กระทะร้อนของย่างสไตล์ญี่ปุ่น

โอโคโนมิยากิ หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่าพิซซ่าญี่ปุ่นนั้น แท้ที่จริงแล้วคำว่า ยากิ ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการย่าง โอโคโนมิยากิจึงเป็นอาหารประเภทย่างมากกว่าพิซซ่าซึ่งเป็นอาหารอบจากโลกตะวันตก การปรุงจะย่างแป้งกับส่วนผสมอื่น ๆ บนเตาโลหะแผ่นแบน ๆ แล้วราดด้วยซอสรสหวาน แม้ว่าการจะหาร้านโอโคโนมิยากิโดยเฉพาะและมีรสชาติดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ ดูจะเป็นเรื่องยาก เพราะร้านอาหารส่วนใหญ่จะมีโอโคโนมิยากิแทรกเป็นเมนูเล็ก ๆ อยู่ในรายการอาหารเท่านั้น แต่ที่ร้าน Okonomiyaki Ichi แห่งนี้ เปิดขายโอโคโนมิยากิเป็นหลัก จนเปลี่ยนความคิดคนทั่วไปจากของกินเล่นกลายเป็นอาหารจานหลัก และกิจกรรมการย่างก็ช่วยสร้างความสัมพันธ์บนโต๊ะอาหารได้เป็นอย่างดีอีกด้วย อีกทั้งยังมีสูตรลับพิเศษที่ทำให้รสชาติโดดเด่นกว่าที่อื่น คือการใช้ซุปดาชิผสมลงในแป้ง แล้วพักไว้ 1 วัน ก่อนนำมาย่างโอโคโนมิยากิ จึงได้รสชาติกลมกล่อมลุ่มลึกกว่าร้านอื่นทั่วไป

ความแตกต่างใน แต่ละภูมิภาค

ไม่ว่าอาหารอะไรของญี่ปุ่นก็ดูจะมีความเกี่ยวข้องกับภูมิอากาศและภูมิภาคอยู่เสมอ โอโคโนมิยากิเองก็เช่นเดียวกัน ที่นี่จึงมีทั้งสไตล์ฮิโรชิม่าและสไตล์โอซาก้ามาให้เลือกตามความชอบ สูตรทางฝั่งฮิโรชิม่าจะย่างแป้งบนเตาก่อนแล้วค่อยใส่กะหล่ำปลี ผักอื่น ๆ เส้น และเนื้อสัตว์เป็นชั้น ๆ ทีละชั้น จึงให้รสสัมผัสของวัตถุดิบชัดเจนกว่าในแต่ละคำ ส่วนโอโคโนมิยากิสไตล์โอซาก้า จะคลุกส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันกับแป้งก่อนแล้วจึงนำมาย่าง เนื้อแป้งด้านในจะมีความนุ่มมากกว่าและมีความหวานจากแป้งแทรกอยู่ในทุกส่วน ที่สำคัญหากมากินเป็นครั้งแรก ๆ แนะนำให้ลองชิมจากที่พนักงานปรุงก่อน เพื่อให้ได้รสชาติที่แท้จริง เมื่อคุ้นเคยแล้วจึงกลับมาลองย่างเอง ก็สร้างความสนุกได้อีกแบบ โดยสามารถบอกพนักงานได้ตอนที่สั่งอาหาร

ซาชิมิสดใหม่จากญี่ปุ่น

ที่นี่ไม่ได้มีแต่โอโคโนมิยากิขายเท่านั้น แต่ยังมีเมนูอื่น ๆ เหมือนตามร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปด้วย อีกท้ังเป็นร้านในเครือร้าน Dainoki จึงวางใจได้เรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ เมนูซาชิมิของที่นี่จึงสดใหม่ มีรสชาตินุ่มนวลไม่แพ้ร้านอื่นๆ

Ebi Tempura (450 บาท)

เมนูทอดของที่นี่ก็ให้รสชาติลุ่มลึกไม่แพ้ของย่าง โดยเฉพาะกุ้งเทมปุระที่กรอบนอกนุ่มใน ตัวกุ้งมีความชุ่มฉ่ำ กับแป้งที่มีรสชาติหวานอ่อน ๆ ก็เข้ากันได้ดีจนกินชิ้นเดียวไม่พอ