งแฟนเขินทั้งเชฟเลยทีเดียว

อ่านรีวิวร้าน Benihana ฉบับเต็มได้ที่นี่ 

Info
Benihana
Tel.: 02-718-2000
Address: ชั้น 2 โรงแรม Avani Atrium Bangkok ถ.เพชรบุรี
Open Hours: จ.-อา. 17:00-22:30 น., ส.-อา. 12:00-15:00 น., 17:00-22:30 น.
Holiday: –
Facebook: Benihana at Avani Atrium Bangkok

Ainu Bar

“เธอๆ วันนี้เราอยากไปกินร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีดนตรีสดเพราะๆ อ่ะ”

ก้าวเท้าเข้ามาในร้าน ก็ได้ยินเสียงเพลงเพราะๆ ลอยเข้าหูตามที่ขอ ผู้คนในร้านขยับแข้งขยับขาเป็นจังหวะเดียวกัน พร้อมกับร้องเพลงคลอไปกับเสียงเพลงบนเวที บรรยากาศที่นี่ค่อนข้างคึกคักตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัยทำงานที่อยากจะมีร้านนั่งชิลล์ยามค่ำคืน ปลดปล่อยอารมณ์จากความเครียดที่สะสมมาทั้งวัน

บริเวณร้านค่อนข้างกว้างขวาง มีที่นั่งทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ตกแต่งแบบโมเดิร์นแต่แฝงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นในแบบอิซากายะ ที่สำคัญคือมีดนตรีสด เล่นเพลงหลากหลาย ทั้งเพลงไทยและเพลงสากล ตั้งแต่จังหวะช้าๆ ชิลล์ๆ ไปจนถึงจังหวะสนุกสนานให้โยกตามได้ แต่ไม่ว่าจะเพลงไหนๆ ทุก-คนต่างก็ร้องตามกันได้ทุกเพลง เราสองคนก็เช่นกัน

สิ่งที่ฉันประทับใจอีกอย่างก็คือ อาหารที่นี่เป็นอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฮอกไกโดที่มีให้เลือกค่อนข้างจะครบ ไม่ว่าจะกินจริงจังหรือกินเล่นๆ ซึ่งอาหารแต่ละอย่างถือว่ารสชาติดีทีเดียว กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็หมดเกลี้ยงทุกจานซะแล้ว

อาหารที่ดีบวกกับเสียงเพราะๆ ช่วยขับกล่อมความโรแมนติกให้กับผู้คนในร้านไปพร้อมๆ กัน ผ่านไปเพลงแล้วเพลงเล่า ความสนใจของผู้คนในร้านก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย เป็นร้านที่ฉันและเธอสามารถสื่อสารกันผ่านเสียงเพลงได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำใดๆุ

อ่านรีวิวร้าน Ainu Bar ฉบับเต็มได้ที่นี่ 

Info
Ainu Bar
Tel.: 092-583-2552
Address: ระหว่าง ซ.ทองหล่อ 7 และ ซ. ทองหล่อ 5 ถ.สุขุมวิท 55
Open Hours: 17:30-24:00 น.
Holiday: –
Facebook: AINU Bar