ศูนย์รวมอาหารท้องถิ่นจากเมืองนางาซากิ

เมืองนางาซากิเป็นเมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่นมาตั้งแต่อดีตเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว ทำให้มีชาวต่างชาติจากทั่วโลกเข้ามาเยือนและส่งอิทธิพลต่ออาหารของชาวญี่ปุ่นที่นั่น กลายเป็นจุดเริ่มต้นของอาหารท้องถิ่นสไตล์นางาซากิมากมายหลายเมนูที่ร้าน Kinshiro แห่งนี้ได้รวบรวมไว้ในที่เดียว เช่น เนื้อวากิวนางาซากิ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากการบริโภคเนื้อวัวของชาวตะวันตก จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเนื้อวากิวชั้นดี ที่ร้านคัดเลือกเฉพาะเนื้อระดับ A4 มาทำเป็น Sirloin Steak หรือจะเป็นเมนู Aburi Sukiyaki (เนื้อสไลด์บางหมักด้วยซอสสุกี้ยากี้ที่นำไปย่างกับหินร้อนๆ แล้วชุบไข่พร้อมรับประทาน) ในกรุงเทพฯ มีร้านที่ใช้เนื้อวากิวนางาซากิของแท้เพียงไม่กี่ร้านเท่านั้น อีกเมนูหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือซูชิ Nagasaki San Shoku Inari วัตถุดิบจากนางาซากิ ใส่เครื่องในเต้าหู้ให้สีสันสวยงามน่ากิน และพิเศษสุดด้วย จัมปง เมนูเส้นของญี่ปุ่นที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวจีนในอดีตนั่นเอง

Champon เมนูเส้นในซุปกระดูกหมูจากนางาซากิ

จัมปง (Champon) ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง การผสมผสาน ซึ่งก็คือการผัดส่วนผสมทุกอย่างทั้งผักและเนื้อสัตว์รวม 13 ชนิดในกระทะแค่พอเกือบสุก นำไปต้มต่อในน้ำซุปทงโคะสึหรือน้ำซุปกระดูกหมูสีขาวนวลเพียงชั่วครู่ แล้วจึงลวกเส้นใส่ลงไป ได้รสชาติพอดิบพอดี ร้าน Kinshiro มีโรงงานทำเส้นจัมปงอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วย จึงสามารถนำเข้าเส้นมาได้โดยเฉพาะ เส้นของที่นี่เหนียวนุ่มกำลังดี หรือถ้าใครชอบความกรุบกรอบก็ต้องลอง Sara Udon อุด้งเส้นกรอบในน้ำซุปข้นเหนียว มีทั้งเส้นเล็กเส้นใหญ่ให้เลือก ตัวเส้นกรอบๆ ช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้น้ำซุปรสหวานๆ เค็มๆ ไม่เลี่ยนจนเกินไป แม้จะมาเสิร์ฟเป็นชามใหญ่ยักษ์ ก็ยังสามารถค่อยๆ เคี้ยวกรุบกรับได้จนหมด

[ล่าง] Mini Kakuni Manju (45 บาทต่อชิ้น) และ [บน] Hatoshi Roll (45 บาทต่อชิ้น)

ซาลาเปาไส้หมูตุ๋นเนื้อนุ่มหวานฉ่ำ เวลาเคี้ยวเนื้อหมูกับซาลาเปาเกือบจะเป็นเนื้อเดียวกัน กับกุ้งบดห่อด้วยขนมปังแล้วนำไปทอด อีกหนึ่งในอาหารท้องถิ่นของนางาซากิ

Grilled Romaine Lettuce with Miso (200 บาท)

ผักคอสย่างราดด้วยแอนโชวี่กับมิโซะ เป็นเมนูที่มีกลิ่นอายของอิตาลีและญี่ปุ่นรวมกัน สร้างความแตกต่างด้วยการนำผักคอสทั้งหัวมาย่าง ทำให้หน้าตาอาหารดูน่ากินและรสชาติกลมกล่อม ถือเป็นเมนูที่ขายดีของร้านนี้