Hiro Japanese Restaurant (ฮิโระ เจแปนนิส เรสเตอร์รอง)

ร้านอาหารญี่ปุ่นบางนาที่ตั้งใจส่งต่อรสชาติคันไซขนานแท้

Hiro Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพแน่นย่านบางนา โดยเชฟชาวญี่ปุ่นที่ตั้งใจอยากจะส่งต่อรสชาติคันไซแท้ๆ แบบที่ไม่ต้องบินไปกินก็ฟินได้ราวกับคนท้องถิ่น

ตัวร้านให้ฟิลลิ่งอบอุ่นคุมโทนเหลือง-น้ำตาลแต่งเรียบง่าย พื้นที่ก็ถือว่ากว้างขวางด้วยขนาด 45 ที่นั่ง มีทั้งส่วนเคาน์เตอร์สำหรับคนที่รักสันโดษนั่งชิลล์ที่หน้าบาร์ โต๊ะเดี่ยว และโซนส่วนตัวพร้อมม่านกั้นที่จุได้กว่า 10-12 ท่าน แน่นอนว่าในทุกๆ วันเชฟซึชิฮาชิ โยชิฮิโระ ผู้เป็นหัวหน้าเชฟพ่วงด้วยตำแหน่งเจ้าของร้านจะอยู่มอบความอร่อยให้กับลูกค้าด้วยตัวเอง

บรรยากาศภายในร้าน

โซนส่วนตัวก็มีจัดไว้รับรองเช่นกัน

ในพาร์ทของเมนูอาหารพร้อมเสิร์ฟทั้งครัวเย็นและครัวร้อนร่วม 150 รายการ ไล่ตั้งแต่จานแอพพิไทเซอร์ สลัด ของทอด ยากิโทริ จานย่าง ซาชิมิ ซูชิ โรล ดงบุริหน้าต่างๆ นาบะ ราเมน ไปจนถึงของหวาน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูแนะนำที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามแต่ละสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในช่วงนั้นๆ ว่าเชฟได้อะไรมา เป็นต้นว่าปลาสดตามฤดูกาลที่หากินได้ยากในบ้านเรา เชฟก็ได้คัดสรรเอามาปรุงเป็นเมนูอร่อยให้ลูกค้าได้เลือกสั่งกันตามชอบ

อย่างครั้งนี้คิจิขอเริ่มด้วย Tofu Avocado Salad สลัดเต้าหู้กับอะโวคาโดที่ตัวเดรสซิ่งทางร้านเป็นคนปรุงขึ้นมาใหม่โดยมีส่วนประกอบหลักคือมิโซะขาวนำเข้าจากจังหวัดเกียวโต เนื้อสัมผัสครีมมี่เข้มข้นเข้ากันดีกับผักสลัด เต้าหู้นิ่ม และอะโวคาโด เอาเป็นว่าอร่อยลงตัวจนอยากสั่งเพิ่มอีกสักจาน

Tofu Avocado Salad (189 บาท)

ซาชิมิเราก็ไม่อยากให้พลาดโดยเฉพาะรายการ Tai Usuzukuri ปลาไทหรือปลากะพงแดงแล่บาง จัดใส่จานมาอย่างสวยงามพร้อมผักสลัดกับเครื่องจิ้ม หากเป็นซูชิ Bara Chiraishi Sushi ปลาดิบรวมหั่นเต๋า สดหวานราวกับยกทะเลมาไว้ตรงหน้าด้วยมาทั้งฮามาจิ แซลมอน โทบิโกะ อิคุระ ผสานเข้ากับอุนางิเคลือบซอสย่างถ่าน แตงกวา ไข่หวาน และอะโวคาโด ซึ่งทั้งหมดท็อปมาบนข้าวซูชิที่ปรุงอย่างดีตามสูตรของร้าน โดย 1 เสิร์ฟสามารถรับประทานได้ 2-3 ท่านเลยทีเดียว

Tai Usuzukuri (299 บาท)

Bara Chiraishi Sushi (799 บาท)

ส่วน Aburi Shimesaba คือเป็นอะไรที่ต้องสั่งมาลองทาน ปลาซาบะที่ทางร้านนำไปดองก่อนเอามาย่างบนกระบอกไม้ไผ่ให้หอมฉุย สัมผัสนุ่มเคี้ยวเพลินทั้งรสที่ไม่เปรี้ยวไป ใครที่อยากลองเมนูใหม่ๆ นอกจากซูชิ ซาบะเนื้อฉ่ำจานนี้บอกเลยว่าตอบโจทย์

Aburi Shimesaba (219 บาท)

Gyu Tongue Yaki หรือลิ้นวัวย่างก็เป็นเมนูขึ้นชื่อของ Hiro Japanese Restaurant เช่นกัน ลิ้นวัวชิ้นพอดีคำที่ชิซังนำไปหมักให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อพร้อมย่าง อีกทั้งแนะนำให้บีบมะนาวก่อนรับประทาน ใครที่อยากเปิดประสบการณ์การกินลิ้นวัวย่าง คิจิขอแนะนำว่าจานนี้คือเหมาะ

Gyu Tongue Yaki (180 บาท)

ตบท้ายมื้อด้วย Nabeyaki Udon ซดร้อนๆ ให้อุ่นท้องกับนาเบะยากิรสชาติคันไซ ที่ในหม้อดินเผาญี่ปุ่นอุดมไปด้วยของอร่อย อาทิ อุด้งเส้นสดนำเข้าจากญี่ปุ่น กุ้งเทมปุระ เต้าหู้ทอด ไข่ไก่ ลูกชิ้นปลาญี่ปุ่น และสารพัดผัก ในซุปปลาแห้งที่ผ่านการเคี่ยวอย่างพิถีพิถันกับคอมบุจนได้รสกลมกล่อม พานให้อยากซดจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่หยดสุดท้าย

Nabeyaki Udon (259 บาท)