• Bookmark
  • Share

Koko Japanese Restaurant (โกโกะ เจแปนนิส เรสเตอร์รอง)

  • Bookmark
  • Share
  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 3,000 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = มาก
    เนื้อวัว = ปานกลาง
    ผัก = ปานกลาง
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    น้อย
  • Special
    Special
    มีห้องส่วนตัว
    มีสาเกมากกว่า 10 ชนิด
    มีโชจูมากกว่า 10 ชนิด

โอมากาเสะคอร์สสไตล์ผสมผสานจ่ายเพียง 1,XXX++ บาท ก็ฟินได้

ให้รางวัลตัวเองด้วยโอมากาเสะดีๆ สักคอร์ส ณ Koko Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสาทรที่โดดเด่นเรื่องการเสิร์ฟซูชิฉบับตามใจเชฟ ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาครีเอทเป็นเมนูอร่อยในแบบฟิวชั่น ว่ากันด้วยราคาก็เรียกได้ว่ามิตรภาพ อย่างคอร์สพรีเมียมที่สุดในร้านควักเงินไม่ถึงสองพันบาทก็กินได้

ตัวร้านจะว่าหาง่ายก็พูดได้ไม่เต็มปากเพราะซ่อนตัวอยู่หลังอาคารสำนักงานท่ามกลางความพลุกพล่านในย่านสาทร ภายในร้านมีทั้งส่วนอะลาคาร์ท โซนโอมากาเสะ และห้องส่วนตัวแยกกันเป็นสัดส่วน ทั้งหมดล้วนตกแต่งอย่างเรียบง่ายในสีเอิร์ธโทนดูสบายตา ซึ่งเหมาะอย่างมากกับการมาใช้เวลาเพื่อเพิ่มค่าดัชนีความสุขด้วยนานาเมนูอร่อยสักมื้อกับคนที่คุณรัก

คอร์สโอมากาเสะที่ Koko Japanese Restaurant จะมีให้เลือกอยู่ 2 ราคาด้วยกัน เริ่มต้นที่ 1,699++ บาท เสิร์ฟมากถึง 17 รายการ แต่ถ้าใครต้องการความพรีเมียมที่บียอนด์ไปกว่านั้นสามารถสำรองเป็น Special Course ไปเลยที่ 2,199++ บาท เพราะตลอด 2 ชั่วโมงที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์เชฟจะสรรหาเมนูน่ารับประทานกว่า 20 รายการมาเสิร์ฟให้คุณแบบคำต่อคำ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าคนไหนที่มาใช้บริการคอร์สโอมากาเสะครบ 3,000 บาท ยังได้สิทธิ์หมุนวงล้อชิงรางวัล ซึ่งของกำนัลก็มีตั้งแต่เมนูอร่อย บัตรกำนัลเงินสด ไปจนถึงกินคอร์สโอมากาเสะฟรีเลยทีเดียว

ด้วยความที่เป็นโอมากาเสะนอกจากความเชี่ยวชาญของเชฟคือหัวใจหลัก วัตถุดิบอร่อยตามแต่ฤดูกาลก็ยังเป็นสิ่งที่ร้านตั้งมั่นว่าต้องคัดสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุดมาเสิร์ฟ เหมือนกับ Special Course ที่คิจิไปลองมาแล้วได้ข้อสรุปกับตัวเองว่า Koko Japanese Restaurant คืออีกหนึ่งร้านโอมากาเสะที่เหล่าซูชิเลิฟเวอร์ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะใครที่เป็นสายบริโภคซูชิสไตล์ผสมผสาน จงอย่ารีรอที่จะทดร้านนี้ไว้ในใจแล้วไปสัมผัสความอร่อยด้วยตัวเอง

โดยในคอร์สจะเริ่มต้นด้วย Chawan Kani Mushi ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนเสิร์ฟอุ่นท็อปด้วยเนื้อปูซูไว อิคุระ และบาฟุนอุนิ เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยชั้นดีทั้งช่วยเปิดต่อมรับรสชาติให้พร้อมสำหรับเมนูต่อๆ ไป Yasai Nimono คืออีกจานออเดิร์ฟที่เชฟยกมาให้เป็นลำดับถัดมา สลัดในแบบเย็นเคียงมาด้วยซอสงาโฮมเมด ปลาโอแห้ง กับบาฟุนอุนิ นี่ก็อร่อยครบถ้วนทั้งเทกซ์เจอร์กรุบกรอบของผักและรสสัมผัสอันกลมกล่อม

Chawan Kani Mushi ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนเสิร์ฟอุ่นท็อปด้วยเนื้อปูซูไว อิคุระ และบาฟุนอุนิ ของร้าน Koko Japanese Restaurant

Chawan Kani Mushi

Yasai Nimono สลัดในแบบเย็นเคียงมาด้วยซอสงาโฮมเมด ปลาโอแห้ง กับบาฟุนอุนิ Koko Japanese Restaurant

