Kabocha Sushi (คาโบฉะ ซูชิ)

ลุคใหม่กับสาขาล่าสุดที่โครงการ 111 ประดิษฐ์มนูธรรม  

Kabocha Sushi สาขาล่าสุดที่โครงการ 111 ประดิษฐ์มนูธรรม ไม่เพียงสร้างความตื่นเต้นด้วยรูปลักษณ์ใหม่ คอนเซ็ปต์ใหม่ ยังพิเศษใส่ไข่ด้วยวัตถุดิบสุดพรีเมียมและมีให้เลือกหลากหลายกว่าที่เคย อีกทั้งมาพร้อมกับโปรโมชั่นส่วนลดแบบปังๆ รวมถึงสิทธิพิเศษมากมายสำหรับสมาชิกทุกคน ใครที่ยังลังเลอยู่ว่าลองไม่ลองดี อยากบอกไว้ตรงนี้ว่า Kabocha Sushi สาขาใหม่นี้มีดีเปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพในทุกดีเทลจริงๆ 

เพราะ “คำแห่งความสุขเกิดขึ้นได้ทุกวัน” คาโบฉะซูชิเลยอยากที่จะส่งมอบมื้อพิเศษให้กับชาวเลียบด่วนด้วยสาขาใหม่ โลเคชั่นมาง่ายกลับสะดวกมีที่จอดรถในตัวอย่างโครงการ 111 ประดิษฐ์มนูธรรม โดยครั้งนี้มาพร้อมกับลุคใหม่ให้บรรยากาศอบอุ่นสนุกสนาน (แต่ยังคงสีเหลืองที่เป็นเอกลักษณ์ของคาโบฉะซูชิเอาไว้) ตกแต่งร้านโดยนำรายละเอียดของวัตถุดิบอาหารไปจนถึงการหยิบเอาเสน่ห์ของแดนอาทิตย์อุทัยที่โดดเด่นมารวมเข้าไว้ด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นอารมณ์ใหม่ๆ ที่หาไม่ได้จาก Kabocha Sushi สาขาอื่นๆ เลยทีเดียว จะบอกว่าใครที่ชอบเซลฟี่ที่นี่มีหลายมุมให้ถ่ายภาพ ส่วนที่นั่งก็ถูกจัดวางเป็นอย่างดีลุกนั่งสบาย นอกจากนี้ในช่วง 3 เดือนฉลองสาขาใหม่ทางร้านยังนำเข้าเครื่องดื่มท้องถิ่นจากข้าวจาก 10 เมืองมาให้ลูกค้าได้แพริ่งกับอาหาร ด้านไอศกรีมก็พัฒนาสูตรขึ้นมาเป็นพิเศษ ที่สำคัญคาโบฉะซูชิยังให้ความสำคัญกับการกินอาหารตามฤดูกาล เช่นว่าคนญี่ปุ่นกินปูซุไวในหน้าหนาว คาโบฉะซูชิก็จะนำเข้าปูซุไวในช่วงที่ดีที่สุด อร่อยที่สุด มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองเช่นเดียวกัน 

ไม่เพียงแค่วัตถุดิบตามฤดูกาลที่ทางร้านใส่ใจ รายการอาหารก็มีความวาไรตี้หลากหลายครอบคลุมทุกโจทย์ความชอบ แม้จะมากันทั้งครอบครัวทางร้านก็รับรองได้ครบจบในที่เดียว ตั้งแต่ซูชิที่มีทั้งแบบเสิร์ฟเป็นคำและเซ็ต ซึ่งจาน recommend เลยก็คือ Sushi Set A ที่เชฟจัดมาให้กันถึง 8 คำ ไม่ว่าจะเป็นชูโทโร่ ฮามาจิ อูนางิ อิคุระ แซลมอน อากามิ อามะเอบิ และหอยปีกนก 

Sushi Set A (850 บาท)

ขณะที่ซาชิมิสดๆ ก็ไม่ควรพลาดอย่างครั้งนี้เราได้ลอง Madai Sashimi แบบแล่บางแต่มีลูกเล่นตรงเนื้อสัมผัสเด้งสู้ฟันด้วยเชฟใช้เทคนิคเบิร์นไฟที่หนังปลา เสิร์ฟมาพร้อมกับพอนสึรสชาติเปรี้ยวแซมเผ็ด เป็นอีกรสชาติที่เราว่าคนไทยน่าจะถูกใจ

Madai Sashimi (373 บาท)

หรือถ้าใครอยากกินปลาหลากหลายมากกว่านั้นเราแนะนำเป็น Harmony of the Sea เพราะเขามาแบบไซส์ใหญ่จัดมาให้ถึง 9 อย่าง ทั้งแซลมอน ฮามาจิ อิคุระ อามะเอบิ คัมปาจิ โอโทโร่ อากามิ แซลมอนส่วนท้อง และซูซูกิ แต่ละคำหวานฉ่ำอวดความสดแบบไม่แพ้กันเลยทีเดียว 

