จ.-ศ. 17:00-LATE น., ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:30-23:00 น.
เปิดสาขาใหม่ในซอยสุขุมวิท 39 กับร้านยากินิกุสไตล์ญี่ปุ่น Gyumura (กิวมุระ) ที่นอกจากจะเสิร์ฟเนื้อคุณภาพเยี่ยมระดับ A4 ไปจนถึง A5 ในร้านยังมีหลากเมนูอิซากายะรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ให้เลือกสรรอีกด้วย
17 ปีที่บริหารร้านยากินิกุกว่า 9 สาขาในไทย คุณรักษ์-เกรียงไกร เฮงฮะ ก็ได้ฤกษ์เปิดร้านใหม่ในคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจากเดิม ด้วยการเบลนด์ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นกับความเป็นอิซากายะมาเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเขาจริงจังแม้กระทั่งเชื้อเชิญเชฟผู้เชี่ยวชาญในสายต่างๆ ที่เคยผ่านงานร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมมาร่วมทำให้รูปแบบของ Gyumura นั้นแข็งแรงขึ้น
บรรยากาศภายในก็เหมือนได้ยกเอาร้านยากินิกุจากโตเกียวมาไว้ที่นี่ ตัวร้านมี 2 ชั้นสามารถเลือกนั่งมุมที่ชอบได้ตามต้องการ หรือในกรณีที่คนไหนมาเดี่ยวทางร้านก็จัดโซนไว้รับรองสำหรับโจทย์นี้ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่ามาร้านปิ้งย่างก็ต้องสั่งเนื้อส่วนต่างๆ มาปิ้งให้จนพุงกาง ซึ่งที่กิวมุระก็มีเนื้อคุณภาพสูงทั้งจากญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และไทยวากิว ไม่ว่าจะแบบแยกส่วนหรือเซ็ตรวมคุ้มๆ ทางร้านก็มีให้ลูกค้าได้เลือกสั่งทั้งนั้น นอกเหนือไปจากนั้นยังมีรายการเนื้อต่างๆ อย่าง ซาชิมิตับ ที่เสิร์ฟให้ได้ฟินกันแบบสดๆ และเมนู ยุกเกะ ที่เชฟคิดมาแล้วว่าเข้ากันกับไข่แดงแอปเปิ้ลและแตงกวา ฯลฯ
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่าที่นี่มีอาหารสไตล์อิซากายะบริการด้วย เอาที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ ก็มีตั้งแต่ เต้าหู้เย็น หอมน้ำมันงาทั้งโรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและงาขาว, เกี๊ยวซ่า นึ่งท็อปด้วยเนงิปรุงรสสูตรเฉพาะ, ทาโกะวาซาบิ นี่ทางร้านก็มีพร้อมเสิร์ฟอยู่ตลอดเวลา แต่ที่แนะนำมากๆ ก็คือจาน ชิโอะคาระ หรือหมึกร้าสไตล์ญี่ปุ่นนั่นเอง
และด้วยความที่เมนูอิซากายะของที่ร้านมีมากกว่า 30 รายการ (และจะมีเข้ามาเพิ่มอีกเรื่อยๆ) ไปแรกๆ อาจจะมีเลือกไม่ถูกบ้าง เริ่มด้วย คานิมิโซะ ที่คุณอาจจะบอกว่าร้านไหนก็มีแต่ที่นี่รสชาติของเขาครบรสไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน ส่วนของทอดเช่น ไก่คาราอาเกะ ก็เป็นอะไรที่ห้ามพลาด กับ ปลาฮอกเกะ อีกจานย่างไฮไลท์ของร้านที่พอบีบมะนาวรสชาติที่กลมกล่อมอยู่แล้วยิ่งสเปเชียลไปอีกหลายเท่า และท้ายสุดคือ เรเมง เสิร์ฟแบบเย็น เมนูที่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะสั่งมาปิดท้ายมื้อหลังจบจากเนื้อย่าง