จ.-อา. 11:00-21:00 น.
Tohkai Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อคุ้นหูที่มีสาขากว่า 10 สาขา กระจายความอร่อยไปทั่วสารทิศให้ผู้คนที่รักในอาหารญี่ปุ่นลิ้มลองรสชาติและวัตถุดิบที่มีคุณภาพมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันร้านนี้มีให้บริการ 2 รูปแบบ ทั้ง แบบอาหารญี่ปุ่น และ แบบปิ้งย่าง ซึ่งวันนี้เราจะชวนทุกคนมาชิมรสชาติญี่ปุ่นแท้ของอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ ที่บอกเลยว่าเมนูที่เรายกมาแนะนำนี้ไม่สั่งไม่ได้จริงๆ
แต่กว่าจะมาเป็น Tohkai ในปัจจุบัน คงต้องย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีก่อน เริ่มด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นร้านเล็กๆ ในย่านสุขุมวิท ชื่อว่าร้าน Hanagasa ก่อตั้งโดยคุณ Sakuo Shibata และคุณ Mika เจ้าของร้านที่ตั้งใจเฟ้นหาวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อมาทำอาหารที่ร้าน ค่อยๆ เริ่มเป็นคนนำเข้าวัตถุดิบเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จนประสบความสำเร็จในธุรกิจนำเข้าและต้องปิดร้านอาหารเพื่อหันมาทุ่มเทกับธุรกิจนำเข้าอย่างจริงจัง ระหว่างที่ร้านอาหารปิดไปมีเสียงเรียกร้องจากลูกค้าหลายคนเสียงว่าอยากให้กลับมาเปิด เจ้าของร้านตัดสินใจกลับเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นอีกครั้ง กลับมาครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเพราะมีวัตถุดิบนำเข้าสดๆ อยู่ในมืออยู่แล้ว จึงการันตีความสดของแต่ละเมนูได้เป็นอย่างดี นี่คือจุดเริ่มต้นของทุกสาขาในปัจจุบัน ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าวัตถุดิบที่ร้านนี้นำมาใช้คือรวมความสดใหม่แน่นอน
สาขาที่เราอยากชวนทุกคนมาในวันนี้ มีพื้นที่กว้างขวาง มีโต๊ะเดี่ยวกระจายอยู่อย่างหลวมๆ และมีห้องส่วนตัวให้บริการ 1 ห้อง เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นไม้สีน้ำตาลอ่อนดูสบายตาเมื่ออยู่กับผนังร้านสีเขียวสลับสีขาว ให้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง เหมาะสำหรับมารับประทานกันทั้งครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือจะมารับประทานคนเดียวก็ย่อมได้
ในส่วนของเมนูอาหารนั้น หลากหลายละลานตากว่า 100 เมนู จัดเต็มทั้งซูชิ ซาชิมิ เทปปันยากิ ราเมน สลัด ข้าว เมนูกินเล่น เมนูทอด ย่าง และปิดท้ายด้วยของหวานอีกมากมาย ในทุกเมนูเชฟจะปรุงเสิร์ฟที่ต่อที่ตามลูกค้าสั่งจึงการันตีความสดใหม่และอร่อยได้ทุกจาน
ความสบายใจที่ได้รับนอกจากบรรดาอาหารที่หลากหลาย คือการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นได้โดยไม่ต้องยกมือเรียกพนักงาน หลังจากเราได้โต๊ะเรียบร้อยพนักงานจะนำกระดาษ QR CODE ของโต๊ะเรามาให้สแกน เราสามารถใช้โทรศัพท์สแกนและเข้าแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารได้เลย นอกจากจะกดสั่งได้เองทันทีแล้วยังสามารถพิมพ์ความต้องการของเราเพิ่มเติมลงไปในเมนูได้ด้วย เช่น ไม่ใส่ผักโรยหรือเผ็ดน้อย เป็นต้น ทำให้การสื่อสารระหว่างเรากับร้านชัดเจนเข้าใจกันง่ายขึ้น ประหยัดเวลาและสะดวกรวดเร็วมากนี่คืออีกสิ่งที่เราประทับใจ ว่าแล้วก็กดสั่งอาหารกันเลย
