รสชาติจากฮอกไกโดที่แม้อยู่กรุงเทพฯ ก็สัมผัสได้

Genshiyaki Sukhumvit 26 คือสาขาลำดับที่ 2 ในประเทศไทยของเก็นชิยากิที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557 โดดเด่นด้วยตัวร้านที่เป็นบ้านเดี่ยวหลังขาวในซอยสุขุมวิท 26 พร้อมลานจอดรถกว้างขวาง บรรยากาศทั้งนอกและในร้านจึงเหมือนได้มารับประทานอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ ที่บ้านเพื่อน

ต้นกำเนิดของร้านนั้นมาจากเมืองซัปโปโร (Sapporo) จังหวัดฮอกไกโด ทางร้านจึงเน้นการนำเข้าวัตถุดิบจากฮอกไกโด นำเสนอทั้งอาหารพื้นเมืองฮอกไกโดและอาหารญี่ปุ่นที่ปรุงแบบรสชาติเดียวกันกับที่กินที่ฮอกไกโด คุณโอซาวะผู้จัดการสาขาคนปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหอยนางรมที่คลุกคลีกับหอยนางรมมากว่า 10 ปีจนรู้อย่างละเอียดว่าช่วงนี้หอยนางรมจากแหล่งใดในญี่ปุ่นจะอร่อยเป็นพิเศษ

หอยนางรมญี่ปุ่น (99 บาท / ตัว)

หอยนางรมสดนำเข้าจากญี่ปุ่น เนื่องจากเก็บหอยนางรมไว้ในแทงค์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลกใกล้กับสนามบินฮาเนดะ จึงมาส่งตรงที่ร้านใช้เวลาเพียง 1 วัน  ทางร้านจะเสิร์ฟหอยนางรมสดที่เนื้อถูกแซะออกและนำกลับไปวางในทรงเดิมอย่างสวยงามโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ จนดูด้วยตาเหมือนกับว่าเนื้อยังไม่ถูกแซะ บีบเลม่อนที่เสิร์ฟมาในจานก็พร้อมกิน รสเปรี้ยวของเลม่อนจะช่วยให้หอยนางรมสดรับประทานได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณโอซาวะยังเผยเคล็ดคลับความอร่อยของหอยนางรมเก็นชิยากิ นั่นก็คือในกระบวนการแซะจะใช้น้ำน้อยที่สุดเพื่อมิให้สูญเสียรสหวานของตัวหอยนางรม และรสเค็มที่ได้จากทะเลญี่ปุ่นนั่นเอง

พาสต้าครีมเบคอนคลุกชีสอิตาเลียน (349 บาท)

เนื่องจากซัปโปโรเป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลและวัฒนธรรมจากตะวันตกค่อนข้างมาก อาหารอย่างพาสต้าจึงเป็นที่แพร่หลายมาก สำหรับพาสต้าของเก็นชิยากิ สาขาสุขุมวิท 26 นี้จะใช้ชีสกรานาพาดาโนจากอิตาลีมาขูดกลางก้อน แล้วนำเส้นพาสต้าพร้อมครีมลงคลุกก่อนตักใส่จานกระทะร้อน โรยเบคอนกรอบ ได้กลิ่นชีสหอมน่ารับประทาน

ข้าวรวมทะเลย่างพร้อมไข่ปลาแซลมอน (780 บาท)

เมนูซิกเนเจอร์ของเก็นชิยากิ สุขุมวิท 26 ที่เคยมีรายการโทรทัศน์จากญี่ปุ่นเดินทางมาถ่ายทำจนเป็นกระแสฮือฮาในหมู่คนญี่ปุ่นที่อาศัยในย่านสุขุมวิท หากสั่งเป็น 10 คนแรกของร้านจะได้กินในราคาเพียง 390 บาทเท่านั้น นอกจากหน้าตาที่ดูยิ่งใหญ่ชวนรับประทาน ไข่ปลาแซลมอนของที่นี่ยังสดและอร่อย เพราะทางร้านหมักโชยุเอง สามารถเพิ่ม 30 บาทเพื่อรับซุปมิโซะกับสลัดผักได้ หากต้องการกินปลาดิบๆ ก็สามารถแจ้งพนักงานไม่ให้ย่างไฟได้เช่นกัน

ผักสดเสิร์ฟคู่บังนา เกาด้า (299 บาท)

เมนูเฉพาะตามฤดูกาลที่สั่งผักสลัด 7 ชนิดที่ปลูกโดยคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ สามารถเพิ่มทรัฟเฟิลท็อปปิ้งได้ในราคาเพียง 100 บาท มีลูกค้าบางรายมาที่ร้านเพื่อสั่งเมนูนี้เพียงเมนูเดียว และกลับมาสั่งซ้ำบ่อยครั้ง นี่จึงเป็นข้อการันตีว่าเมนูที่หน้าตาอาจไม่หวือหวาเท่าใดนัก อาจกลายเป็นเมนูโปรดไปเลยก็ได้

โอมากาเสะซูชิเช็ตและหอยเม่นทะเล รวม 30 ชิ้น (1,300 บาท)

สาวกซูชิที่อยากกินซูชิอร่อยๆ ที่บ้านต้องลอง เพราะเซ็ตซูชิรวม 30 ชิ้นนี้สามารถสั่งผ่านเดลิเวอรี่ได้เท่านั้น อิ่มฟินกันทั้งครอบครัว เหมือนได้ไปกินที่ญี่ปุ่นเลย