Harmony of the Sea (1,440 บาท)

ส่วนสายมันปูเชิญมุงทางนี้เพราะ Kani Miso Top Uni ของคาโบฉะนั้นแตกต่างด้วยทางร้านใช้มันปูสองชนิดผสมเข้าด้วยกันนั่นก็คือปูซุไวและปูเซโกะก่อนจะปรุงรสให้กลมกล่อมด้วยสาเก ในส่วนของท็อปปิ้งก็ใส่มาแบบไม่มีกั๊กไม่ว่าจะเป็นอิคุระและอูนิ แน่นอนว่าทางร้านล้วนใช้ของดี อย่างอิคุระที่คัดมาแต่เม็ดใหญ่ๆ หรืออูนิก็เลือกใช้เฉพาะพันธุ์บาฟุนเท่านั้น

Kani Miso Top Uni (490 บาท)

Seiko Uni Ikura เมนูนี้เอาใจคนชอบกินปูเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่ต้องเป็นปูเซโกะเท่านั้น สำหรับจานนี้ทางร้านนำเข้าปูเซโกะจากจังหวัดเฮียวโงะ เสิร์ฟมาแบบย่างหอมๆ ท็อปด้วยอิคุระและอูนิบนเตาฮิดะ จะกินแยกกันก็อร่อยแต่อยากมันนัวกลมกล่อมกลมใจแนะนำให้คลุกเคล้าก่อนกินถึงจะดีที่สุด

Seiko Uni Ikura (580 บาท)

หากใครอยากจัดหนักจัดเต็มชามเดียวอยู่คาโบฉะซูชิก็มีอาหารตระกูลดงบุริพร้อมเสิร์ฟด้วยเช่นกัน ที่ภูมิใจนำเสนอก็มี Ikura Don สำหรับคนไหนที่ชอบกินไข่ปลาแซลมอนขั้นสุด หรือจะเป็น Unagi Don ข้าวหน้าปลาไหลย่างหอมๆ เนื้อนุ่มฟู ซอสก็หวานกำลังพอดี ข้าวญี่ปุ่นที่หุงมาร้อนๆ ก็อร่อยแฮปปี้ แนะนำเลย 

Ikura Don (990 บาท)

Unagi Don (430 บาท)

แต่ถ้าไม่ถนัดงานปลาดิบทางร้านก็มีหมวดกระทะร้อนรับรอง Kaisen Moriawase Steak เป็นการรวมเอาความอร่อยจากทะเลมาไว้ในกระทะเดียว ตั้งแต่แซลมอน กุ้ง ปลาหมึก ไปจนถึงหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ซึ่งทางร้านกริลล์มาแบบจูซซี่มากไม่แห้งเลยสักนิดเดียว 

Kaisen Moriawase Steak (420 บาท)

ก่อนจะตบท้ายมื้อด้วยไอศกรีมรสตามฤดูกาลอย่างในช่วงนี้จะมีเป็น Sakura Ume Ice Cream ไอศกรีมเนื้อซอร์เบท์ให้รสเปรี้ยวเค็มเล็กๆ ช่วยล้างปากได้ชะงัด ขณะที่ Blancmange Ice Cream ก็นมๆ มันๆ หอมถั่วคินาโกะ ใครชอบรสไหนก็เลือกตามที่ถูกใจได้เลย       

Sakura Ume Ice Cream (107 บาท)

Blancmange Ice Cream (107 บาท)

และอย่างที่กล่าวไปว่าสาขานี้มาพร้อมกับโปรโมชั่นรวมถึงสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกมากมาย เพียงแค่จ่ายเงินสดหรือสแกน QR Code ก็มีส่วนลดค่าอาหารเมนูที่ร่วมรายการ หรือหากมียอดใช้จ่ายที่ร้านเป็นจำนวน 2,000 บาท (สามารถสะสมใบเสร็จภายในเดือนนั้นๆ ได้) ก็จะได้เป็นสมาชิกกับที่ร้าน ซึ่งความดีงามก็คือในครั้งถัดๆ ไปก็จะได้รับของกินเล่นที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอไปเลยฟรี หรือถ้าไม่ได้เป็นสมาชิกคิจิก็ยังรู้สึกว่าคุ้มค่าอยู่ดีเพราะทางร้านไม่เพียงเสิร์ฟวัตถุดิบสดๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ หนำซ้ำราคาก็ยังจับต้องได้จ่ายสะดวก เอาเป็นว่าคนที่ไม่เคยแวะ Kabocha Sushi มาก่อนคิจิอยากให้ลองมาเช็คอินกันที่นี่จริงๆ