11:00-22:00 น.
ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ถือกำเนิดจากความชื่นชอบและความมุ่งมั่นที่อยากให้ทุกคนเข้าถึงอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดี บรรยายกาศภายในร้านจึงตกแต่งสไตล์ร่วมสมัย เน้นการใช้งานไม้ ทำให้ร้านดูอบอุ่นและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับทุกคนและทุกโอกาส
เมนูที่ร้านนี้ก็มีหลายหลายให้เลือก ทั้งแบบต้นตำรับญี่ปุ่นแท้และแบบฟิวชั่นจากฝีมือของหัวหน้าเชฟผู้มากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการอาหารญี่ปุ่นมานานกว่า 20 ปี ซึ่งแน่นอนว่าหัวหน้าเชฟมีความชำนาญในการเลือกสรรค์วัตถุดิบเป็นอย่างดี
ทางร้านเลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพสูงที่แทบจะทุกรายการส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นของทะเลสดๆ จากตลาดปลาซึกิจิ เนื้อวัวมัตสึซากะนุ่มลิ้นจากจังหวัดฮอกไกโด เพื่อนำมารังสรรค์เมนูอาหารภายในร้าน ซึ่งแน่นอนว่าอาหารขึ้นชื่อของร้านนี้ก็คือเมนูซูชิและซาชิมิต่างๆ ที่ทางร้านแสนภาคภูมิใจ ความพิเศษอยู่ที่เนื้อปลาที่ทางร้านเลือกใช้ไม่ผ่านการแช่แข็งในกระบวนการขนส่งจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย ทำให้เนื้อปลาแน่น เฟิร์ม และไม่อมน้ำ ส่วนไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อปลาก็แทบจะละลายทันทีเมื่อนำเข้าปาก ถ้าหากใครยังไม่เคยลิ้มลองซูชิและซาชิมิจากเนื้อปลาสดๆ ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการแช่แข็งแบบนี้ ขอแนะนำให้ลองสักครั้งแล้วละ
ซาชิมิที่รวบรวมของทะเลสดเอาไว้หลากหลาย โดยเฉพาะใครที่ชอบปลาฮมมากุโร่ควรสั่งเลย เพราะในเซตเดียวมีเนื้อปลาจากสามส่วนที่เรียกได้ว่าอร่อยที่สุดไว้ ได้แก่ โอโทโร่ ชูโทโร่ และอะกะมิ เนื้อส่วนโอโทโร่จะมีไขมันมากที่สุด เพราะเป็นส่วนหน้าท้องของปลานั้นเอง จะเห็นว่าเนื้อมีสีชมพูอ่อนเนื่องจากปริมาณไขมันที่แทรกตัวอยู่ในเนื้อบริเวณนี้มีเยอะที่สุด พอคีบโอโทโร่เข้าปากไปแล้ว ให้ลองอมเนื้อปลาไว้สักครู่หนึ่งก่อนเริ่มเคี้ยว เพื่อให้ไขมันในเนื้อปลาสัมผัสกับอุณหภูมิร่างกายของเราที่ร้อนกว่า ไขมันปลาจะเริ่มละลายออกมาและทำให้เนื้อปลามีรสชาติเพิ่มมากขึ้น
ถนัดมาเป็นเนื้อส่วนชูโทโร่ที่มีไขมันน้อยลงมาหน่อย เป็นเนื้อที่อยู่บริเวณลำตัวปลาค่อนไปทางส่วนหางเล็กน้อย อีกส่วนหนึ่งคือเนื้ออะกะมิหรือส่วนเนื้อแดงที่ปลาจะใช้กล้ามเนื้อในส่วนนี้ในการว่ายน้ำ ทำให้ส่วนนี้แทบจะไม่มีไขมันสะสมเลย
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะในเซตยังมีของดีอื่นๆ ที่ยังไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ อย่างปลาฮะมะจิ เนื้อสีชมพูแต้มแดง ปลาแซลมอนสีส้มสด ไข่ปลาแซลมอน (Ikura) ปรุงรสกลมกล่อม จะกินเล่นหรือสั่งข้าวสวยร้อนๆ มากินเคียงก็เข้ากันได้ดี ซาชิมิชนิดสุดท้ายคือหอยปีกนก (Hokkigai) เนื้อหอยกรุบหวาน แต่ไม่มีความเหนียวหรือแข็งจนเกินไป
เมนูนี้ที่นอกจากจะเป็นเมนูแนะนำแล้ว ยังเป็นหนึ่งในเมนูที่ขายดีที่สุดของร้านอีกด้วย เรียกได้ว่าถ้ามาก็ควรต้องสั่งมาชิมกันหน่อยแล้ว รับรองจะติดใจ มันของปูซูไวปรุงรสด้วยมิโซะรสเข้มข้นก่อนนำมันกลับไปใส่ในกระดองปู โรยหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอนและต้นหอมซอยอีกเล็กน้อย และเสิร์ฟบนตะแกรงที่มีไฟอยู่ด้านล่าง มันปูจะค่อยๆ เดือดปุดๆ เพิ่มกลิ่นและความน่ากินขึ้นไปเป็นทวีคูณ
ส่วนวิธีกินเมนูนี้ก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี จะตักมันปูราดบนข้าวสวยร้อนๆ ก็ได้ หรือจะนำข้าวสวยร้อนๆ ไปคลุกกับมันปูในกระดองบนเตาเลยก็จะได้รสมันปูเต็มๆ กันไปเลย แต่ถ้าใครอยากกินเมนูแบบรสเข้มข้นขึ้น ก็แนะนำให้อดใจรอสัก 5-10 นาที จนมันปูงวดขึ้น จะได้รสชาติที่ถูกใจ คุ้มค่าการรอคอยอย่างแน่นอน
ตอนแรกก็อาจจะรู้สึกแปลกใจอยู่สักหน่อยที่เห็นชื่อเมนูนี้ ทำไมข้าวห่อสาหร่ายไส้ตับห่านนุ่มๆ กับมะม่วงสุกหวานฉ่ำถึงได้ชื่อ “สันติโรล” ได้นะ ที่มาของชื่อเมนูนี้ก็มาจากชื่อของเชฟผู้เป็นคนคิดค้นเมนูนี้ขึ้นมา เป็นเมนูโรลแบบฟิวชั่นที่อาจจะดูเหมือนโรลทั่วๆ ไป แต่การนำไส้ที่ความเป็นอาหารตะวันตกมาประยุกต์ใช้ ทำให้เมนูที่เห็นกันจนคุ้นตามีลูกเล่นใหม่ๆ เพิ่มเข้าไป ทำให้เมนูนี้ได้ขึ้นแท่นเป็นเมนูขายดีอีกหนึ่งเมนูของร้านซูชิโอกุแห่งนี้
นอกจากเมนู À La Carte แล้วก็ยังมีเมนู Lunch Set สุดคุ้มที่สามารถสั่งได้ทุกวันตั้งแต่ 11:00-14:00 และ Combo Set ที่ประกอบไปด้วย ซาชิมิ ซูชิและเมนูยอดนิยมอื่นๆในหนึ่งเซตที่ขอบอกเลยว่าเกินคุ้ม
ถ้าหากใครอยากกินซูชิ ซาชิมิ หรืออาหารญี่ปุ่นอร่อยที่บ้านแต่ไม่อยากฝ่ารถติดและสภาพอากาศร้อน ก็ยังสามารถอร่อยกับร้านซูชิโอกุได้ง่ายๆ เพราะร้านนี้มีบริการส่งอาหารถึงมือคุณด้วย Uber Eats อีกด้วย