Tokyo Hustler (ปิดกิจการ)

สปอร์ตบาร์สไตล์ญี่ปุ่นย่านสุขุมวิท พื้นที่ของเหล่านักสังสรรค์ระดับมืออาชีพ

ถ้าให้เปรียบโครงการ Nihonmachi เป็นทีมฟุตบอล ตำแหน่งวิงแบ๊กฝั่งขวาตัวสำคัญของสโมสรคงหนีไม่พ้น Tokyo Hustler สปอร์ตบาร์สไตล์ญี่ปุ่น ที่นอกจากจะเป็นพื้นที่แฮงเอาต์สำหรับคอบอล ภายในร้านยังมีกิจกรรมอย่างโต๊ะพูลและตู้ปาเป้าให้เหล่านักสังสรรค์ได้สนุกเต็มอรรถรสมากกว่าเดิม 

ตัวร้านให้บรรยากาศเท่ๆ แต่งโทนสีเข้ม ผนังฝั่งหนึ่งเพนท์ลายซามุไรใส่หน้ากากพร้อมประโยค “つづく” ที่ใครเป็นสายมังงะน่าจะคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพดานแต่งไฟนีออนดัดชื่อร้านภาษาญี่ปุ่นล้อมด้วยลวดลายปลาคาร์ฟสื่อถึงรอยสัก รวมถึงโซนผนังด้านบนที่ก็ได้ประดับภาพซามุไรในอิริยาบถต่างๆ

และด้วยความที่พื้นที่ร้านค่อนข้างกว้างเลยมีหลายโซนให้ได้เลือกนั่งไม่ว่าจะคู่ยันมากันเป็นกลุ่มแก๊ง แถมภายในร้านยังแบ่งโซนเป็นส่วนสันทนาการ โดยจัดมาให้สนุกกันทั้งโต๊ะพูลขนาดมาตรฐานและตู้ปาเป้า ยิ่งในช่วงค่ำจะเห็นว่าการจัดแสงของเขายังมอบบรรยากาศของความเป็นนีโอโตเกียว (Neo Tokyo) ซึงมันช่วยให้ได้ฟิลลิ่งบาร์ที่ชัดเจนขึ้นอีกด้วย 

พื้นที่กว้างขวาง มีหลายโซนให้ลูกค้าได้เลือกสรร

โต๊ะริมกระจกก็ถือว่ามุมฮอตใช้ได้

ส่วนสันทนาการจัดมาให้สนุกกันทั้งโต๊ะพูลขนาดมาตรฐานและตู้ปาเป้า

ในพาร์ทของอาหารเท่าๆ ที่พลิกหน้าเมนูจะเห็นว่ามีเสิร์ฟทั้งสไตล์ญี่ปุ่นและอเมริกัน ดังนั้นจานแนะนำของร้านจึงไม่พ้นสองสัญชาติที่ว่านี้ เริ่มที่ Hustler Salad หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่โปะหน้าด้วยคารามารี กุ้งเทมปุระ และแซลมอนรมควัน ส่วนผักสลัดนั้น โตเกียว ฮัสเลอร์ ส่วนใหญ่จะใช้อยู่ 3 ตัวด้วยกันคือเรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค อีกทั้งผักฟิลเลย์ ไอซ์เบิร์ก เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดงาญี่ปุ่นรสชาติละมุน

Hustler Salad (250 บาท)

ต่อด้วย Salmon Flower แซลมอนซาชิมิกว่า 10 คำเรียงอย่างพิถีพิถันเป็นรูปดอกไม้ ท็อปด้วยไข่แดงนกกระทาดิบ โทบิโกะ อิคุระ และวาซาบิดอง ซึ่งก่อนที่จะคีบเข้าปากแนะนำให้คลุกส่วนประกอบทุกอย่างให้เข้ากันก่อน แล้วค่อยเอาแซลมอนมาป้ายกับซอสเทอริยากิ สไปซี่ และมายองเนส ก็เป็นอันครบถ้วนพิธีกิน

Salmon Flower (220 บาท)

สำหรับคนที่ชอบกินโรลที่นี่ก็มีเมนูเด็ดให้สั่งคือ Tokyo Hustler Roll โรลสอดไส้ซอสฟัวกราส์ ไข่หวาน และแตงกวา ท็อปหน้าด้วยแซลมอนเบิร์นไฟ เกล็ดเทมปุระ และโทบิโกะแบบพูนๆ แล้วตบท้ายด้วยซอสสไปซี่มาโยรสชาติกลมกล่อม

Tokyo Hustler Roll (420 บาท)

หรือจะลองเป็นอาหารแนวลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่น เช่น Burger Australian Beef Cheese พิเศษตั้งแต่ขนมปังโชยุ (Black Ink Shoyu) ประกบเนื้อออสเตรเลียนเกรดเยี่ยม และซอสบาร์บีคิวสูตรเฉพาะจากพริก 3 ชนิด คือ พริกแห้ง พริกไทย และพริกชิโปต์เล (Chipotle Pepper)  

Burger Australian Beef Cheese (280 บาท)

ล่าสุดกับเมนูของร้านอย่างจาน Pasta Carbonara Tempura ที่ทางร้านใช้เป็นกุ้งขาวไซส์ใหญ่ลงทอดกรอบๆ กับแป้งเทมปุระ กินคู่กับพาสต้าคาโบนาราที่แนะนำให้คลุกกับไข่แดงก่อนถึงจะอร่อยเข้ากัน 

Pasta Carbonara Tempura