• Bookmark
  • Share

Omotesando Koffee Thailand (โอโมเตะซันโด คอฟฟี่ ไทยแลนด์)

  • Bookmark
  • Share
  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 500 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = น้อย
    เนื้อวัว = น้อย
    ผัก = น้อย
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    น้อย
  • Special
    Special

ร้านกาแฟสัญชาติญี่ปุ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปเสียทุกอย่าง ตั้งแต่รสชาติของกาแฟ การตกแต่งร้านสไตล์มินิมัลที่โดดเด่นด้วยโครงเหล็กทรงลูกบาศก์ ไปจนถึงการที่ให้บาริสต้าสวมชุดกราวน์เพื่อเป็นดั่งผู้เชี่ยวชาญในการชงกาแฟ 

เดิมทีร้านสาขาแรกเปิดอย่างเรียบง่ายในบ้านไม้หลังเล็กๆ บนถนนโอโมเตะซานโดะ ณ กรุงโตเกียว ในซอกซอยที่ไม่ใช่แหล่งช็อปปิ้งคนจึงไม่พลุกพล่านเท่าไหร่นัก ภายในร้านมีเพียงเคาน์เตอร์บาร์กาแฟพร้อมโครงเหล็กทรงลูกบาศก์และเก้าอี้เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น แต่ด้วยความพิถีพิถันในการบรรจงทำกาแฟแต่ละแก้วบวกกับความโดดเด่นของรสชาติ ทำให้ร้านนี้เป็นที่ชื่นชอบต่อคนในละแวกนั้น แม้กระทั่งนักท่องเที่ยวที่ต่างก็หลั่งไหลกันเข้ามาที่ร้านจากการบอกปากต่อปาก แต่ไม่นานสาขานั้นก็ได้ปิดตัวลงเนื่องจากสภาพบ้านที่ทรุดโทรมลงไป

จนกระทั่งได้เปิดสาขาใหม่คือ Koffee Mameya  และ Toranomon Koffee ซึ่งทั้งสองสาขาก็ยังคงคอนเซ็ปต์ในความมินิมัลและความเป็นกาแฟคุณภาพเอาไว้ได้เป็นอย่างดี และได้มีการขยายสาขาไปยังต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง สิงค์โปร์ ลอนดอน และไทย 

ทุกๆ เช้าบาริสต้าจะต้องเช็คคุณภาพของกาแฟก่อนเปิดร้านเสมอ เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำกาแฟ โดยใช้เมล็ดกาแฟจาก Ogawa Coffee Roaster โรงคั่วเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ที่คั่วแบบ Medium-Dark โดยใช้วิธี House Blend คือการผสมผสานเมล็ดกาแฟพันธุ์ดีจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก อาทิ เอลซาวาดอ บราซิล อินโด และเอธิโอเปีย  เป็นต้น ซึ่งเมนูจะมีให้เลือกตั้งแต่เมนูร้อน เมนูเย็น เมนู Cold Brew ไปจนถึงเมนู Hand Driped และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟแบบ Single Origin ทางร้านก็มีให้เลือกเช่นกัน ซึ่งเมล็ดกาแฟจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปในทุกๆ ซีซั่น  

เอกลักษณ์เฉพาะของกาแฟร้านนี้คือความนุ่มของกาแฟที่เกิดจากการบาลานซ์กันระหว่างกาแฟกับส่วนผสม เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกไม่ขมมากแต่ละมุนลิ้น มีหลากหลายมิติในเมนูเดียว เหมาะจะค่อยๆ จิบเพื่อสัมผัสในแต่ละมิติอย่างละเมียดละไม แล้วหลังจากนั้นจะตามด้วย After Taste ที่ดี เหมาะกับคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟที่ขมจนเกินไป ที่สำคัญมีส่วนผสมของคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟปกติ จึงสามารถดื่มได้ทุกเวลา ตามสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของร้านนี้คือ เมนูเย็นจะไม่มีนำแข็งให้เคี้ยวเล่นนะ เพราะเค้าปั่นรวมกันมาแล้ว ซึ่งจะมีความเย็นในระดับที่พอดีและไม่ทำให้กาแฟจืดจางจากการละลายของน้ำแข็งอีกด้วย

Iced cappuccino (155 บาท)

เมนู Signature ของร้าน ที่ใช้เทคนิคพิเศษ คือการนำกาแฟและนมมาปั่นรวมกันทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เป็นฟองผุดขึ้นด้านบน โรยด้วยผงโกโก้เข้มข้น

Cafe Mocha (165 บาท)

เมนูมอคค่าร้อน ที่มีส่วนผสมของกาแฟ นม และช็อคโกแลต ท็อปด้วยวิปครีม ซึ่งตัววิปครีม เมื่อจิบเข้าไปพร้อมกับกาแฟ จะช่วยทำให้รสชาติของกาแฟเนียนนุ่มยิ่งขึ้น

Iced Matcha Cappuccino (170 บาท)

สำหรับคนที่ไม่ถนัดดื่มกาแฟ เราขอแนะนำเมนูมัทฉะ คาปูชิโน่ เมนูนี้ใช้ผงมัทฉะเข้มข้น จากเมืองอูจิ โดยเลือกใช้เกรด Excellent ที่ถือเป็นมัทฉะคุณภาพดีที่สุดและมีความเข้มข้นเป็นพิเศษ

Kashi Custard Cake 45 บาท

เป็นขนมเพียงเมนูเดียว มีลักษณะคล้ายกับขนม คานาเล่ ( Canelé ) ที่มีความเหนียวหนึบด้านนอก ด้านในสอดไส้คัสตาร์สเข้มข้น รสชาติหวานพอดี กินคู่กับกาแฟได้โดยไม่ทำให้กาแฟเสียรสชาติ

Map

Tags