Shogun Japanese Restaurant

ภัตตาคาร อาหารญี่ปุ่น ที่ครองบัลลังก์ยาวนานกว่า 40 ปี

เปิดตำนานภัตตาคาร อาหารญี่ปุ่น ที่ครองใจคนทุกช่วงวัยมายาวนานกว่า 40 ปี กับร้าน Shogun Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ครองใจคนทุกวัยด้วยความอร่อยพรีเมียมของทุกเมนู และความสุดยอดของการบริการ

Shogun Japanese Restaurant เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 เดิมทีตั้งอยู่ในโรงแรมดุสิตธานีก่อนย้ายตำนานความอร่อย พร้อมสูตรอาหารแบบดั้งเดิมมาตั้งอยู่ที่อาคารสินธร ในโซน Glass House ถนนวิทยุ

จากคำบอกเล่าของ คุณปณิธาน ชินวัฒนโชติ-ผู้ดูแลกิจการรุ่นที่ 3 บอกกับเราว่าลูกค้าประจำหลายท่านที่มารับประทานที่นี่เรียกได้ว่าเติบโตมากับร้านนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นที่ที่มาใช้เวลากับครอบครัวตั้งแต่เด็กๆ ทั้งวันฉลองวันเกิด วันครบรอบ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ร้านนี้จึงบริการและดูแลทุกคนเหมือนคนในครอบครัว ทั้งบรรยากาศที่ชวนอบอุ่นด้วยโทนสีเข้มของไม้ให้กลิ่นอายเหมือนบ้านเก่าแก่ของญี่ปุ่น โซนที่นั่งที่หลากหลาย และการบริการที่สุดแสนพิเศษของพนักงานที่ใส่ชุดกิโมโนโปรยรอยยิ้มพร้อมต้อนรับในทุกวัน

โซนที่นั่งด้านหน้าของร้าน

จากที่ย้ายบ้านใหม่มาที่อาคารสินธร การตกแต่งภายในร้านแทบจะไม่แตกต่างจากที่เก่า สิ่งของหลายอย่างถูกย้ายมาอย่างทะนุถนอมเพื่อคงสภาพบรรยากาศดั้งเดิม ทั้งประตูซุ้มไม้ต้อนรับหน้าร้าน ผนังกระจกแทรกทองคำแผ่นกว้างจากญี่ปุ่นในห้องส่วนตัว หรือโครงสร้างไม้อื่นๆ บางชิ้นมีอายุถึง 40 ปี แต่ยังดูใหม่เหมือนผ่านกาลเวลามาไม่นาน ทำให้เห็นถึงการดูแลควบคุมมาตรฐานของร้านที่ขวบปีแรกดีอย่างไรตอนนี้ก็ยังดีไม่เปลี่ยน

หลังเปิดประตูเข้าไปสิ่งแรกที่เห็นคือ “ท่านโชกุน” ที่ทางร้านเคารพนับถือมายาวนาน พร้อมทั้งตราประจำตระกูลโชกุนที่เรียกว่า “โตกุกาว่า (Tokugawa)” ประดับตกแต่งทั่วร้าน ภายในแบ่งโซนที่นั่งหลากหลาย ทั้งโซนบริการด้านหน้าของร้าน ถัดมาทางขวาเป็นห้องกึ่งไพรเวทที่กั้นด้วยผนังกระจกใส เดินเข้าไปด้านในจะพบห้องบอลรูมสำหรับจัดเลี้ยง ประชุมสัมมนา (จองล่วงหน้า) ด้านข้างจะเป็นห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นโบราณแบบมีเก้าอี้นั่ง รับรองผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกนั่งพื้นราบบนเสื่อทาทามิ และด้านในสุดเป็นห้องส่วนตัวแบบนั่งเสื่อสไตล์ญี่ปุ่นทั้งห้องเล็กและห้องใหญ่

