Tag "Omakase"

Mizu by Sankyodai (มิซึ บาย ซันเคียวได)
หนึ่งในโอมากาเสะคอร์สฉบับเอโดะมาเอะของ Mizu 水 by Sankyodai ที่ควรอยู่ในเช็คลิสต์ของชาวซูชิเลิฟเวอร์ แม้ว่าโลเคชั่นของร้านจะอยู่ในย่านธุรกิจ แต่กลับมอบฟิลลิ่งลับๆ ให้กับลูกค้าด้วยตำแหน่งที่ตั้งค่อนข้างลับตา (นัยว่ามีแค่เราเท่านั้นที่รู้!)
Shinsei Sushi (ชินเซ ซูชิ)
Shinsei Sushi ร้านซูชิแบบต้นตำรับแท้ๆ ที่เสิร์ฟทั้งอาหารญี่ปุ่นแบบอะลาคาร์ทและแบบโอมากาเสะ (Omakase) ทั้งยังให้ความสำคัญกับ “ข้าว” กระทั่งนำไปเรียงเมล็ดอยู่ในโลโก้ร้าน ข้าวที่นี่จึงแตกต่างจากที่อื่นเพราะเป็นข้าวญี่ปุ่นที่นำเข้ามาทั้งหมด
Mokusai (โมคุไซล์)
Mokusai อาหารญี่ปุ่นฟิวชั่นที่เสิร์ฟความวาไรตี้จากทุกมุมโลก ร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่นที่นำความโดดเด่นของวัตถุดิบคุณภาพดีทั่วทุกมุมโลกมารังสรรค์ผ่านอาหารญี่ปุ่นเสิร์ฟพร้อมความใส่ใจในทุกจาน และยังมีคอร์สโอมากาเสะตามใจเชฟให้เลือกลิ้มลองในราคาเริ่มต้นที่ 1,900++ บาท เท่านั้น!
Koko Japanese Restaurant (โกโกะ เจแปนนิส เรสเตอร์รอง)
Koko Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสาทรที่โดดเด่นเรื่องการเสิร์ฟซูชิฉบับตามใจเชฟ ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาครีเอทเป็นเมนูอร่อยในแบบฟิวชั่น ว่ากันด้วยราคาก็เรียกได้ว่ามิตรภาพ อย่างคอร์สพรีเมียมที่สุดในร้านควักเงินไม่ถึงสองพันบาทก็กินได้
Minato (ปิดกิจการ)
Minato ร้านซูชิบรรยากาศเคร่งขรึม ด้วยโทนสีขาว-ดำ หลากหลายด้วยซูชิแบบออริจินัลและแบบฟิวชั่น ที่สำคัญใช้วัตถุดิบสุดพรีเมียมแต่ราคาเข้าถึงง่ายอย่าบอกใครเลยล่ะ
Mono Sei (โมโน เซอิ)
ชวนกินซูชิแบบตามใจเชฟที่ Mono Sei ร้านโอมากาเสะเปิดใหม่ย่านเพลินจิตโดยเชฟชาวญี่ปุ่น ให้บริการแบบดินเนอร์คอร์สเสิร์ฟความอร่อยกว่า 24 คำ ในราคา 12,000++ บาท
The Older Chef (เดอะ โอลเดอร์ เชฟ)
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่โฟกัสการเสิร์ฟซูชิแบบโอมากาเสะในกรุงเทพฯ นั้นเรียกได้ว่ามีมากขึ้นเรื่อยๆ และโดยส่วนใหญ่มักจะปักหมุดกระจุกตัวอยู่ในแถบสุขุมวิทไม่ก็ทองหล่อ ต่างกับ The Older Chef (เดอะ โอลเดอร์ เชฟ) ร้านโอมากาเสะสายคุณภาพที่ได้เลือกเปิดให้บริการในย่านลาดพร้าวมาพักใหญ่ๆ แล้ว
Shinkanzen Omakase (ชินคันเซ็น โอมากาเสะ)
โอมากาเสะราคาดีมีที่ Shinkanzen Omakase เท่านั้น หลังจากประสบความสำเร็จกับ Shinkansen Sushi จนมีสาขากว่า 13 แห่ง ชินคันเซ็นก็ได้แตกไลน์ออกมาเป็น Shinkanzen Omakase แห่งแรก แถมราคายังเกินคาดเมื่อเทียบกับคุณภาพของวัตถุดิบที่คัดมาแต่เกรดพรีเมียมแทบทั้งสิ้น 
Umi (อุมิ)
“ความสดเป็นจุดเริ่มต้นของความอร่อย...แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้อร่อย”  ประโยคที่เปลี่ยนแปลงความเชื่อของเราที่มีต่อวัตถุดิบของอาหารญี่ปุ่น หลังจบบทสนทนากับ คุณชิน และ เชฟบรรพต หนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน Umi  ร้านซูชิสไตล์ โอมากาเสะ 
Nikuyama (นิคุยามะ)
โอมากาเสะเนื้อเจ้าแรกในไทย Nikuyama (นิคุยามะ) คือร้านโอมากาเสะเนื้อเจ้าแรกที่บินจากญี่ปุ่นมาเปิดสาขาในกรุงเทพฯ เมื่อกลางปี 2018 ในขณะที่สาขาแม่ ณ ประเทศญี่ปุ่นได้กระจายความอร่อยส่งต่อรสชาติอันแท้จริงของเนื้อมาแล้วกว่า 13 แห่ง โดยเฉพาะสาขาแรกในย่านคิจิโจจิ (Kichijoji) ที่กว่าจะได้ฟินต้องรอคิวนานอยู่หลายเดือน
Tsukiji Aozora Sandaime Bangkok (ปิดกิจการ)
Tsukiji Aozora Sandaime Bangkok ร้านซูชิโอมากาเสะของครอบครัวนักค้าปลารุ่นที่ 3 มีต้นกำเนิดสาขาแรกที่ประเทศญี่ปุ่น จนข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดสาขาที่ 9 ที่ประเทศไทย ทั้งยังส่งตรงวัตถุดิบชั้นเลิศจากตลาดปลาซึกิจิ พร้อมรังสรรค์ทุกเมนูโดย Michi Nakanishi เชฟผู้คร่ำวอดในวงการซูชิมามากกว่า 35 ปี!
