อ.-อา. 12:30-14:30 น.,17:30-20:00 น. (หยุดวันจันทร์)
ความวาไรตี้และความดั้งเดิมของอาหารญี่ปุ่นจะมองทางใดก็ดูแยกไปคนละทาง แต่หากมีวัตถุดิบที่คัดคุณภาพมาดีเยี่ยมบวกกับการผสมผสานสไตล์การปรุงอาหารข้ามทวีป ทั้งสองทางนี้อาจกลับมาบรรจบกันได้ไม่ยาก เหมือนดังที่ร้าน Mokusai ร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่นที่นำความโดดเด่นของวัตถุดิบคุณภาพดีทั่วทุกมุมโลกมารังสรรค์ผ่านอาหารญี่ปุ่นเสิร์ฟพร้อมความใส่ใจในทุกจาน และยังมีคอร์สโอมากาเสะตามใจเชฟให้เลือกลิ้มลองในราคาเริ่มต้นที่ 1,900++ บาท เท่านั้น!
“Mokusai” ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ไม้ ตัวร้านจึงประดับตกแต่งด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ ทั้งไม้สีเข้มขรึมบนผนังด้านหน้าร้าน หรือไม้สีอ่อนที่เลือกใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์และประดับตกแต่งภายในร้าน ไม่ว่าจะโทนไหนเราก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและเป็นกันเอง นอกจากบรรยากาศที่ชวนให้ผ่อนคลาย กระตุ้นความอยากอาหารขึ้นมาเป็นกองแล้ว อาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มของพนักงานต้อนรับและคำทักทายของเชฟด้วยแน่ๆ
ตัวร้านมีหลากโซนให้เลือกนั่งทั้งด้านในที่เป็นโต๊ะเดี่ยว และที่นั่งบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ อย่างที่บอกว่าร้านนี้มีคอร์สโอมากาเสะให้เลือกสั่งด้วยจึงมีห้องแยกเฉพาะสำหรับดื่มด่ำกับโอมากาเสะและได้พูดคุยกับเชฟอย่างใกล้ชิด
เราคิดว่าความวาไรตี้เกือบทั้งหมดมารวมอยู่ในเมนูอาหารหมดแล้ว แต่บางทีเราไม่รู้หรอกว่าอาหารจานนี้เป็นการผสมผสานของสิ่งใดบ้างถ้าไม่ลองถามกับผู้รู้โดยตรง วันนี้เราได้คุยกับ คุณพชรพล ศิริโชคชัยกูล-เจ้าของร้าน คุณพชรพลบอกกับเราว่า อาหารแต่ละจานที่อยากแนะนำในวันนี้มีผสมผสานความชอบและความอร่อยลงไปหลากทวีป ดึงความโดดเด่นของวัตถุดิบออกมาให้ได้มากที่สุด
จากคำบอกเล่าของคุณเจ้าของร้าน คิจิขอจับมือผู้อ่านพาข้ามฝั่งไปเดินหาวัตถุดิบทางฝั่งยุโรปที่เราคุ้นหูอย่าง “ฟัวกราส์” ในเมนู Foie Gras Don เมนูฟิวชั่นระหว่างวัตถุดิบจากยุโรป กับซอสเทอริยากิรสชาติดั้งเดิมของญี่ปุ่น หลายคนอาจไม่ชอบฟัวกราส์เพราะรับประทานยาก สัมผัสไม่คุ้นชิน ร้านนี้ใช้วิธีการหั่นเป็นลูกเต๋าเพื่อให้ข้างในสุกพอประมาณทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้น ทั้งเคี้ยวนุ่มและหอมซอสขนาดนี้ห้ามใจอย่างใรไหว
แวะมาฝั่งเอเชียกันบ้างในเมนู Rock & Roll ซูชิโรลที่คนไทยหลายคนโปรดปราน ด้านบนของโรลท็อปด้วยเนื้อกุ้งบดปรุงรสคล้ายใส้ในติ่มซำหรือขนมจีบของประเทศจีนนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ก่อนท็อปด้วยไข่กุ้งดำสัมผัสกรึบๆ คั่นด้วยอะโวคาโดบดปรุงรส จากนั้นวางทุกอย่างบนข้าวห่อสาหร่ายและราดซอสสูตรเฉพาะของร้าน
สุดท้ายขอวนกลับมาประเทศไทยในเมนู Yakiniku Don ทางร้านหยิบรสชาติไทยๆ ของกะเพรามาปรุงรสด้วยเครื่องปรุงของไทยและญี่ปุ่น ความพิเศษอยู่ที่เนื้อที่ใช้คือ เนื้ออาคิตะจากเมืองอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีความนุ่มละมุนลิ้นกินคู่กับข้าวญี่ปุ่นได้เข้ากันสุดๆ
นอกจากเมนูอะลาคาร์ทแล้วทางร้านยังมีคอร์สโอมากาเสะให้เลือกอีกหลาย ทั้ง Sushi Chef”s Choice Set-ซูชิ 4 คอร์ส 12 เมนู (1,900 บาท), Mini Omakase-ซูชิ 9 คอร์ส 17 เมนู (2,500 บาท), Omakase Seasonal Fish-ซูชิ 9 คอร์ส 19 เมนู (4,500 บาท) มีทั้งหมด 3 รอบด้วยกัน รอบ 1 เวลา 12:30-13:30 น., รอบ 2 เวลา 19:00-20:00 น. และ รอบ 3 เวลา 20:30-21:30 น. หากใครสนใจอยากลองโอมากาเสะอาจต้องโทรสำรองที่นั่งล่วงหน้า 3 วันเพื่อให้ทางร้านจัดเตรียมวัตถุดิบนะทุกคน