• Bookmark
  • Share

Nikutei Arata (นิคุเตอิ อะระตะ)

  • Bookmark
  • Share
  • 095-403-1593, 02-204-2474
  • 99/9 อาคารซิตี้รีสอร์ท ซ.สุขุมวิท 39 ถ.สุขุมวิท
  • คลิกแผนที่
  • จ.-ศ. 17:00-23:00 น., ส.-อา. 11:30-15:00, 17:00-23:00 น. (Omakase 18:00, 20:00 น.)

  • Nikutei Arata
  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 1,000 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = ปานกลาง
    เนื้อวัว = มาก
    ผัก = ปานกลาง
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    เกือบทั้งหมด
  • Special
    Special
    มีเชฟญี่ปุ่น
    มีห้องส่วนตัว
    มีสาเกมากกว่า 10 ชนิด
    มีโชจูมากกว่า 10 ชนิด

ไม่ต้องไปถึงเซนไดมาที่นี่ก็มีวากิวชั้นยอดให้กิน

หลายคนกินเนื้อคาโกชิม่าเนื้อโกเบมาก็บ่อย ไฉนเลยจะไม่อยากลองเนื้อใหม่ๆ เปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง อย่างเนื้อเซนไดเกรด A5 แห่งจังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น ที่จะเข้ามาเติมความสุขให้ทะลุถึงเพดานขึ้นไปอีก 10 เลเวล

ซึ่งการที่คุณจะได้กินเนื้อเซนได Marbling Score ระดับสูงสุดในราคาที่เป็นมิตรกว่าชาวบ้าน ต้องมาที่ Nikutei Arata ร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่ในซอยสุขุมวิท 39 ที่แม้จะเปิดให้บริการมาไม่นาน แต่ด้วยคุณภาพวัตถุดิบที่คัดสรรมาจากฟาร์มโดยตรง ทั้งยังโฟกัสไปที่เนื้อเซนไดแต่เพียงชนิดเดียว ทำให้ใครต่อใครต่างถูกใจจนขอผูกปิ่นโตเป็นขาประจำ

ตัวร้านให้บรรยากาศในแบบญี่ปุ่นร่วมสมัยทว่าได้รวมไว้ซึ่งหลายมู้ดในที่เดียว เช่นมุม Chef’s Table ที่ลูกค้าสามารถชมฝีมือการปรุงอาหารของเชฟได้อย่างใกล้ชิด ข้างๆ กันคือโซนที่นั่งสำหรับ 2-4 ท่านมีฉากหลังเป็นศิลปะบนผนังให้หวนนึกถึงแดนอาทิตย์อุทัยระหว่างดื่มด่ำกับอาหาร อีกทั้งด้านหลังยังมีบริเวณให้นั่งแบบหย่อนขาขนาบข้างด้วยตู้ปลายาวกว่า 4.3 เมตร ไปจนถึงห้องส่วนตัวเหมือนอยู่ในท่ามกลางอควาเรียมสักแห่งที่ประเทศญี่ปุ่น

เคาน์เตอร์บาร์รูปตัวแอลที่คุณสามารถชมลีลาของเชฟได้อย่างใกล้ชิด

สำหรับท่านใดที่มากับครอบครัวที่นั่งมุมนี้ก็เหมาะอยู่นะ

หรือจะเลือกนั่งแบบหย่อนขาท่ามกลางบรรยากาศอควาเรียม

มากันเป็นหมู่คณะต้องห้อง VIP นี่เลย แถมยังจุดได้เต็มที่กว่า 20 คนเลยนะ

แต่ก่อนจะไปฟินกับเนื้อเซนไดกันแบบเต็มคราบ คิจิอยากให้ชิมนานาเมนูแอพพิไทเซอร์ของร้านเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อน โดยขอไล่เรียงจากซ้ายไปขวา เริ่มจาก Tara Chanja ไส้ปลาทาระหมักซอสรสชาติออกเผ็ดนิดๆ Uma Suisho กระดูกอ่อนปลาฉลามหมักบ๊วยสัมผัสกรุบอมเปรี้ยวเคี้ยวสนุก และเนื้อเซนไดสับผัดกับมิโซะพลางหอมกลิ่นส้มยูซุที่เหมาะจะกินคู่กับแตงกวาฝานบางเป็นที่สุด   

Tara Chanja (120 บาท), Uma Suisho (150 บาท) *ราคานี้สำหรับขนาดปกติ       

ด้านเมนูคั่นรายการก็พูดได้อย่างเต็มปากว่าที่นี่เขาปรุงแบบโฮมเมด อย่าง Goma Tofu เต้าหู้งาเนื้อเนียนในซอสโชยุปรุงใหม่สไตล์ Nikutei Arata ที่ใครไม่คุ้นกับงาก็สามารถเอนจอยไปกับเมนูนี้ได้แบบสบายมาก กับอีกเมนู Wagyu Reisyabu Salad ผักกรอบๆ ตามฤดูกาลโปะหน้าด้วยเนื้อเซอร์ลอยน์เซนไดส่วนหลังสไลซ์พร้อมกับรากบัวและโกโบทอดกรอบ ยิ่งเมื่อได้ราดน้ำสลัดงาข้นๆ ฝีมือเชฟให้ชุ่มนะ ฟินลื้มมม