Bonsai Japanese Restaurant (บอนไซ เจแปนนิส เรสเตอร์รอง)
เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นด้วยใจโดยเชฟชาวญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยระดับพรีเมียมในบรรยากาศญี่ปุ่นสุดคลาสสิกกับ Bonsai Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านหลังสวนที่ยกมาแบบครบถ้วนทั้งโอมากาเสะ เทปปันยากิ และนานาเมนูรสดั้งเดิมหลากชนิดโดยเชฟชาวญี่ปุ่นประสบการณ์แน่นกว่า 15 ปี
Ukiyo (อุคิโยะ)
Ukiyo ร้านโอมากาเสะแนว Contemporary ในทุกๆ คำอุคิโยะมักจะใส่ความมีชีวิตชีวาให้กับอาหาร ทั้งมิติรสชาติด้วยการซ่อนเทคนิคผสมผสานจากหลายๆ แหล่ง
Sushi Juban Phayathai (ซูชิ จูบัน)
Sushi Juban Phayathai โอมากาเสะราคาน่ารักเริ่มต้น 980++ บาท  หลังจากเปิดให้บริการมาแล้วทั้งที่ทองหล่อและอโศก Sushi Juban (ซูชิ จูบัน) ก็ได้ขยายความสุขให้เหล่าคนรักซูชิได้อร่อยกันทั่วถึงกว่าเดิมด้วยสาขาใหม่ลำดับที่ 3 ณ ย่านฮิปล่าสุดของกรุงเทพฯ อย่างสะพานควาย โดยโลเคชั่นของร้านตั้งอยู่ในซอยอินทามระ 3 เร้นกายอย่างเงียบๆ ในบ้านหลังใหญ่ฉาบด้วยสีโทนเบจ พื้นที่กว้างทั้งโซนด้านนอกและภายใน ใครต้องการความเป็นส่วนตัวสามารถสำรองห้องไพรเวทของร้านที่มีให้จับจองถึง 5 ห้อง แต่ถ้าชอบนั่งชมอิริยาบถเชฟระหว่างมื้อโอมากาเสะมากกว่า สามารถเชื้อเชิญตนเองไปที่เคาน์เตอร์บาร์ยาวจุได้กว่า 14 ที่นั่ง ถึงจะตอบโจทย์ที่สุด  ถ้าว่ากันด้วยสไตล์โอมากาเสะสาขานี้จะแตกต่างกับ Sushi Juban ที่อโศกและทองหล่อตรงที่เขานำเสนอซูชิแนวผสมผสานระหว่างเอโดมาเอะ โอซาก้า พร้อมกับแต่งเติมเสริมรสชาติจนถึงเทคนิคใหม่ๆ เข้ามาเพื่อให้ซูชิแต่ละคำนั้นมีความร่วมสมัย ส่วนราคาก็เรียกได้ว่าคุ้มแสนคุ้มเมื่อเทียบกับคุณภาพของวัตถุดิบ ขณะที่ผู้รังสรรค์มื้ออร่อยนี้ยังเป็นเชฟประสบการณ์แน่นกว่า 30 ปี ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น อย่างคอร์สโอมากาเสะมื้อกลางวันที่เราได้ไปชิมมาคราวนี้ราคาจะอยู่ที่ 980++ บาท เชฟเสิร์ฟไล่เรียงตั้งแต่จานเรียกน้ำย่อยสร้างความสดชื่นอย่าง Salad ที่ในชามประกอบไปด้วยสาหร่ายแดง สาหร่ายเขียว สาหร่ายวากาเมะ พร้อมแครอทและหัวไชเท้าหั่นฝอยเพิ่มความกรุบกรอบ จับคู่กับน้ำสลัดแบบโฮมเมดที่เชฟปรุงขึ้น Salad สองคำต่อมาคือ Maguro และ […]
Sanriku Sushi Kyodoizakaya (ซานริคุ ซูชิ เกียวโดอิซากายะ)
ร้านอาหารญี่ปุ่นจากโทโฮคุ ที่มีให้เลือกกว่า 300 เมนู! ดำเนินกิจการมายาวนานตั้งแต่ปี 2016 กับร้าน Sanriku Sushi Kyodoizakaya (ซานริคุ ซูชิ เกียวโดอิซากายะ) ที่พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่เมนูซูชิ ซาชิมิ หม้อไฟ จนไปถึงสไตล์อิซากายะ ส่วนชื่อร้านมาจากคำว่า San ในภาษาญี่ปุ่น คือ เลข 3 และ riku ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า แผ่นดิน  เป็นการรวมอาหารพื้นเมืองของแต่ละจังหวัด ได้แก่ อิวาเตะ อะคิตะ และมิยากิ ซึ่งภูมิภาคนี้นอกจากส่วนใหญ่จะเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังโดดเด่นในเรื่องของอาหารทะเลเป็นอย่างมาก ฉะนั้นรับประกันความสดใหม่ของวัตถุดิบที่นำมาเสิร์ฟได้เลย ตัวร้านมีทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นล่างมีทั้งเคาน์เตอร์บาร์และโต๊ะเดี่ยวนั่งพื้นสไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งผนังด้วยสีแดงเข้มและประดับประดาด้วยผลงานศิลปะญี่ปุ่นทั่วทุกมุมร้านรองรับกว่า 40 ที่นั่ง  ชั้นบนตกแต่งผนังด้วยสีเขียว รับรองด้วยโต๊ะเดี่ยวนั่งพื้นสไตล์ญี่ปุ่นเช่นกัน มีทั้งหมด 20 ที่นั่ง บรรยากาศบริเวณชั้นล่าง บรรยากาศบริเวณชั้นล่าง บรรยากาศบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ ชั้นล่าง บรรยากาศบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ ชั้นล่าง บรรยากาศบริเวณชั้นบน บรรยากาศบริเวณชั้นบน […]
Meruto Sushi (เมรูโตะ ซูชิ)
Meruto Sushi ร้านที่พิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมตามฤดูกาล นำเข้าโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งวัตถุดิบบางชนิดก็ถือว่าหายากมากจริงๆ ตลอดจนความเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนของการปรุง จนทำให้ร้านนี้เป็นที่รู้จักและได้รับการยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งร้านโอมากาเสะซูชิรสชาติแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ
Kappo Kazunobu (คับโปะ คาซึโนบุ)
อร่อยกับมื้ออาหารในแบบคับโปะที่เชฟเป็นผู้ปรุงให้พิเศษแบบจานต่อจาน ความพิเศษของ Kappo Kazunobu (คับโปะ คาซึโนบุ) คือที่นี่เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นแบบตามใจเชฟสไตล์คัปโปะ (Kappo) โดยแต่ละเมนูผ่านการคัดสรร คิดค้น และลงมือปรุงด้วยกรรมวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตุ๋น นึ่ง ต้ม และทอด ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์เชฟเพราะได้โชว์ทักษะความเชี่ยวชาญในหลากหลายแขนง ฟากของคนกินยังได้สัมผัสถึงประสบการณ์อาหารที่ไม่จำเจอีกด้วย Kappo Kazunobu นำทีมความอร่อยโดยโออิชิ คาซึโนบุ เชฟชาวชิซูโอกะผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารญี่ปุ่นกว่า 26 ปี เคยผ่านร้านอาหารระดับ 5 ดาวจากหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอัมสเตอร์ดัม ญี่ปุ่น เซี่ยงไฮ้ และ Yamazato สาขาประเทศไทยที่การันตีความน่าไปโดย Michelin กับรางวัล Michelin Plate ก่อนที่เชฟจะออกมาร่วมหุ้นมีร้านโอมากาเสะประทับตราชื่อตัวเองและเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา ขรึมตั้งแต่หน้าร้าน ในเรื่องของการตกแต่งมีธีมหลักเป็นสีดำตัดกับเฉดธรรมชาติอย่างสีน้ำตาลอ่อนของไม้ ดูขรึมแต่ก็เข้าถึงง่ายด้วยมู้ดแอนด์โทนภายในร้าน สำหรับใครต้องการความเป็นส่วนตัวทางร้านก็มีห้องไพรเวทให้สำรองล่วงหน้ากว่า 2 ห้อง (ขนาด 6 ที่นั่ง กับ 8-10 ที่นั่ง) ขณะที่โซนเคาน์เตอร์บาร์สามารถเปิดรับรองลูกค้าต่อรอบได้เต็มที่คือ 10 […]