10:00-20:00 น.
ตามชื่อของ Musha ในภาษาญี่ปุ่นที่ถอดความหมายได้ว่าเคี้ยวหงับๆ แน่นอนว่าใครก็ตามที่เดินเข้ามาที่ร้านไม่เพียงแต่จะได้รับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบดงบุริในราคาประหยัด บรรยากาศที่ได้สัมผัสยังรื่นรมย์ ด้วยตัวร้านแต่งสไตล์คาเฟ่ที่มีแต่มุมสวยๆ น่าถ่ายรูปทั้งนั้น
ว่ากันด้วยบรรยากาศก็ยังแตกต่างกับร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเรื่องโทนสี เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่ของตกแต่ง ที่พอเอามาประกอบเข้าด้วยกันแล้ว ไม่ใครก็ใครคงจะคิดว่าตัวเองได้มานั่งชิลล์ในคาเฟ่ดีๆ นี่เอง
คิจิได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า Musha by ZEN เขาเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นสไตล์ดงบุริ ทว่ารสชาติรวมถึงหน้าตาอาจจะไม่เหมือนกับที่อื่นสักหน่อยด้วยทุกจานของที่นี่ล้วนผ่านการครีเอท ทั้งผสานจุดเด่นของอาหารแต่ละสัญชาติ ตั้งแต่ญี่ปุ่น ตะวันตก และไทย ที่เมื่อได้มารวมเข้ากับวัตถุดิบสุดคัดสรร ออกมาเป็นข้าวหน้าต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์ หนำซ้ำยังอร่อยไม่เหมือนใคร
ไม่พูดพร่ําทําเพลงนานเรามาเริ่มกันที่ ข้าวแกงกะหรี่คอหมูย่างไข่ข้น เสิร์ฟมาแบบล้นๆ ตามคอนเซ็ปต์ร้าน เครื่องเคราก็เรียกได้ว่าแน่นตั้งแต่ข้าวโปะหน้าด้วยไข่ข้นเนื้อเนียน ข้างๆ คือแกงกะหรี่เข้มเต็มเครื่อง และคอหมูย่างชิ้นหนาจุใจ มาในไซส์ชามที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ถ้าใครยังรู้สึกว่ากระเพาะยังสามารถรับได้ที่นี่ก็มีบริการเติมข้าวได้แบบไม่อั้น ส่วนอีกหนึ่งจานแนะนำที่มอบรสชาติจัดจ้านแน่นอนว่าคือ ผัดอุด้งต้มยำหมู ที่เอาแค่หน้าตาก็บ่งบอกถึงความเผ็ดร้อนซาบซ่าสไตล์ไทย
ส่วนใครที่เลิฟเมนูผัดกะเพราเป็นพิเศษที่ Musha by ZEN ก็มี กะเพราแซลมอนกระทะร้อน เสิร์ฟ แซลมอนชิ้นที่ให้มาก็ไม่ใช่เล็กๆ แถมจัดมาในพอร์ชั่นแบบสเต็กที่ฉ่ำไปด้วยซอสกะเพรารสชาติเด็ดขาด ตามด้วยใบกะเพราทอดกรอบแต่งหน้า ที่เราว่ามันช่วยเติมเต็มความเป็นผัดกะเพราให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ด้านจานกินเล่นที่ร้านก็มีให้เลือกอยู่เพียบ แต่ที่ควรสั่งมากินคือ มุฉะชีสซี่ ไก่ทอดที่ทางร้านนำไปหมักซอสคาราเมลก่อนลงทอดให้หอมและขึ้นสีจนน่ารับประทาน พร้อมกับราดชีสเยิ้มๆ เป็นการปิดท้าย