• Bookmark
  • Share

Sushi Hana (ซูชิ ฮานะ)

  • Bookmark
  • Share

Hana Plus Bangna

  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 1,000 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = มาก
    เนื้อวัว = ปานกลาง
    ผัก = มาก
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    ปานกลาง
  • Special
    Special
    มีสาเกมากกว่า 10 ชนิด
    มีโชจูมากกว่า 10 ชนิด

ละเมียดละไมไปกับรสชาติญี่ปุ่นดั้งเดิมและเมนูที่ผสานความเป็นไทยได้ลงตัว

หากจะให้แนะนำร้านอาหารญี่ปุ่นที่ผสานทั้งความดั้งเดิมและความร่วมสมัยได้อย่างลงตัวคงต้องมีร้านอาหารญี่ปุ่น Sushi Hana (ซูชิ ฮานะ) อยู่ในลิสต์เป็นแน่ ร้านนี้เกิดจากความเชี่ยวชาญและความตั้งใจของ เชฟสุริยัน ปะวะเสนะ ผู้ชำนาญการทำอาหารศาสตร์ไคเซกิ (Kaiseki) มานานกว่า 25 ปี ด้วยเทคนิคการปรุงอาหารแบบพิเศษ จัดเสิร์ฟได้อย่างประณีตสวยงามและคงความละเมียดละไมถึงที่สุด ก่อนจะเสิร์ฟถึงมือลูกค้า

Sushi Hana กระจายความอร่อยไปทั้งหมด 7 สาขา ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งทุกสาขาก็มีลูกค้าประจำเชื่อใจและมั่นใจให้ร้านนี้เป็นที่ฝากท้องตลอดมา ใครที่มารับประทานบ่อยๆ เราแนะนำให้สมัครสมาชิกไว้เลย ค่าสมัคร 300 บาท / คน มีอายุสมาชิก 2 ปี ได้ทั้งสะสมแต้ม ถ้ามารับประทานในวันเกิดจะได้เมนูพิเศษจากทางร้าน และในเดือนเกิดจะได้ส่วนลดถึง 20 % เชียวนะ รับรองเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ  

วันนี้เราเดินทางมาที่สาขา บางนา หน้าร้านโดดเด่นเห็นชัดมาแต่ไกลทำให้รู้เลยว่าที่นี่ชัวร์ไม่พลาดแน่ ด้วยการตกแต่งโดยใช้ไม้โทนสีเข้มวางเรียงเป็นระเบียบ เว้นช่องไฟให้พอโล่งตาก่อนจะวางชื่อและโลโก้ร้านรูปดอกไม้ขนาดใหญ่ (Hana ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ดอกไม้) ไว้กึ่งบริเวณกึ่งกลาง เป็นโทนสีน้ำตาลอบอุ่นตัดกับสีเขียวของสวนหน้าร้านได้อย่างลงตัว 

Sushi Hana

ดูแค่ภายนอกอาจจะคิดว่าร้านคงไม่ใหญ่มาก แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปเราแอบตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะตัวร้านเป็นแนวยาวทอดตัวลึกเข้าด้านใน มีเฟอร์นิเจอร์ไม้โทนสีน้ำตาลเข้มวางเรียงรายจนสุดร้าน ด้านขวามือขนาบด้วยโซนที่นั่งบาร์ มีเก้าอี้รองรับกว่า 10 ที่นั่ง เป็นโซนที่เหมาะกับใครที่ชอบเห็นท่าทางชำนิชำนาญของเชฟเวลาปรุงอาหาร และด้านในสุดยังมีห้องรับรองสำหรับหมู่คณะที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอยู่ด้วย 

Sushi Hana

Sushi Hana

Sushi Hana

แค่เปิดประตูเข้ามาก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพนักงานในร้าน บรรดาเชฟมากฝีมือเริ่มเข้าประจำที่พร้อมจับมีดคู่ใจเงาวับ หลังจากเราจับจองที่นั่งเรียบร้อยก็พร้อมที่จะลิ้มลองแต่ละเมนูของร้านที่เราได้ยินมาว่ารสชาติของร้านนี้ไม่เหมือนที่ไหน วันนี้เราจะมาลองให้รู้กัน!

