• Bookmark
  • Share

Ranichi (รันอิจิ)

  • Bookmark
  • Share
  • 11:30-14:00 น., 17:00-22:00 น.

  • Ranichi
  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 3,000 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = น้อย
    เนื้อวัว = มาก
    ผัก = ปานกลาง
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    มาก
  • Special
    Special
    มีเชฟญี่ปุ่น
    มีสาเกมากกว่า 10 ชนิด
    มีโชจูมากกว่า 10 ชนิด

สัมผัสละลายในปากกับเนื้อวากิว A5 จากแหล่งที่ดีที่สุด

Ranichi (รันอิจิ) ร้านยากินิกุย่านทองหล่อที่เสิร์ฟทั้งเนื้อโคขุนของไทยและวากิวนำเข้าระดับ A5 กำกับคุณภาพโดยร้านดาวมิชลิน Yoroniku ชื่อดังแห่งกรุงโตเกียว

ไม่ให้บอกว่าร้านนี้เขาจริงจังเรื่องเนื้อได้ยังไง ในเมื่อชื่อRanichiยังหมายถึงเนื้อส่วนที่อยู่ระหว่างสันนอกกับสะโพก ในขณะเกณฑ์การคัดเลือกวัตถุดิบยังเน้นว่าเนื้อจะต้องเป็นวากิว Marbling Score ระดับ A5 ที่สำคัญเป็นเนื้อแหล่งเดียวกันกับที่ Yoroniku ร้านดาวมิชลินใช้ และโดยส่วนใหญ่เป็นเนื้อนำเข้าแบบไม่ผ่านคนกลางจากจังหวัดยามากาตะ

Ranichi (รันอิจิ) ร้านยากินิกุย่านทองหล่อร้านอยู่ชั้น 2 หาง่ายเพียงแค่สังเกตป้ายร้าน

ด้านบรรยากาศก็ดีงามรองรับลูกค้าได้กว่า 60 ที่นั่ง แบ่งออกเป็นสองฝั่งสำหรับที่นั่งปกติและแบบหย่อนขาตามแบบร้านอาหารญี่ปุ่น ตัวร้านเน้นโทนสีดำแต่งขรึมเสริมด้วยงานไม้ช่วยให้ลุคของร้านกลมกล่อมน่าเข้า ที่ตั้งก็หาง่ายเพราะอยู่ใกล้ๆ กับตลาดปลาญี่ปุ่นใจกลางกรุงเทพฯ อย่าง Thonglor Nihon Ichiba

บรรยากาศภายในร้าน Ranichi (ทองหล่อ)ภายในร้านมีที่นั่งทั้งแบบปกติรองรับลูกค้า 2-4 คน
ที่นั่งแบบหย่อนขาสไตล์ญี่ปุ่น ของร้าน Ranichiและที่นั่งแบบหย่อนขาสไตล์ญี่ปุ่น

แน่นอนว่ามาร้านยากินิกุก็ต้องลองเนื้อของร้านสักหน่อย เริ่มด้วยจานแรก Truffle Wagyu Yukke ที่ทางร้านใช้เป็นเนื้อวากิวนำเข้าส่วนเซอร์ลอยน์บด ปรุงด้วยซอสที่เชฟผสมมาเฉพาะออกรสหวานเล็กๆ ท็อปหน้าด้วยไข่แดงสด ทรัฟเฟิลสไลซ์ และแอปเปิ้ลหั่นเต๋าที่เข้ามาช่วยเพิ่มมิติให้กับรสชาติ ดูจากหน้าตาหลายคนอาจจะรู้สึกไม่กล้าชิมเพราะเป็นเนื้อแรร์ แต่ถ้าได้ลองแล้วคุณจะพบว่าถ้าใช้เนื้อดีคุณภาพแน่นจะไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เลย

เมนูร้าน Ranichi (ทองหล่อ) - Truffle Wagyu YukkeTruffle Wagyu Yukke (590 บาท)

ถัดมาเป็น Omakase Wagyu 3 Kind Plate ซึ่งเชฟจะเลือกส่วนของเนื้อมาให้เราได้ย่างเอง อย่างคราวนี้เป็นเนื้อวากิวส่วนหัวไหล่ไล่ตามระดับความนุ่มและไขมันแทรก อันได้แก่ Maru คือเนื้อตรงส่วนโคนไหล่ มอบเนื้อสัมผัสนุ่มละลายในปาก ดูได้จากลายหินอ่อนของเนื้อ ถัดมาคือ Kata Rosu เป็นเนื้อส่วนใกล้กับข้อพับ กับ Kata Sankaku คือเนื้อส่วนที่มีไขมันแทรกน้อยที่สุด อีกทั้งเรายังสามารถรีเควสกับทางร้านว่าตัวเนื้อที่สั่งมาจะหมักกับซอสหรือเกลือน้ำมันงาได้เลยตามชอบใจ

เมนูร้าน Ranichi (ทองหล่อ) - Omakase Wagyu 3 Kind PlateOmakase Wagyu 3 Kind Plate (999 บาท)
แนะนำว่าย่างไม่ต้องนาน เพราะรสชาติของเนื้อจะเด่นชัดยามที่สุกในระดับมีเดียมแรร์

ส่วนจานซิกเนเจอร์ที่ไม่สั่งมากินไม่ได้คือ Silky Rosu ที่ก่อนจะคีบเนื้อเข้าปากต้องผ่านขั้นตอน ตั้งแต่การนำเนื้อวากิวส่วนเซอร์ลอยน์แผ่นใหญ่ไปแกว่งกับซุปสุกียากี้สูตรของร้านให้พอสะดุ้งสัก 2 นาที ก่อนที่จะนำขึ้นมา ฝนทรัฟเฟิลใส่ (ในกรณีที่ใส่ทรัฟเฟิลต้องจ่ายเพิ่ม 600 บาท)  แล้วยีกับไข่แดงให้ขึ้นฟอง เท่าที่ได้ลองจะบอกว่ายิ่งฟองเยอะเท่าไหร่เนื้อคำนั้นเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าคำว่าฟิน 

เมนูร้าน Ranichi (ทองหล่อ) - Silky RosuSilky Rosu (380 บาท) (ถ้าสั่งพร้อม Truffle Slice ต้องบวกเพิ่มอีก 600 บาท)
เนื้อเซอร์ลอยน์แผ่นใหญ่ลงแกว่งกับซุปสุกียากี้สูตรของร้าน Ranichi (ทองหล่อ)เนื้อเซอร์ลอยน์แผ่นใหญ่ลงแกว่งกับซุปสุกียากี้สูตรของร้าน
เคล็ดลับที่ช่วยให้สัมผัสของเนื้อนุ่มน่ารับประทานก็คือการยีไข่ให้เกิดฟอง
ทรัฟเฟิลของที่ร้าน Ranichi (ทองหล่อ) ล้วนนำเข้ามาจากประเทศอิตาลี ทรัฟเฟิลของที่ร้านล้วนนำเข้ามาจากประเทศอิตาลี 

Map