ราคาบุฟเฟ่ต์ของที่นี่คือ 489 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม) อร่อยได้นาน 1 ชั่วโมง 30 นาที เรากดสั่งอาหารผ่านแอปฯ ไปไม่นานนักเมนูแรกก็ส่งตรงมาถึงโต๊ะกับ Sashimi Moriawase เสิร์ฟมาใหญ่โตทั้งแซลมอน ทูน่า ไข่หวาน ซาบะดอง และยำสาหร่าย ซาชิมิที่เสิร์ฟมามีความสด เนื้อเด้ง ไร้กลิ่นคาวมากวนใจ เมนูนี้คีบแย่งกันคีบได้สนุก ต่อกับเมนู Oboro Salmon Don ข้าวหน้าโอโบโร่แซลมอนที่มาทั้งแซลมอนสดๆ ตกแต่งเป็นดอกไม้ด้านบนและเนื้อปลาแซลมอนที่นำมายีจนขึ้นฟูด้วยไอน้ำตามสูตรดั้งเดิมของญี่ปุ่นจึงได้ความนุ่มละมุนลิ้น ก่อนจะวางไข่หวานทรงลูกเต๋า เพิ่มความกรุบด้วยไข่กุ้ง และราดมายองเนสปิดท้าย ให้รสสัมผัสหลากมิติเข้ากันดีมากๆ
สาวกแซลมอนอย่างเรายังไม่มูฟออนจากเจ้าปลาสีส้มนี้ไปง่ายๆ เราสั่ง Salmon Salad ยำแซลมอนรสชาติแบบไทยด้วยน้ำยำรสจัดได้ความหอมและเผ็ดจากพริกขี้หนู ปรุงด้วยน้ำมะนาวสดๆ เพิ่มความเปรี้ยวที่ปลายลิ้น เป็นเมนูที่คลุกเคล้าความจัดจ้านได้สะใจ ต่อกับ Seafood Salad อีกหนึ่งเมนูสลัดที่รวมความสดของปลาดิบและผักได้เป็นอย่างดี กินคู่กับน้ำสลัดสูตรของร้านเข้ากันมากๆ
เมนูทยอยออกมาเรื่อยๆ ไม่นานก็ถึงตาของซูชิโรลอย่าง Aburi Mono Akami Roll โรลปลาทูน่าเบิร์นไฟชิ้นโตที่สอดไส้ไข่หวาน ปูอัด และแตงกวา ท็อปด้วยทูน่าเบิร์นไฟสีสวย ไข่กุ้ง และราดด้วยซอสสไปซี่สูตรของทางร้าน มาพร้อมกับ California Maki Roll แคลิฟอร์เนียมากิโรล โรลที่เราคุ้นเคย เสิร์ฟมาชิ้นใหญ่มากแต่นักกินบุฟเฟ่ต์มืออาชีพอย่างเรามีหรือจะหวั่น แย่งกันคีบพักเดียวเมนูนี้ก็กลายเป็นจานเปล่าไปอย่างรวดเร็ว
ยังไม่หมดเท่านี้เรายังมี Ebi Steak สเต็กกุ้งตัวโตที่ผ่านการปรุงรสมาอย่างดี เสิร์ฟมาร้อนๆ ควันฉุย กินคู่กับน้ำจิ้มสเต็กสูตรเด็ดอร่อยอย่าบอกใคร แวะมาที่อาหารทะเลอีกสักนิดกับ Mussel Shell หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบกระเทียม เมื่อคีบเข้าปากจะได้สัมผัสหอมเนยและกระเทียมอบอวล ต่อกับสเต็กจานฮิตอีกสักจานที่ร้านแนะนำนั่นคือ Buta Steak สเต็กหมูเนื้อนุ่นที่ผ่านการผัดและปรุงรสมาอย่างดี ด้วยน้ำซอสรสชาติลงตัวและความเหนียมนุ่มของเนื้อหมูทำให้หลายคนติดใจจานนี้กันยกใหญ่
อีกหนึ่งเมนูที่มาร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วต้องสั่งคือ Salmon Kabutoni หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว ที่มาทั้งหัวปลาขนาดใหญ่และมีท้องปลาแซลมอนแทรกมาด้วย ปิดท้ายอาหารคาวด้วยเมนูกินเล่นอย่าง Tako Yaki ทาโกยากิลูกโต ด้านในอัดแน่นด้วยปลาหมึกกรุบกรอบ เคี้ยวกันแก้มตุ่ยเลยล่ะ กินคาวเสร็จก็ต้องกินหวาน เราเลยสั่ง Kori Ichigo น้ำแข็งใสน้ำแดง, Pudding Jelly พุดดิ้งเยลลี่, Jelly Strawberry เยลลี่สตรอว์เบอร์รี, Ice Cream (Chocolat) ไอศกรีมรสช็อกโกแลต และ Ice Cream (Green Tea) ไอศกรีมรสชาเขียว มาลองชิม เรียกว่าจบมื้อได้สวยงามมากจริงๆ
หากใครกำลังมองหาร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นราคาน่าคบ มีเมนูให้เลือกกว่า 100 เมนู นั่งรับประทานในบรรยากาศเป็นกันเอง เราว่า Tohkai Japanese Restaurant (โตไก) น่าจะตอบโจทย์ได้ไม่ยาก หากในไลน์บริการรูปแบบอาหารญี่ปุ่นมีทั้งหมด 6 สาขา ทั่วประเทศเข้าไปตามได้ในเพจของร้านได้เลย!