11:00-21:00 น.
เพราะร้านอาหารญี่ปุ่นแบบฮาลาลแท้ๆ ในกรุงเทพฯ มีไม่มากนัก Origami Japanese Restaurant (โอริกามิ เจแปนนิส เรสเตอรองท์) เลยเป็นพื้นที่แห่งความสบายใจสำหรับชาวมุสลิมที่ชื่นชอบการกินอาหารญี่ปุ่น ซึ่งทางร้านจริงจังแม้กระทั่งเสาะหาวัตถุดิบจากหลายๆ ประเทศ คัดสรร อีกทั้งเลือกใช้ส่วนผสมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาลมาใส่ในจานเท่านั้น เพื่อจุดประสงค์ที่ชาวมุสลิมและเพื่อนต่างศาสนิกจะได้ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารญี่ปุ่นรสชาติดีที่แต่ละจานคือฮาลาล 100%
“เรียบง่ายทว่าใส่ใจในรายละเอียดดั่งศิลปะการพับกระดาษญี่ปุ่นโอริกามิ” คือคอนเซ็ปต์ที่ทางร้านใช้กับทุกๆ ดีเทล เช่นอาหารก่อนจะพ้นจากครัวได้ก็ต้องผ่านการประดิดประดอยโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ ยิ่ง Origami Japanese Restaurant เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นแบบฮาลาล ส่วนประกอบบางรายการที่ร้านทั่วไปใช้ ยกตัวอย่างให้ชัดๆ ก็มิรินกับโชยุ ซึ่งทั้งคู่มักจะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เกินกว่าศาสนาอิสลามกำหนด ดังนั้นทางร้านจึงต้องหาเครื่องปรุงอื่นที่มอบรสชาติใกล้เคียงที่สุดมาใช้ทดแทน
ร้านมีขนาด 2 ชั้น ภายในแต่งสไตล์มินิมอลให้ความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนได้มากินข้าวที่บ้านเพื่อนสนิท ประกอบกับเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ในร้านใช้เป็นไม้สีอ่อน มู้ดแอนด์โทนโดยรวมเลยอบอุ่นขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า
กินบรรยากาศจนอิ่มอกอิ่มใจแล้วขอย้ายมาเติมของอร่อยใส่ท้องบ้าง เริ่มที่จานเรียกน้ำย่อยอย่าง Spicy Salmon Yum ที่ทางร้านปรุงออกมาได้ถูกปากคนไทยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติเปรี้ยวนำแล้วตามด้วยเค็มและหวาน พูดได้เลยว่าเรื่องของรสชาติชามนี้มีครบ!
แต่ที่สั่งกันทุกโต๊ะเห็นจะเป็นจาน Salmon Cream Cheese ที่ไส้อัดแน่นไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ อาทิ ไข่หวาน แตงกวา และครีมชีส ม้วนเข้ากับข้าวซูชิที่ปรุงมาอย่างดีในแบบฮาลาล โปะหน้าแต่ละคำด้วยแซลมอนสับ เกล็ดขนมปังทอดกรอบ กับโทบิโกะ รวมถึงซอสเผ็ดๆ หวานๆ ที่ต้องกินด้วยกันอย่างซอสสไปซี่และซอสเทอริยากิ
ไม่ว่ามื้อไหนก็ต้องเสริมด้วยซุปร้อนๆ ซึ่ง Tempura Udon นั้นเป็นอะไรที่เหมาะเหม็งสุดๆ ที่สำคัญส่วนประกอบอย่างเส้นอุด้งสดนั้นทางร้านได้คัดสรรอีกทั้งนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย ด้านซุปก็ปรุงให้รสชาติคล้ายคลึงกับต้นตำรับมากที่สุดด้วยโชยุฮาลาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ก่อนจะท็อปด้วยกุ้งเทมปุระกรอบฟูที่เข้ามาช่วยสร้างมิติรสชาติให้อาหารอร่อยและสมบูรณ์
Tempura Udon (180 บาท)
ท้ายสุดที่เมนู Hambagu Cheese Kare พิถีพิถันตั้งแต่ลงมือปรุงเครื่องแกงกะหรี่ใหม่ไร้ส่วนผสมของไขมันหมู เสิร์ฟพร้อมฮัมบากุสอดไส้ชีสที่เพียงแค่ใช้มีดผ่าเบาๆ ก็เยิ้มออกมาจนเราอดที่จะตักเข้าปากไม่ได้