• Bookmark
  • Share

Honmono SuShi (ฮอนโมโนะ ซูชิ)

  • Bookmark
  • Share

สาขาทองหล่อ

  • Budget
    Budget (ราคาโดยเฉลี่ย/คน)
    ต่ำกว่า 3,000 บาท
    หมายเหตุ : ราคาอาหารมื้อเย็น ที่ไม่รวมเครื่องดื่ม
  • Imports
    Imports (จำนวนวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่น)
    ปลา = มาก
    เนื้อวัว = มาก
    ผัก = มาก
  • Japanese
    Japanese (ปริมาณลูกค้าชาวญี่ปุ่น)

    น้อย
  • Special
    Special
    มีห้องส่วนตัว
    มีสาขาที่ญี่ปุ่น
    มีสาเกมากกว่า 10 ชนิด
    มีโชจูมากกว่า 10 ชนิด

ปรุงสดจานต่อจานจากฝีมือของเชฟกระทะเหล็ก

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลาด Honmono SuShi ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่เปิดให้บริการอีกทั้งสร้างความประทับใจผ่านมื้ออาหารให้กับชาวกรุงฯมานานกว่า 8 ปี โดยมีหัวหอกสำคัญอย่างเชฟกระทะเหล็กบุญธรรมและเชฟบัณฑูรกูรูอาหารญี่ปุ่นที่มาคอยสร้างสรรค์เมนูรวมถึงควบคุมคุณภาพวัตถุดิบกันแบบจานต่อจาน

ซอยทองหล่อ 23 คือที่ตั้งของ Honmono SuShi สาขาแรก ก่อนจะขยับขยายกระจายความอร่อยในอีก 6 สาขาต่อมาเพื่อให้ลูกค้าได้อิ่มอร่อยกันตามสะดวกมากขึ้น อีกอย่างที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักของอาหารญี่ปุ่นก็คือความสดใหม่ของวัตถุดิบ ซึ่งที่นี่นำเข้าปลาเองทั้งยังเป็นตัวกลางส่งให้เจ้าอื่นๆ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าทุกวัตถุดิบที่ถูกปรุงออกมาเป็นเมนูล้วนผ่านการคัดแล้วคัดอีกจนกว่าจะได้สิ่งที่ดีที่สุดมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าคนสำคัญ

ใครอยากนั่งละเลียดเมนูซูชิคนเดียว ต้องโซนบาร์นี่เลย

เท่าๆ ที่คิจิสำรวจรายการอาหารของที่ร้านพบว่านอกจากซูชิหน้าต่างๆ ที่เป็นตัวชูโรง เมนูอื่นๆ ของเขาก็น่าสนใจจนทำให้ใครหลายๆ คนอาจลังเลได้ในหลายๆ จังหวะ ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น คิจิเลยขออาสานำเสนอ 5 เมนูซิกเนเจอร์ของ Honmono SuShi ที่บนโต๊ะถ้าขาดจานใดจานหนึ่งไปก็เหมือนขาดเธอเหมือนขาดใจเลยล่ะ

เริ่มจานแรกด้วย Matsu Sushi เซ็ตซาชิมิที่ยกขบวนกันมาแต่ของอร่อยไม่ว่าจะเป็นปลาเนื้อขาวและเนื้อแดง ไล่ไปตั้งแต่คัมปาจิ, ฮิราเมะ, ฮามาจิ, แซลมอน, โอโทโร่, ทูน่า, อมาอิบิ (กุ้งหวาน) และโฮตาเตะ ซึ่งไม่เพียงแต่จะสดถูกใจเชฟยังแล่มาชิ้นใหญ่ให้เราได้ฟินกันแบบเต็มๆ คำ ถัดมาที่อีกเมนูคือ Honmono Salad มิกซ์สลัดที่มีทั้งผักกาดแก้ว, เรดโอ๊ค, กรีนโอ๊ค, พริกหวาน ไปจนถึงมะเขือเทศ ไม่พอเพราะท็อปมาด้วยกุ้งต้ม, ปลาหมึกยักษ์, หอยปีกนก, แซลมอน, ทูน่า, ฮามาจิ และอิคุระ ก่อนจะราดเดรสซิ่งสูตรเฉพาะที่มอบรสสัมผัสสดชื่นๆ ยามรับประทาน

Matsu Sushi (2,500 บาท)

ส่วนซูชิประเภทโรลก็ต้อง Foie Gras Avocado Rolls ด้วยรสชาติมันๆ ของอะโวคาโดที่ลงตัวกับฟัวกราส์และซอสหวาน บวกกับเทกซ์เจอร์สนุกๆ ระหว่างเคี้ยวที่เชฟเสริมเข้ามาอย่างโทบิโกะและอิคุระ เอาเป็นว่าจานนี้กินง่ายเคี้ยวเพลินแน่นอน เปลี่ยนบรรยากาศมาซดน้ำซุปร้อนๆ เคล้าเนื้อปูหวานๆ กันบ้าง ซึ่ง Taraba Kani Mami Nabe ทางร้านจะเสิร์ฟมาในหม้อกระดาษที่ทำมาจากเยื่อต้นไผ่ ภายในอัดแน่นไปด้วยของอร่อยมากมาย อาทิ ปูทาราบะกล้ามใหญ่นำเข้าจากฮอกไกโด ผักและเห็ดนานาชนิด อีกทั้งเต้าหู้ รวมถึงซุปรสชาติกลมกล่อม และถ้าได้กินคู่กับพอนสึก็จะยิ่งฟินไปอีกหลายเลเวลเลยล่ะ

Foie Gras Avocado Rolls (550 บาท)

Taraba Kani Mami Nabe (1,250 บาท)

จบมื้อด้วยจานไฮไลต์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้อย่าง Honmono Special 8Kan ที่แต่ละคำต่างถูกครีเอทออกมาให้มีความแตกต่าง (แต่เป็น 8 คำที่ลงตัว) ทั้งเนื้อสัมผัสและรสชาติ โดยจานนี้เชฟอยากให้เริ่มจากปลาเนื้อขาวเช่นฮามาจิก่อนแล้วคำท้ายๆ ค่อยเป็นปลาที่มีไขมันแทรกอย่างโอโทโร่หรือแซลมอน และแม้ว่า 8 คำจะทำหน้าที่ส่งความสุขให้กับผู้กินได้อย่างไม่มีบกพร่อง แต่คำที่ว้าวจนอยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสประสบการณ์นี้เหมือนกับคิจิก็คือซูชิหน้าปลามาไดที่ท็อปมาด้วยเอ็นกาวะเบิร์นไฟ มะนาวฝานบาง เกลือ และยูซุ เอาเป็นว่าใครที่ไปลองจะต้องรู้สึกว้าวเหมือนกันกับเรา และไม่ยอมจบที่คำเดียวแน่นอน รับประกัน!

Honmono Special 8Kan (2,600 บาท)

ภาพหมู่ความอร่อยทั้ง 5 เมนู

Map