• Bookmark
  • Share

Fatboy Sushi (แฟตบอย ซูชิ)

  • Bookmark
  • Share
  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 1,000 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = มาก
    เนื้อวัว = มาก
    ผัก = ปานกลาง
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    น้อย
  • Special
    Special
    มีสาเกมากกว่า 10 ชนิด
    มีโชจูมากกว่า 10 ชนิด

เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นสุดครีเอทีฟด้วยวัตถุดิบจากนานาชาติ

ในซอยยมราช ณ ย่านสีลมมีร้านอาหารญี่ปุ่นฝีมือเฉียบที่เปิดให้บริการมาแล้ว 4 ปี แถมมีขาประจำแวะเวียนมาหาอยู่เรื่อยๆ ซึ่งพอ KIJI ถามว่าเพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างหน้าเปื้อนยิ้มว่า “เวลาลูกค้ามาที่ร้านมักจะได้ชิมเมนูใหม่ๆ จากวัตถุดิบที่ไม่เคยลองเสมอ ซึ่งนี่คงเป็นเหตุผลสำคัญที่พวกเขามักจะกลับมาหาเราอยู่บ่อยๆ”

ด้วยคอนเซ็ปต์ของร้านที่เน้นเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นสไตล์โมเดิร์น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ Fatboy Sushi จะมีวัตถุดิบที่ค่อนข้างวาไรตี้ ไม่ว่าจะเป็นหมูอิเบอริโค (Iberico) จากสเปน, ฟัวกราส์, เห็ดทรัฟเฟิล, เนื้อลูกแกะ ไปจนถึงเนื้อดังรสชาติอร่อยของบ้านเราอย่างวากิวโคราช ในขณะเดียวกันทางร้านก็ให้ความสำคัญกับกรรมวิธีการปรุงอาหารในแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ดังจะเห็นว่าหน้าตาอาหารของที่ร้านซึ่งยังคงรักษากลิ่นอายของความเป็นแดนอาทิตย์อุทัยเอาไว้นั่นเอง

ขนาดของร้านแม้จะกะทัดรัดเพราะสามารถจุได้เพียง 20 ที่นั่ง ทว่าคุณภาพวัตถุดิบและความอร่อยนั้นระดับ 5 ดาวไปเลย

Hamachi Chilli Ponsu คือซิกเนเจอร์เมนูจานแรกที่เชฟเสิร์ฟมาให้เราได้ลองชิมกัน ในจานจะเห็นได้ว่าปลาฮามาจินั้นถูกแล่มาแบบไม่หนาไม่บางราดมาพร้อมกับซอสพอนสึ ก่อนจะท็อปด้วยกระเทียมฝนและพริกขี้หนู เมื่อกินเข้าไปจะได้รสชาติทั้งเปรี้ยว เค็ม หวาน แสมเผ็ดเล็กๆ พอเป็นกระษัย ช่วยเรียกน้ำย่อยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับจานต่อมาคือ Fat Bastard ซูชิหน้าล้นที่มีวากิวเป็นเมนอินกรีเดียนท์ เสริมทัพด้วยฟัวกราส์, คาเวียร์, เห็ดทรัฟเฟิล, ไข่นกกระทาออนเซ็น, อิคุระ, ไข่ปลาบิน อีกทั้งซอสปลาไหลที่ทางร้านลงมือเคี่ยวเอง เวลากัดเข้าไปเต็มๆ คำจะได้ทั้งความนุ่มฟินจากวากิวพร้อมๆ กับเทกซ์เจอร์กรุบกรอบเคี้ยวมัน ที่ทั้งหมดนวลละมุนเข้าด้วยกันด้วยไข่นกกระทาออนเซ็น

Hamachi Chilli Ponsu (350 บาท)

Fat Bastard (380 บาท)

มาถึงเซ็ตขายดีของทางร้านอย่าง Fatboy Special จานนี้คุณบายได้ผสมผสานซูชิในแบบดั้งเดิมและครีเอทีฟเมนูของร้านเข้าไว้ด้วยกัน ออกมาเป็น 8 คำ และแนะนำให้ลูกค้าค่อยๆ ลิ้มรสจากซ้ายไปขวา เริ่มจาก Hamaji เนื้อแน่นหวาน, Akami คำนี้พิเศษตรงที่ระหว่างกินจะสัมผัสถึงกลิ่นสดชื่นของส้มยูสุ, Salmon Saikyo แซลมอนที่เชฟเลือกส่วนท้องแล้วราดด้วยซอสมิโซะก่อนจะโปะหอมทอดญี่ปุ่น โทบิโกะ และต้นหอม, Prawn Star เป็นกุ้งหวานที่ผ่านการเบิร์นไฟและแต่งหน้าด้วยทรัฟเฟิลเพสต์ คาเวียร์ แล้วปิดท้ายเกลือหิมาลายันสีชมพู สำหรับคำนี้คุณบายแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องจิ้มซอส เพราะรสชาติเดี่ยวๆ ของเค้าก็ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว  ส่วนใครที่ชอบปลาไหลและฟัวกราส์ น่าจะปลื้มกับ Unagi Foie Gras เพราะเชฟได้เอาทั้งคู่มามิกซ์กันแล้วตัดรสชาติด้วยผิวเปลือกส้มยูสุ เอาเป็นว่าฟินแบบไม่รู้สึกถึงความเลี่ยนเลยล่ะ ต่อมาเป็น Engawa เอ็นงาวะชิ้นขาวหมดจดกริลล์ด้วยไฟให้ผิวขึ้นสีกินคู่กับโทบิโกะและต้นหอมซอย อารมณ์ที่ได้ก็เอนจอยไปอีกแบบ ส่วน Wagyu ที่สายกินเนื้อต่างอินเลิฟก็ถูกจัดมาไว้ในเซ็ตนี้เช่นเดียวกัน ก่อนจะจบที่เลเวลสุดท้ายของจานด้วย Ikura Truffle ที่ทางร้านได้เอาอิคุระไปหมักกับซอสสูตรเฉพาะเป็นเวลา 1 วัน ดังนั้นเวลากินจะไม่รู้สึกคาว ที่สำคัญคือเทกซ์เจอร์ของไข่ปลาแซลมอนนั้นจะเด้งสู้ลิ้นมาก อยากให้ลอง 

Fatboy Special (1,050 บาท)

ด้านเมนูทงคัตสึที่เราว่าน่าสนใจก็มี Pork Chop Katsu ที่มาในชิ้นใหญ่แชร์ได้หลายคน ทางร้านใช้เป็นเนื้อส่วนของโทมาฮอว์ค ดังนั้นเลยจะมีหลายอารมณ์ในชิ้นเดียว ไม่ว่าจะเป็นหมูติดมัน ไม่มีมันแทรก ไปจนถึงส่วนเนื้อติดกระดูกแทะมันส์ เสิร์ฟมาพร้อมมะเขือเทศซัลซ่า เฟรนซ์มัสตาร์ด และซอสทงคัตสึที่มักจะนำมากินคู่กัน

Pork Chop Katsu (500 บาท)

Map