17:00-23:00 น.
Jidori แปลว่า ไก่บ้าน เพียงเท่านี้ก็น่าจะพอนึกภาพกันออกแล้ว ว่าอาหารของร้านนี้โดดเด่นในเมนูอะไรบ้าง นี่คือร้าน “Jidori Cuisine Ken (จิโดริ คุยซีน เคน)” อิซากายะที่ครองใจชาวญี่ปุ่นในไทยมากว่า 14 ปี ด้วยเมนูอาหารที่เน้นเนื้อไก่แทบจะ 100% ของที่ร้าน โดยเฉพาะยากิโทริหรือไก่ย่างเสียบไม้ของที่นี่เรียกได้ว่าไม่มีความธรรมดาเลย เพราะความพิเศษเริ่มตั้งแต่เนื้อไก่ที่เลือกใช้ไก่บ้านจากฟาร์มที่ได้มาตรฐานส่งตรงถึงร้านแบบวันต่อวัน โดยวันๆ นึงที่ร้านใช้ไก่เกือบ 30 ตัว เลยทีเดียว
ความไม่ธรรมดายังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่ร้านยังเลือกใช้ถ่านเฉพาะอย่าง “บินโจตัน” สุดยอดถ่านจากภูมิปัญญาชาวญี่ปุ่น ด้วยขั้นตอนการเผาในเตาพิเศษที่ให้ความร้อนถึง 1,000 องศาเซลเซียส จึงให้ความร้อนที่พอเหมาะและไม่เกิดเปลวไฟมาทำให้เนื้อไก่เสียรสชาติ รวมไปถึงซอส เกลือ หรือเครื่องปรุงอื่นๆ ที่ต่างคัดสรรมาอย่างดี สเปเชียลซะขนาดนี้แน่นอนว่าการันตีความยอดเยี่ยมโดยมิชลินสตาร์มาเอง
ถ่านบินโจตันจะมีผิวด้านนอกสีขาวคล้ายขี้เถ้า เนื้อถ่านด้านในมีสีดำมันวาว และเมื่อนำมาเคาะจะให้เสียงคล้ายเสียงโละหะกระทบกัน
นอกเหนือจากเมนูอาหารแล้ว การตกแต่งและบรรยากาศของร้านนี้เราว่าก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเคาน์เตอร์บาร์ไม้ตัวยาวสีเข้มที่ดูโดดเด่นเมื่อต้องแสงจากโคมไฟทรงวินเทจ รวมถึงกิ่งไม้แห้งที่วางขัดกันไปมาอยู่บนฝ้าเพดานพอให้แสงเล็ดลอดผ่าน สร้างบรรยากาศที่ดูเคร่งขรึมแต่ผ่อนคลายไปในตัว
โดยรวมแล้ว แม้สนนราคาอาหารของที่ร้านอาจจะสูงไปบ้าง แต่ทั้งความอร่อย บรรยากาศ และประสบการณ์พิเศษๆ ที่ลูกค้าจะได้รับ คิจิมั่นใจเลยว่า ไม่ว่าใครก็ต้องชอบ บอกเลยว่าคุ้ม!
เมนูยากิโทริที่ขายดีที่สุดของร้านก็คือไม้ขวาสุด Tsukune (110 บาท) ไก่ปั้นผสมรากบัวที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสไม่เหมือนของร้านไหน ปกติหนึ่งเดือนขายได้มากกว่า 500 ไม้เลยทีเดียว
อีกเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงที่ร้านปิดให้บริการเนื่องจากสถานการณ์โควิดจึงต้องจัดส่งแบบเดลิเวอรี่เท่านั้น นี่ก็คือ Mizutaki Nabe (600 บาท/ 2 ที่) หม้อไฟที่กุมใจลูกค้าด้วยรสเลิศของซุปไก่ที่เคี่ยวหลายชั่วโมง เข้ากับเนื้อไก่บดและผักนานาชนิดได้เป็นอย่างดี นอกจากจะอิ่มแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย