ทาโกยากิร้อนๆ ต้นตำรับจากญี่ปุ่น

Gindaco (กินดาโกะ) ร้านทาโกยากิชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟความอร่อยไปกับทาโกยากิลูกกลมโตสีเหลืองสวยด้านนอกกรุบกรอบ ด้านในเวลาเคี้ยวจะได้สัมผัสถึงความนุ่มหนึบหนึบและความหวานของปลาหมึกชิ้นใหญ่  ราดด้วยซอสรสชาติหวานเค็มที่เป็นเอกลักษณ์ มายองเนส สาหร่ายป่น และปลาแห้งขูดเป็นแผ่นที่เต้นระบำอยู่บนทาโกยากิร้อนๆ ชวนน้ำลายสอสุดๆ 

คำว่า “Gin” มาจากชื่อถนน “Ginza” ย่านดังในญี่ปุ่น ใจกลางโตเกียว ส่วน “Daco” เป็นคำแสลง มาจาก “Tako” ซึ่งหมายถึงปลาหมึกยักษ์ นำมารวมกันคือ “Gindaco” นั่นเอง ร้านทาโกยากิที่ส่งตรงความอร่อยทั้งสูตรลับและวัตถุดิบมาจากญี่ปุ่นแท้ๆ รวมถึงวิธีการปรุงที่ได้มาตรฐานเดียวกัน ทั้งเรื่องของการควบคุมอุณหภูมิเตาเหล็กให้ได้ความร้อนคงที่ คงสีสันของทาโกยากิให้ได้สีเหลืองสวยน่ารับประทาน ด้านในของตัวแป้งต้องมีปลาหมึกยักษ์ชิ้นใหญ่เนื้อกรอบนุ่มเด้ง คัดเลือกแต่ปลาหมึกที่มีคุณภาพดีที่สุดมาเสิร์ฟเท่านั้น

ส่วนตัวซอสสูตรเฉพาะที่มีรสชาติหวานเค็ม สีน้ำตาลเข้ม ปรุงมาอย่างดีเหมือนสูตรต้นตำรับ มีส่วนผสมของผักและผลไม้จำนวนมาก เช่น มะเขือเทศ ส้ม แอปเปิ้ล ลูกพีช และอื่นๆ อีกมากมาย จึงทำให้ได้รสชาติหวานอร่อยอย่างเป็นธรรมชาติเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้จะต้องอาศัยความชำนาญและเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ในการใช้เตาเหล็กพิเศษที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ฝึกฝนเทคนิคการหมุนปั้นแป้งให้กลมสวยพร้อมกับห่อปลาหมึกชิ้นโตไปด้วย จนได้สีเหลืองสวยน่ารับประทาน ที่สำคัญเมนูนี้ดีต่อสุขภาพด้วยนะเพราะใช้น้ำมันข้าวโพด 100%  ก่อนจัดเสิร์ฟในกระทงเยื่อไผ่ใบจิ๋ว โรยด้านหน้าด้วยปลาแห้งที่ทำมาจากปลาคาซึโอะด้วยวิธีการดั้งเดิมแบบฉบับญี่ปุ่น และสาหร่ายคาเกะรสชาติดี มีกลิ่นหอม

ทาโกยากิจะอร่อยที่สุดตอนที่ออกมาจากเตาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมกรุ่น
ทางร้านจึงไม่ขายทาโกยากิที่ทำเสร็จแล้วเกิน 15 นาที เพราะจะเย็นชืดจนเสียรส

วันนี้เราเดินทางมาที่ สาขาเอสพลานาด รัชดา ตัวร้านตั้งอยู่โดดเด่นมองเห็นได้แต่ไกล ด้านหน้าร้านเป็นโซนปรุงอาหารที่เราสามารถชะเง้อมองดูทาโกยากิร้อนๆ บนเตาได้ผ่านกระจกใส และด้านข้างคือโซนสำหรับนั่งรับประทานที่ร้าน ตกแต่งให้บรรยากาศเหมือนเรานั่งรับประทานทาโกยากิอยู่ในบ้านเก่าของญี่ปุ่น ด้วยการใช้ไม้สีอ่อนอบอุ่น ตัดกับสีแดงสดใสของเฟอร์นิเจอร์ ภาพวาดลายเส้นขาวดำ และยังมีช่องเล็กตรงผนังที่เป็นช่องสำหรับส่งคืนภาชนะเมื่อเรารับประทานเสร็จอีกด้วย 

บรรยากาศด้านหน้าร้าน

บรรยากาศโซนที่นั่ง

และแล้วก็ได้เวลาของทาโกยากิร้อนๆ มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ ในวันนี้เราขอแนะนำ 2 รสชาติที่ต้องลองให้ได้ คือ รสดั้งเดิม (Original) และรสเทอริยากิหน้าไข่ (Teritama) นอกจากนี้ยังมีรสชาติอื่นๆ อีกมากมายให้ลองสั่งกันได้เต็มที่ อย่างเมนูแรกคือ  รสดั้งเดิม (Original) ทาโกยากิลูกโตที่เสิร์ฟมาอย่างชุ่มฉ่ำ ราดด้วยซอสกินดาโกะสูตรเฉพาะของร้าน มีส่วนผสมของผักและผลไม้จำนวนมาก ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มฉ่ำและให้รสชาติเข้ากันเป็นอย่างมากกับทาโกยากิลูกโต 

รสดั้งเดิม (4 ชิ้น/100 บาท) 

และอีกหนึ่งเมนูกับ รสเทอริยากิหน้าไข่ (Teritama) เพิ่มสัมผัสและรสชาติของรสเทอริยากิให้อร่อยมากขึ้น โดยเพิ่มการโรยหน้าด้วยไข่ที่ปรุงจนได้รสที่กลมกล่อมเสิร์ฟมาจนพูน ราดด้วยมายองเนสสูตรพิเศษที่ให้รสเปรี้ยวหวานลงตัว ก่อนใช้ตะเกียวคีบเข้าปากขณะที่ยังอุ่นๆ จะได้รับความอร่อยเต็มปากเต็มคำ รับรองว่าอร่อยจนแก้มตุ่ยเลยที่เดียว 😉

รสเทอริยากิหน้าไข่ (4 ชิ้น/115 บาท)