Sushi Hana

ไม่กี่อึดใจเมนูแรกก็มาถึงโต๊ะ เป็นเซ็ตซูชิสีเหลืองวางไล่ระดับลงมาบนบันไดไม้สีอ่อนขนาดกำลังน่ารัก  ใช่ ซูชิเมนูนี้มี “สีเหลือง” เป็นสีเหลืองสดใสที่มาจาก “มะม่วงน้ำดอกไม้” ผลไม้คุ้นตาของบ้านเรา ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวแบบพอดีและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ทางร้านจึงนำมาครีเอทเป็นวัตถุดิบรสชาติหอมหวาน อย่าง “ซอสมะม่วง (Mango Sauce)” แถมฝานมะม่วงสุกบางๆ ขนาดพอดีวางมาด้านบน โดยเชฟจะเลือกวัตถุดิบที่ค่อนข้างมีรสชาติมันนำ อย่างเอ็นกาวะ ฟัวกราส์ ชูโทโร่ และอีกหลายอย่าง เพราะตัวซอสรสเปรี้ยวหวานนี้จะช่วยทำให้ความมันเลี่ยนของแต่ละวัตถุดิบลดน้อยลง ในขณะเดียวกันก็ช่วยชูรสชาติของวัตถุดิบนั้นออกมาได้เป็นอย่างดี ตัวข้าวที่ร้านใช้เป็นข้าวสำหรับทำซูชิโดยเฉพาะ นำเข้าจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ที่ให้สัมผัสนุ่มหนึบ เชฟจะมีเทคนิคปั้นข้าวให้มีอากาศอยู่ด้านในและขนาดพอดีคำ เมื่อกินไปทั้งคำจะได้สัมผัสของข้าวและปลาที่พอดี บอกเลยว่าเมนูนี้ทำหลายคนติดใจไปตามๆ กัน รวมทั้งเราด้วย 

ซูชิที่เรียงรายมาในเมนูนี้มีทั้งหมด 7 คำ เริ่มที่บนสุด Chutoro Sushi Mango Sauce คำนี้ใช้ปลาทูน่าส่วนชูโทโร่ที่แทรกไขมันมาอย่างพอดี รสชาติเข้ากันดีมากกับซอสมะม่วงรสหวานเปรี้ยว แต่คำนี้ถ้าเป็นสมาชิกของร้าน Sushi Hana รับไปเลย 2 คำโตๆ! ต่อกันกับ Engawa Sushi Mango Sauce ครีบปลาตาเดียวหรือเอ็นกาวะ เนื้อเด้งละมุนสุดๆ  ต่อกับ Foie Gras Sushi Mango Sauce คำนี้เราบอกเลยว่าอย่างไรก็ต้องสั่ง! ฟัวกราส์ชิ้นโต กรอบนอกนุ่มใน ไร้กลิ่นคาว ฉ่ำซอสมะม่วงสุดๆ ไล่ลงมากับ Salmon Toro Sushi Mango Sauce แซลมอนส่วนท้องของโปรดของใครหลายคนที่บอกเลยว่าจับคู่กับซอสมะม่วงแล้วดีมาก และคำสุดท้าย Hamachi Toro Sushi Mango Sauce ปลาฮามาจิส่วนท้องที่ไขมันกำลังดีคำนี้ก็เดอะเบสท์มากเลยล่ะ เอาเป็นว่าต้องลองทุกคำและจะติดใจจนลืมไม่ลงจริงๆ

Sushi HanaChutoro Sushi Mango Sauce (450 บาท / 2 คำ), Engawa Sushi Mango Sauce (160 บาท / คำ), Foie Gras Sushi Mango Sauce (470 บาท / 2 คำ),
Salmon Toro Sushi Mango Sauce (100 บาท) และ Hamachi Toro Sushi Mango Sauce (160 บาท)

อีกหนึ่งเมนูที่พลาดไม่ได้นั่นคือ Meiji Edomae Sushi Set ชุดข้าวปั้นสไตล์เอโดะที่รวมหน้าซูชิยอดฮิตทั้งแซลมอน, ทูน่า, ฮามาจิ, ปลาหมึกกล้วย, ซูซูกิ, ซากุระได, อาจิ, ซาบะ, หอยปีกนก, กุ้งเอบิ, ปลาไหล และปิดท้ายด้วยคัสเตลลาเค้กสไตล์ฮานะ นอกจากความสดใหม่ของปลาอีกหนึ่งความอร่อยของเมนูนี้คือ “ข้าว” ร้านนี้นำข้าวญี่ปุ่นมาผสมกับน้ำส้มสายชูแดงจนได้ข้าวที่มีสีแดงอ่อนๆ อมน้ำตาล ได้ความนุ่มหนึบและกลมกล่อม

kijiMeiji Edomae Sushi Set (590 บาท)

kiji

เมนูต่อไปสาวกแซลมอนจะต้องร้องกรี๊ด เพราะเสิร์ฟแต่เมนูแซลมอนเน้นๆ ในเมนู Hana Salmon Matsu เรียกว่ายกแซลมอนแทบจะทุกส่วนมาไว้ที่นี่ จัดวางอย่างสวยงามละเมียดละไม ลูกค้าหลายคนลงความเห็นกันว่าแซลมอนของร้านนี้มีรสหวานและความมันแบบพอดี เราเลยแอบกระซิบถามเชฟถึงเคล็ดลับนี้และรู้มาว่า แซลมอนของที่นี่จะผ่านการบ่มเพื่อป้องกันแบคทีเรียเข้ามาปนเปื้อน หลังจากแล่ปลาเสร็จแล้วเชฟจะรีบเก็บโดยการห่อหุ้มแซลมอนให้แน่นและมิดชิด เก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมกับแซลมอนคือ 0-5 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นจะบ่มไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อให้เอนไซม์ย่อยสลายกล้ามเนื้อต่างๆ ของปลาจนได้รสหวานหอมเช่นนี้เลย

