Ogu Ogu (ปิดกิจการ)

เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นโมเดิร์นในบรรยากาศโบทานิก ลอฟท์

Ogu Ogu ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ร่วมสมัยตั้งอยู่ในอาคาร Park Ventures Ecoplex บนถนนวิทยุ พร้อมเสิร์ฟเมนูญี่ปุ่นโมเดิร์นร่วม 100 รายการ ท่ามกลางบรรยากาศชิลล์ๆ ในแบบ Botanic Loft

มาดสาเกบาร์กลมกล่อมด้วยบรรยากาศร้านสไตล์ Botanic Loft คือคำจำกัดความมู้ดแอนด์โทนของ “โอกุ โอกุ” ได้อย่างชัดเจนที่สุด ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้แม้จะตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ (แถมเดินเชื่อมจากรถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิตก็ยังได้) แต่เมื่อได้ก้าวเท้าเข้ามาภายในร้านแล้ว ย่านที่เคยพลุกพล่านวุ่นวายก็พลันผ่อนคลาย ซึ่งเหมาะมากๆ กับคนที่กำลังหาร้านบรรยากาศดีงามไว้สำหรับนัดสำคัญๆ

บรรยากาศภายในร้านที่โอกุ โอกุ

ตัวร้านกว้างขวางทั้งจัดสรรพื้นที่เป็นสัดเป็นส่วน แม้โต๊ะรับรองจะไม่มีฉากกั้นเพื่อหมายความถึงความเป็นส่วนตัว แต่ด้วยการจัดวาง เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงระยะห่าง ก็ทำให้เราสัมผัสถึงความเป็นส่วนตัวได้ไม่ยาก หนำซ้ำยังอยากจะนั่งชิลล์ไปนานๆ อีกด้วย

ตัวร้านค่อนข้างกว้างขวาง มีหลายมุมให้เลือกสรร

ใครที่ยกโขยงกันมาเป็นกลุ่ม ทางร้านก็มีโต๊ะยาวให้บริการ

ว่ากันด้วยเรื่องเมนูก็ครบถ้วนตามหมวดของอาหารญี่ปุ่นทั้งครัวเย็นและครัวร้อน ไม่ว่าจะเป็นรายการซาชิมิที่หลายคนชื่นชอบก็ต้องขอบอกว่าที่นี่ก็มีให้เลือกอยู่หลายเซ็ตหลากราคาเหมือนกัน อย่าง Sashimi Royale ที่เราได้พิสูจน์ความสดหวานในคราวนี้กับซาชิมิ 6 อย่าง ได้แก่ มากุโร่ส่วนอากามิ, แซลมอน, ฮามาจิ, อามาเอบิ, โฮตาเตะ และปลาไท โดยที่ร้านจะเสิร์ฟมาในชิ้นพอดีคำไม่ใหญ่ไป เหตุผลก็เพราะลูกค้าจะได้ลิ้มลองความอร่อยได้อย่างเต็มๆ คำ

Sashimi Royale (1,650 บาท)

ถัดมาคือซูชิโรลหน้าล้น Volcano Roll ท็อปหน้าด้วยแซลมอนและมากุโร่ส่วนอากามิหั่นเต๋าคลุกเคล้ากับซอสสไปซี่ ซ้ำภายในโรลเชฟยังได้ม้วนข้าวซูชิรสกลมกล่อมเข้ากับปูอัดและอะโวคาโด เป็นคอมบิเนชั่นที่คนรักโรลไม่ควรพลาด

Volcano Roll (450 บาท)

บรรดาเมนูดงบุริของที่นี่ก็หน้าตาน่ารับประทาน เช่น Wagyu Steak Don ข้าวหน้าสเต็กเนื้อออสเตรเลียส่วนสันนอกกริลล์มาแบบมีเดียม (ที่ถ้าไม่ชอบก็สามารถรีเควสระดับความสุกได้เลยตามสบาย) เสิร์ฟพร้อมซุปมิโซะร้อนๆ และซอสสูตรเฉพาะมอบรสชาติเปรี้ยวอมหวาน 

Wagyu Steak Don (455 บาท จากราคาปกติ 650 บาท)

หรือถ้าใครอยากกินข้าวหน้าปลาไหล Unadon คือชามที่ใช่แน่นอนรับประกัน ปลาไหลน้ำจืดย่างมาหอมๆ เคลือบเงาด้วยซอสรสชาติเค็มหวาน ท็อปมาบนข้าวเมล็ดสั้นพันธุ์ซาซานิชิกิมาไกลจากจังหวัดมิยากิ  กับซุปมิโซะที่ทางร้านอยากให้ซดร้อนๆ คั่นรายการนัยว่ามันสามารถช่วยจัดการกับข้าวหน้าปลาไหลตรงหน้าได้อย่างคล่องคอขึ้น

Unadon (528 บาท จากราคาปกติ 880 บาท)

ส่วน Tempura Don ก็จัดมาแบบพูนชาม จุมาตั้งแต่มะเขือม่วง เห็ดออรินจิ ฟักทอง หน่อไม้ฝรั่ง ใบโอบะ กุ้ง อีกทั้งก้ามปู ทั้งหมดถูกชุบด้วยแป้งเทมปุระลงทอดในน้ำมันร้อน 180-190 องศาจนกว่าจะสีเหลืองสวยน่ารับประทานถึงเอาขึ้นเสิร์ฟ

Tempura Don (320 บาท จากราคาปกติ 400 บาท)

นอกจากรายการอาหารที่คิจิแนะนำ ทางร้านยังมีเมนูญี่ปุ่นให้เลือกสั่งอีกกว่า 100 รายการ ยังไม่นับรวมเครื่องดื่มแนวต่างๆ ที่บาร์เทนเดอร์ประจำร้านนั้นได้สร้างสรรค์ออกมาเป็นพิเศษ