ขุมทรัพย์ล้ำค่าของคอซูชิที่รอการค้นพบ

ถึงแม้ว่า Sushi Juban จะมีขนาดร้านที่ไม่ใหญ่โตและทำเลที่ตั้งไม่โดดเด่น จนใครหลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อ แต่การแนะนำร้านนี้เปรียบเสมือนการบอกทางสู่ขุมสมบัติล้ำค่าของคอซูชิ จากคำของเชฟที่ว่าถ้าหากไม่มีคนญี่ปุ่นพามา ยากจะเห็นชาวไทยย่างเท้าสู่ร้านนี้ หากได้ลองชิมดูจะรู้ว่าสาเหตุเดียวที่คนไทยไม่รู้จักที่นี่เท่าไร เป็นเพราะ Sushi Juban ไม่เคยนำเสนอตัวเองให้เด่นดังเท่านั้น ด้วยความสดใหม่และคุณภาพของปลาที่นำเข้ามาสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งจากตลาดซึกิจิ ผ่านกรรมวิธีพิถีพิถันและเชี่ยวชาญภายใต้แนวคิดว่า ความอร่อยของซูชิไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสดของปลาเท่านั้น แต่คือการทิ้งระยะให้ปลามีอุณหภูมิและรสชาติเหมาะสมที่สุด ทั้งยังเลือกเครื่องปรุงต่างๆ ให้เข้ากับแต่ละหน้า จุ่มแปรงแล้วทาก่อนเสิร์ฟ รับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องแตะโชยุเพิ่ม อีกทั้งยังมีราคาคุ้มค่ากับบรรยากาศและคุณภาพที่ได้รับ ที่นี่จึงเป็นดั่งขุมสมบัติที่รอคอยการค้นพบ

เวทีการแสดงอาหารสุดเพลิดเพลิน

เบื้องหน้าที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ซึ่งเรียงยาวถึง 23 เก้าอี้ คือครัวเปิดที่เป็นดังเวทีปรุงอาหารให้แขกได้เพลิดเพลินกับทุกขั้นตอนกระบวนการ และวางใจในความปลอดภัยที่โปร่งใส ไร้ลับลมคมใน สมาธิและความพิถีพิถันในการจับมีดแล่ปลาหรือคลึงปั้นข้าวของเชฟ รวมทั้งเปลวไฟลุกโชนหลังกระจกใสของเมนูวาระยากิ คือความตื่นตาตื่นใจราวกับได้ดูการแสดง และทำให้การรอคอยอาหารไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป นอกจากนี้การตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยขวดสาเกที่ใช้ทำโคมไฟ หรือเรียงรายเป็นกำแพงอยู่ด้านหลัง ก็ทำให้บรรยากาศแฝงไปด้วยความสร้างสรรค์แบบร่วมสมัย ผสานบาร์โมเดิร์นที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากชนิดเข้ากับร้านซูชิต้นตำรับญี่ปุ่นอย่างลงตัว

Chinmi 3 Kinds Appetizer for Sake (280 บาท)

เมนูกับแกล้มหายากที่ประกอบด้วยเมนูดั้งเดิมจากฮอกไกโดคือ ไข่ปลาเฮริงหมัก และเนื้อปลาเฮริงหมัก อีกอย่างคือปลาหมึกสดหมักเกลือ รับประทานคู่กับการจิบสาเกหรือโชจูจะให้รสเข้มข้นขึ้น

Warayaki 3 Kinds (720 บาท)

เนื้อปลา 3 ชนิด ได้แก่ คัตสึโอะ
บินโทโระ และแซลมอน ย่างด้วยฟางแบบวาระยากิ ได้ความดิบสุกในอัตราส่วนที่สมดุลและกลิ่นฟางหอมชัดเตะจมูก เข้ากันดีเยี่ยมเมื่อรับประทานคู่กับเกลือและวาซาบิ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์