Goma Tofu (150 บาท)

Wagyu Reisyabu Salad (250 บาท)

และด้วยความที่ Nikutei Arata เขาจริงจังเรื่องเนื้อโดยเน้นไปที่เซนไดกิวของจังหวัดมิยางิ เมนูส่วนใหญ่ของที่นี่เมนอินกรีเดียนท์จึงหนีไม่พ้นเนื้อ เนื้อ เนื้อ แล้วก็เนื้อ ไม่ว่าจะนิกิริเซนไดกิวส่วนท้อง Ootoro Wagyu Nigiri  ที่เชฟแต้มวาซาบิมาให้พร้อม สะดวกคนกินอย่างเราไม่ต้องไปผสมวาซาบิกับโชยุให้ยุ่งยาก ต่อด้วยอีกคำกับ Wagyu Zuke Nigiri ซูชิหน้าเนื้อเซนไดส่วนสะโพกหมักซอสซึเกะสูตรของทางร้าน และอยากจะบอกว่าข้าวซูชิเชฟก็ปรุงมาให้ได้รสเหมาะกับเนื้อระดับ A5 โดยเฉพาะด้วยนะ

(หน้า) Ootoro Wagyu Nigiri (150 บาท/คำ) (หลัง) Wagyu Zuke Nigiri (130 บาท/คำ)

ถ้าจะให้มื้อนี้ครบถ้วนก็ต้องหาอะไรร้อนๆ มาซดให้คล่องคอกันสักหน่อย เอาที่คิจิว่าน่าประทับใจจนอยากแนะนำเลยก็ Sendai Beef Set ชุดชาบูชาบูเนื้อวากิวเซนไดที่เสิร์ฟมาให้แบบจัดเต็มตั้งแต่เนื้อเซนไดส่วนสันใน, ผักนานาชนิด, เต้าหู้ และน้ำจิ้มชาบูชาบูทั้งสองรส แถมทางร้านยังเพิ่มออฟชั่นเสริมให้สนุกขึ้นด้วยหม้อชาบูชาบูหลายขนาดให้เลือกจุ่ม ตอบโจทย์ลูกค้าตั้งแต่มาคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่มก็ไม่มีปัญหา

Sendai Beef Set (480 บาท)

ของกรอบของทอดก็ไม่อยากให้ขาด คิจิเลยจัด Wagyu Rosu Katsu มาบอกต่ออีกจาน ซึ่งทางร้านก็ทำได้ดีตั้งแต่เกล็ดขนมปังบางกรอบ เซนไดกิวสันนอกที่ก็ทอดมาในระดับมีเดียมแรร์น่าจิ้มเข้าปาก และที่สำคัญที่สุดคือไม่มีชิ้นไหนอมน้ำมันให้เสียเกียรติของความเป็นของทอด

Wagyu Rosu Katsu (480 บาท)

พาร์ทของสเต็กนี่ก็อร่อยฟินไปถึงดาวอังคาร ซึ่งเชฟเล่าให้คิจิฟังว่านอกจากคุณภาพของเนื้อ สำหรับเตาย่างเองก็จำเป็นต้องวอร์มให้ร้อนในระยะ 150 องศาเซลเซียสถึงจะสามารถนำเนื้อลงไปดาดกับเตาหินภูเขาไฟได้ แน่นอนว่าเมนู Sirloin Steak ก็ใช้วิธีที่กล่าวมาข้างต้นเช่นกัน อ้อ! เชฟยังแนะนำอีกว่าถ้าอยากจะลิ้มรสเนื้ออย่างแท้จริง ต้องกินคู่กับกลือหิมาลายันสีชมพูและน้ำมะนาว ถึงจะเป๊ะปังที่สุด

มันที่แทรกมาอย่างสวยงามของเนื้อเซนไดส่วนสันนอก

Sirloin Steak (550 บาท)

ปิดท้ายด้วยจานที่จะทำให้คุณอิ่มท้องแบบยาวๆ กับข้าวราดแกงกะหรี่เนื้อเซนได Tokusei Beef Curry แม้ตัวแกงกะหรี่จะมีเทกซ์เจอร์ที่ค่อนไปทางซุป ผิดกับรสชาติที่เข้มข้นเครื่องแกงกะหรี่สุดๆ ข้าน้อยขอยกนิ้วให้เลย

Tokusei Beef Curry (330 บาท)

Map