kijiHana Salmon Matsu (888 บาท)
kijiข้าวปลาแซลมอนเนื้อหนาที่ท็อปด้วย Boba Ponzu พอนสึที่ถูกแปลงร่างเป็นก้อนกลมเล็กๆ คล้ายไข่มุก เมื่อกัดเข้าไปจะได้สัมผัสเด้งดึ๋งและได้รสสัมผัสพอนสึกระจายไปทั่วทั้งปาก
kijiอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจคือ ข้าวห่อแซลมอนชีสคลุกสาหร่ายอบแห้ง ม้วนเป็นโรลกลมๆ อัดชีสก้อนโตไว้ด้านในเข้ากันดีมากกับแซลมอนและสาหร่าย 

เมนูต่อไปก็พิเศษไม่แพ้ใครเพราะเมนูนี้เราสามารถเลือกได้ตั้งแต่ปลาที่จะนำมาทำอาหาร บริเวณโซนเคาน์เตอร์บาร์จะมีปลาสดๆ วางเรียงรายพร้อมป้ายชื่อและราคาของแต่ละตัว ปลา 1 ตัว จะสามารถทำได้ 2 เมนู เราสามารถเลือกได้ว่าอยากให้เชฟปรุงอาหารแบบไหน จะทำแบบซาชิมิ ต้ม ทอด ย่าง หรืออื่นๆ ทางร้านก็ทำให้ได้หมด ราคาที่ติดไว้คือรวมการปรุงอาหารมาให้แล้ว ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามชนิดและขนาดของปลา ในส่วนของปลาที่เราเลือกมาในวันนี้คือ ปลาเก๋า ปรุงมาในเมนูซาชิมินาเบะ และย่างเกลือสไตล์ฮานะ 

อยากบอกว่าร้านนี้จัดโปรโมชั่นเก่งมาก มีอยู่แทบทุกเดือนต้องติดตามกันในแฟนเพจร้านให้ดี อย่างโปรโมชั่นเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 62 นี้ ทางร้านจัดเซ็ต King of Sushi ในเมนู Toyosu Bluefin Set อย่างที่เรารู้กันว่าตระกูล Bluefin ทั้งหลายนี่ราคาไม่ใช่เล่นๆ แต่ด้วยความใจป้ำของร้าน จัดไปเลยทั้งเซ็ตนี้ใน ราคา 799 บาท เท่านั้น! มาหมดทั้ง อากามิ, ชูโทโร่ และโอโทโร่ ใครอยากลองต้องรีบไปก่อนหมดโปรโมชั่นนะ

kiji

kiji

แล้วรู้ไหมว่า อีกหนึ่งความสดชื่นของร้านนั้นก็คือ ชาข้าวบาร์เลย์คั่ว ชาข้าวบาร์เล่ย์คั่วหรือชาข้าวสาลีนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นเรียกว่า มุกิฉะ คนญี่ปุ่นถูกใจเครื่องดื่มชนิดนี้เอามากๆ เลยล่ะ ความพิเศษชาชนิดนี้คือ ไม่มีคาเฟอีน เพราะฉะนั้นไม่ว่าเด็กจิ๋วหรือผู้สูงอายุก็ดื่มด่ำความสดชื่นนี้ได้ ทั้งยังได้สารอาหารและสรรพคุณต่างๆ ที่ดีต่อร่างกายอีกมากมาย  และที่สำคัญนะ ร้านนี้เขาเสิร์ฟให้แบบฟรีๆ ไปเลย!

เราว่าร้านนี้เป็นร้านที่ซ่อนความเรียบง่ายและผ่อนคลายเอาไว้ในบรรยากาศ ในขณะเดียวกันก็ยังส่งต่อความประณีตละเอียดละออ เข้าอกเข้าใจคนไทยด้วยอาหารญี่ปุ่นหน้าตาสวยงาม ผสานรสชาติได้ถูกปาก จนต้องยกให้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยากพาคนที่เรารักมาสัมผัสบรรยากาศและรสชาติแบบนี้เป็นที่สุดเลยล่ะ

Hana 7 Wonder Menu (99 บาท) (เฉพาะที่สาขาบางนาเท่านั้น)

หนวดปลาหมึกทอดกรอบทอดแบบเทมปุระ ก่อนนำมาคลุกเคล้าด้วยซอสไข่เค็มที่ผ่านการปรุงแบบพิเศษ รสชาติหวานอมเปรี้ยวแบบพอดี เป็นเมนูที่ผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัว

Ice Yuzu (79 บาท) และ Watermelon Smoothie (69 บาท)

Map