ศาลาหลังใหญ่ที่มอบความอร่อยมาแล้วกว่า 30 ปี

Cha Cha An ร้านอาหารญี่ปุ่นเก่าแก่ ตั้งสแตนด์อโลนในบ้านหลังใหญ่บรรยากาศร่มรื่นย่านเอกมัย เสิร์ฟความอร่อยดั้งเดิมแบบแดนอาทิตย์อุทัยแท้ๆ การันตีโดยชาวญี่ปุ่นที่แวะเวียนกันมาผูกปิ่นโตอุดหนุนนานกว่า 3 ทศวรรษ

เท่าที่ได้พูดคุยกับคุณแดงเจ้าของร้านก็ได้ความว่าแต่เดิม “ชะ ชะ อัน” นั้นตั้งอยู่ในสยามสแควร์ แต่ด้วยเพราะหมดสัญญาจึงต้องมองหาโลเคชั่นใหม ซึ่งก็ได้มาพบกับบ้านที่เรียกได้ว่าดีเทลทุกอย่างเป็นใจ เลยจัดการตกแต่งภายในเสียใหม่ให้ได้ฟิลลิ่งญี่ปุ่นในแบบร่วมสมัยมากขึ้น

ตัวร้านกว้างขวาง มีหลายโซนให้เลือกนั่ง

อาณาบริเวณร้านถือว่ากว้างขวางทั้งมีหลายโซนให้ลูกค้าเลือกนั่งตามความชอบ ตั้งแต่ส่วนเคาน์เตอร์บาร์ โต๊ะริมหน้าต่าง ที่นั่งแบบหย่อนขากึ่งส่วนตัว ไปจนถึงห้องไพรเวทสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนใครที่นำรถมาทางร้านก็มีพื้นที่รับรอง ซึ่งเท่าๆ ที่ดูเห็นว่าสามารถจุได้หลายต่อหลายคันเลยทีเดียว

โต๊ะรับรองลูกค้าแบบหย่อนขาก็มีให้บริการ

ห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่น

ในส่วนของอาหารที่นี่ค่อนข้างเน้นรสชาติในแบบดั้งเดิมเป็นหลัก เห็นได้จากเหล่าขาประจำของร้านคือชาวญี่ปุ่นกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ที่มาฝากท้องในยามหิวและเลือกใช้เป็นสถานที่สำหรับรับรองคู่ค้าทางธุรกิจ ด้านวัตถุดิบทางร้านก็ได้ลงมือคัดสรรจากหลายๆ แหล่ง เช่นเนื้อฮิดะที่กว่าคุณแดงจะนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารเสิร์ฟลูกค้า ไม่ใช่ว่าเลือกแค่ซัพพลายเออร์ที่ไว้ใจ้ได้แล้วจบ แต่ซีเรียสถึงขั้นไปเช็คให้ครบถ้วนถึงฟาร์มที่ทาคายาม่าว่าเนื้อที่จะนำเข้ามานั้นได้คุณภาพตามมาตรฐานที่ตั้งไว้หรือเปล่า

มาว่าด้วยอาหารที่คิจิอยากแนะนำของร้านกันบ้าง เริ่มจากจานสลัดเบาๆ เรียกน้ำย่อยอย่าง Shirauo Salad ที่นอกจากจะมีปลาเงินทอดกรอบ ผักสลัด และอะโวคาโด เดรสซิ่งโฮมเมดของเขาก็ถือว่าอร่อยสดชื่นไม่ธรรมดาเลย ถัดมาคือ Sashimi 3 อย่างยกขบวนมาแบบชิ้นหนาๆ ทั้งปลาชิมาอาจิ มาได และชูโทโร่ โดยจานนี้คุณแดงบอกกับคิจิว่าชนิดของปลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล คัดมาแบบสดๆ ให้แก่ลูกค้า แม้กระทั่งน้ำแข็งที่เสิร์ฟมาพร้อมกับปลายังป่นมาแบบละเมียดละไม

Shirauo Salad (280 บาท)

Sashimi (900 บาท)

และที่ขาดไปไม่ได้เลยในร้านอาหารญี่ปุ่นก็คือจาน Nigiri มาพร้อมกับ 8 คำสำหรับคนที่สั่งไซส์ S อันได้แก่ ไข่หวาน, ชิมาอาจิ, มาได, แซลมอน, ฮามาจิ, มากุโร่ส่วนอากามิ, คัมปาจิ รวมถึงอิคุระ เสิร์ฟพร้อมกับโชยุที่ทางร้านนำไปปรับเป็นรสชาติของร้าน ซึ่งคิจิว่ามันค่อนข้างกลมกล่อมแตกต่างจากโชยุทั่วไปอยู่มากเลยล่ะ

Nigiri (Size S / 700 บาท)

ปิดท้ายกับ Saga Tataki เมนูที่สายเนื้อจะต้องตาลุกวาวกับเนื้อซากะลายสวยส่วนสันนอกที่เบิร์นไฟมาแบบมีเดียมแรร์ เรียงห่อรอบผักสัมผัสกรอบพร้อมกับซอสพอนสึปรุงรสออกเปรี้ยวอมหวานให้ได้รับประทานคู่กัน

Saga Tataki (2,000 บาท) 

นอกจากเมนูที่เราเอ่ยไป ในมื้อกลางวันทางร้านยังมีอาหารชุดราคาสมเหตุสมผลให้ได้เลือกอิ่ม หรือแม้แต่ในช่วงเย็นถ้าลูกค้าคนไหนอยากกินอาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิ ชะ ชะ อัน เองก็เต็มใจที่จะให้บริการเฉกเช่นกัน