เข้ามาในร้านจะพบกับ “ท่านโชกุน” ที่ทางร้านเคารพนับถือมายาวนาน

ห้องส่วนตัวแบบนั่งเสื่อสไตล์ญี่ปุ่น

ในโซนด้านหน้ายังมี ซูชิบาร์ขนาดใหญ่ที่ใช้ไม้ Hinoki 2 ท่อน ไม้สดหายากส่งกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ทั้งจะได้พบกับ เชฟอิไมซัง-เชฟผู้บุกเบิกร้านตั้งแต่ปีแรก คอยต้อนรับเป็นอย่างดีอีกด้วย ในโซนซ้ายของร้านจะเป็นโซนบาร์สำหรับนั่งดื่ม นั่งผ่อนคลาย พร้อมเครื่องดื่มที่หายากที่หาได้แค่ที่นี่เท่านั้น ถัดเข้าไปด้านในจะพบกับห้องเทปปันยากิบรรยากาศหรูหรา ตกแต่งด้วยโต๊ะหินสีเข้ม ปล่องควันทำจากทองแดงอย่างดี บรรยากาศคล้ายในปราสาทโชกุน โซนสุดท้ายเป็นโซนคาเฟ่ กลิ่นอายญี่ปุ่นสำหรับนั่งเล่น โดยมีเคาน์เตอร์บริการตัวเองอยู่ด้านหน้า ทั้งยังมีอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างโอชาสุเกะพร้อมเสิร์ฟอีกด้วย

ซูชิบาร์ขนาดใหญ่

เชฟอิไมซัง-เชฟผู้บุกเบิกร้านตั้งแต่ปีแรก

ห้องเทปปันยากิบรรยากาศหรูหรา

โซนคาเฟ่ สไตล์ญี่ปุ่น ผ่อนคลายสบายตากับอาหารญี่ปุ่น

เปิดเมนูดูในส่วนของอาหารญี่ปุ่นกันบ้าง เมนูแรกที่อยากแนะนำคือ สลัดโชกุน เต็มอิ่มกับผักสดนานาชิดทั้ง สาหร่าย แครอท ปูอัด กุ้ง และน้ำสลัดงาสูตรพิเศษของร้านที่รสชาติกลมกล่อมเอามากๆ

สลัดโชกุน (260 บาท)

ต่อกับอีกหนึ่งเมนูสุดพิเศษ Doban Yaki เนื้อโอมิส่วนสันใน เสิร์ฟมาบนกระทะร้อนคล้ายยากินิกุที่ลูกค้าสามารถปิ้งย่างเองได้ตามชอบ พร้อมน้ำจิ้ม 2 ช่องแบบเค็มที่เคี่ยวจากสาหร่ายจนได้รสชาติที่กลมกล่อมและแบบเปรี้ยวที่ผสมไชเท้าบดและพอนสึ จานต่อไปขอแนะนำ ข้าวหน้าปลาไหล ปลาไหลชิ้นโตเนื้อนุ่ม พร้อมราดซอสหวานรสกลมกล่อม เสิร์ฟมาในกล่องสีดำหรูหรา อาหารญี่ปุ่นเมนูนี้ยังไงก็ต้องลอง!

Doban Yaki (ราคาเริ่มต้น 680 บาท)

ข้าวหน้าปลาไหล (950 บาท)

ปิดท้ายกับของหวานสุดฮิตของร้านอย่าง Warabi Mochi Kakigori  น้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่นสุดอร่อยที่มีทั้ง แป้งญี่ปุ่นวาราบิ  น้ำตาลคาราเมลแบบญี่ปุ่นก่อนโรยด้วยผงถั่วคินาโกะ ปิดท้ายด้วยของหวานทั้งอร่อยทั้งสดชื่น เมนู Kakigori ของที่นี่ยังมีอีกหลายรสชาติทั้งถั่วแดง มะม่วง บ๊วยญี่ปุ่น และเมลอนญี่ปุ่น

Warabi Mochi Kakigori (165 บาท)

ชวนทุกคนมาลองสัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นในภัตตาคาร อาหารญี่ปุ่น ร้านแรกๆ ของไทย รับรองเลยว่านอกจากจะได้ลิ้มรสอาหารรสชาติดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นแล้ว  ยังได้รับการบริการและความใส่ใจอย่างดีเลิศของพนักงานที่รับรองว่าไม่สามารถหาได้จากร้านไหนแน่นอน