Yasai Nimono

ซาชิมิในครั้งนี้แน่นอนว่าเป็น Ankimo เหตุผลก็เพราะถึงช่วงฤดูอร่อยของเขาพอดี ตับปลาอันคิโมะหรือในอีกชื่อคือฟัวกราส์แห่งท้องทะเล สัมผัสหวานมันเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับวาซาบิขูดสด แถมยามเคี้ยวก็ได้กลิ่นหอมของผิวส้มยูซุที่เชฟฝนมาเพิ่มมิติเป็นระยะๆ เอาเป็นว่าคนไหนที่เพิ่งได้ลองหรือแม้แต่คนที่ไม่ถนัดกินเครื่องใน ไม่ใครก็ใครต้องมีติดใจจนอยากซ้ำอีกรัวๆ ส่วนนิกิริคำแรกเชฟเสิร์ฟมาเป็นปลาเนื้อขาวอย่าง Madai โดยเลือกใช้ไซส์ 1 กิโลกรัมด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มกว่าปกติ ปั้นกับข้าวซูชิท็อปด้วยเกลือนิด วาซาบิหน่อย และผิวยูซุ เป็นนิกิริเลเวลเริ่มต้นที่ทำให้คนกินอย่างเรานั้นรอคำต่อไปแทบจะไม่ไหว

Akimo ตับปลาอังกิโมะหรือในอีกชื่อคือฟัวกราส์แห่งท้องทะเล Koko Japanese Restaurant

Ankimo

ปลาเนื้อขาวอย่าง Madai จากร้าน Koko Japanese Restaurant

Madai

อีกคำกับปลาเนื้อขาว Hirame ที่ก่อนจะเอามาปั้นเสิร์ฟ เชฟได้นำไปแต่งกลิ่นรวมถึงเนื้อสัมผัสด้วยการซึเกะกับสาหร่ายนาน 2 วัน ออกแบบให้กินคู่กับโชยุปรุงใหม่ วาซาบิ กับยูซุโคโช ต่อด้วย Hiramasa ปลาเนื้อกรอบ ป้ายกับซอสเปรี้ยวสูตรลับของเชฟ ท็อปด้านบนด้วยหัวไชเท้าบดผสมกับพริกแดง อีกทั้งหอมญี่ปุ่น ก่อนจะใส่ความเป็นฟิวชั่นเข้าไปด้วยทรัฟเฟิลออยล์ ที่ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของปลานั้นกลืนหาย มีแต่จะช่วยส่งเสริมให้นิกิริคำนี้ฟินจนเราอยากจะเคี้ยวอยู่อย่างนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ

Horami at Koko Japanese Restaurant

Hirame

Hiramasa at Koko Japanese Restaurant

Hiramasa

ถึงคิวของ Hotate Yaki หอยเชลล์นำเข้าจากฮอกไกโดไซส์เบิ้ม ซึ่งเชฟนำมาย่างกับถ่านไม้สนราวนาทีครึ่ง ขณะเดียวกันก็ผสมอุนิกับข้าวเมล็ดสั้นทั้งโชยุให้เนียนเป็นเนื้อเดียวเตรียมไว้ จากนั้นค่อยตักใส่สาหร่ายแล้วตามด้วยหอยเชลล์ที่ย่างจนได้ที่ อินกรีเดียนท์ทองคำขนาดนี้เหลือไว้คงเสียดายน่าดู หรือไม่จริง? คั่นด้วยรายการฟิวชั่น Amaebi กุ้งหวานนอนนิ่งอยู่บนข้าวมันปูซูไว เติมอรรถรสให้สนุกขึ้นด้วยการพ่นผงทอง อร่อยเรืองรองจนอยากเบิ้ลไปอีกหลายๆ จาน

Hotateyaki at Koko Japanese Restaurant

Hotate Yaki
Amaebi at Koko Japanese Restaurant
Amaebi

Uni คือซูชิอีกคำที่ขาดไม่ได้ในคอร์สโอมากาเสะ ทางร้านใช้อุนิสายพันธุ์บาฟุนที่จุดเด่นของเขาคือความหวาน สำหรับข้าวซูชิที่เชฟครีเอทมาให้กินด้วยกันนั้นก็ต้องปรุงกับน้ำส้มสายชูแดงถึงจะเหมาะสมลงตัว ทั้งหมดห่อรอบด้วยสาหร่ายมาไกลจากแถบคิวชู ครบสูตรความอร่อยที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม เหมือนกับ Ikura ที่เชฟจัดมาให้แบบพูนๆ กรุ่นกลิ่นหอมพร้อมเต็มรสสัมผัสจากท้องทะเล

Uni

Ikura

เปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อยกับ Zuwai Ankake ซุปปูซูไวอุ่นๆ ที่เคี่ยวกับหอยเป๋าฮื้อยาวถึง 3 วัน กินคู่กับหัวไชเท้ากับเนื้อปูรสหวาน ที่แน่นอนว่าเสิร์ฟมาไม่นานก็เกลี้ยงชามราวกับเสกได้ ไล่มาที่ Chutoro ซูชิหน้ายอดนิยมกับฮอนมากุโร่เนื้อท้องส่วนหลัง อร่อยละลายในปากทั้งยังเค็มเล็กๆ กระตุ้นต่อมรับรสจากคาเวียร์เกรดพรีเมียมนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส

Zuwai Ankake

Chutoro

Unagi Snow คือรายการลำดับต่อมา อุนางิส่วนท้องย่างถ่านหอมๆ ท็อปมาบนข้าวซูชิ เสิร์ฟพร้อมไข่แดงฝนที่ผ่านการไปซึเกะกับน้ำปรุงสูตรเฉพาะ โดยเชฟตั้งใจให้เป็นตัวแทนของซอสชูความกลมกล่อมให้กับคำนี้ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว คั่นรายการด้วยสิ่งที่น่าสนใจอย่าง Matsuzaka Dry Suki เนื้อมัตสึซากะส่วนสตริปลอยน์ Marbling Score ระดับ A5 เชฟแกว่งลงบนซุปสุกี้ยากี้สไตล์ฮอกไกโดให้พอขึ้นสีราวหนึ่งนาที ก่อนแผ่ลงบนจานเสิร์ฟพร้อมไข่แดงดิบไซส์ไข่นกกระทา เป็นความฟินที่สายเนื้อน่าจะจินตนาการได้ว่ามันจะอร่อยสักแค่ไหน

Unagi Snow

Matsuzaka Dry Suki

ส่วน Foie Gras Sandwich นี่ก็ทำออกมาได้อร่อยเกินคาด ขนมปังประกบทาบทับชิ้นฟัวกราส์ คั่นด้วยซอสเปรี้ยวในแบบทงคัตสึ มีท็อปปิ้งเป็นอิคุระกับเกลืออะวายูกิ (Awayuki Salt) รสชาติเค็มนวลเข้ามาช่วยบาลานซ์ให้แซนด์วิชชิ้นนี้แตกต่างกว่าจานอื่นๆ ที่ผ่านมา ด้าน Otoro Inaniwa อุด้งอินานิวะเส้นแบนเสิร์ฟเย็นกับโอโทโร่สับในซุปสูตรของเชฟ ชามนี้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งดีงามท้ายๆ คอร์สที่เชฟได้ตั้งใจฝากความประทับใจเอาไว้

Foie Gras Sandwich

Otoro Inaniwa

สำหรับ Tamago Bate ใครที่กินโอมากาเสะบ่อยๆ จะทราบว่าคำนี้อร่อยแต่กรรมวิธีกว่าจะได้มานั้นยากแสนยาก ซึ่งที่ร้านเพียรประคบประหงมกว่า 5 ชั่วโมงแบบไร้ตัวช่วยอย่างแป้ง ซึ่งก็คุ้มค่าเพราะสัมผัสที่เนียนนุ่มยามเคี้ยวในบางจังหวะก็หนึบราวกับสปันจ์เค้ก เป็นเครื่องการันตีว่าที่ใช้เวลามานั้นไม่สูญเปล่า ก่อนจะสิ้นสุดที่ของหวานเชฟอยากให้แวะซดซุป Hirame Osuimono ก่อนเพื่อเคลียร์ลิ้น ซุปท้องปลาฮิราเมะที่เชฟเคี่ยวจนใส มอบฟิลลิ่งนวลละมุนๆ ทุกครั้งที่ซด คือตอนจบของซีรีส์ที่ทำเราไม่อยาก Move On จากโมเมนต์แห่งความสุขเช่นนี้ไปเลย

Tamago Bate

Hirame Osuimono

เหมือนสิ่งที่เรียกว่า Dessert จะความหมายเดียวกับคำว่า Happy Ending โดยเชฟเสิร์ฟของชอบของใครหลายๆ คนมาในชามใหญ่ประกอบไปด้วยไอศกรีมยูซุทำเองและเมล่อนหั่นชิ้นมาแล้วเรียบร้อยนำเข้าจากฮอกไกโด จะเลือกดื่มด่ำกับไอศกรีมให้เกลี้ยงถ้วยหรือกินสลับกันให้ได้รสฉ่ำหวานแซมเปรี้ยว ไม่ว่าแบบไหนก็ทำได้เลยตามอำเภอใจ เพราะไม่ว่าใครต่างก็มีอิสรภาพและสามารถครีเอทความสุขของตัวเองได้แทบทั้งนั้น

Dessert

และสำหรับใครที่สนใจคอร์สโอมากาเสะแนะนำให้โทรไปสำรองก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ซึ่งเพียงแค่นั้นคุณก็จะได้รับส่วนลดกว่า 200 บาท อย่างคอร์สราคา 1,699++ บาท ก็จะเหลือ 1,499++ บาท ส่วน 2,199++ บาท ที่เป็น Special Course ก็จะเหลือ 1,999++ บาท เท่านั้น จองเถอะ อย่า Walk-in เลย

Map